วี (เครื่องเล่นเกม)
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
วี (Wii) เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมรุ่นที่ 5 ของบริษัทนินเท็นโด ภายใต้ชื่อรหัสพัฒนาว่า เรฟโวลูชัน (Revolution) ซึ่งเป็นรุ่นที่จะออกมาถัดจากเครื่อง เกมคิวบ์ โดยที่จอยแพดที่ใช้ควบคุม จะเป็นรูปทรงเหมือน รีโมตโทรทัศน์ และเกมที่ใช้เล่นก็จะใช้การควบคุม โดยการเคลื่อนไหวจอยแพดนี้ ไปในทิศทางต่าง ๆ อีกด้วย
ผู้พัฒนา | นินเท็นโด |
---|---|
ผู้ผลิต | ฟ็อกซ์คอนน์ |
ชนิด | เครื่องเล่นวิดีโอเกม |
ยุค | ยุคที่เจ็ด |
วางจำหน่าย | 19 พฤศจิกายน 2006 |
ยอดจำหน่าย | ทั่วโลก: 70.93 ล้าน (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2010) [1] (details) |
สื่อ | แผ่นดิสก์เกมวีขนาด 12 ซม. แผ่นดิสก์เกมคิวบ์ ขนาด 8 ซม. |
ซีพียู | ไอบีเอ็ม พาวเวอร์พีซี -based[2] "Broadway" |
สื่อบันทึกข้อมูล | หน่วยความจำภายใน 512 MB SD card, SDHC card Nintendo GameCube Memory Card |
กราฟิกการ์ด | ATI "Hollywood" |
ที่บังคับ | วีรีโมต, วีบาลานซ์บอร์ด, นินเทนโด เกมคิวบ์ คอนโทลเลอร์, นินเทนโด ดีเอส |
การเชื่อมต่อ | ไวไฟ บลูทูธ 2 × ยูเอสบี 2.0[3] แลน โดยผ่านตัวแปลงจากยูเอสบี |
บริการออนไลน์ | นินเท็นโดไวไฟคอนเน็กชัน, วีคอนเนกต์24, วีช็อปแชนแนล |
เกมที่ขายดีที่สุด | วีสปอตส์ (pack-in, except in Japan and South Korea) 60.69 ล้าน (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2009) [4] วีเพลย์, 26.71 ล้าน (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2009) [4] |
การรองรับเครื่องรุ่นก่อน | นินเทนโด เกมคิวบ์ |
รุ่นก่อนหน้า | เกมคิวบ์ |
รุ่นถัดไป | วียู |
เครื่องเล่นวีสามารถเล่นเกมของ เกมคิวบ์ได้ทันที และยังสามารถเล่นเกมของแฟมิคอม ซูเปอร์แฟมิคอม และ นินเท็นโด 64 ได้ผ่านระบบเกมที่สามารถ ดาวน์โหลดผ่านอินเทอร์เน็ต
ประวัติ
แก้เครื่องเล่นวี เริ่มถูกคิดค้นในปี พ.ศ. 2544 ซึ่งเป็นเวลาที่ เครื่องเล่นเกมคิวบ์เปิดตัว จากการสัมภาษณ์ของ นายชิเงรุ มิยาโมโตะ เกี่ยวกับแนวคิดในการมุ่งเน้น ไปที่วิธีใหม่ ๆ สำหรับการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่น "เป็นที่ยอมรับกันว่า พลังประมวลผลของเครื่องเล่นเกม ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ของเครื่องเล่นเกม เราไม่สามารถมีเครื่องทรงพลังหลาย ๆ เครื่อง แข่งขันกันเอง มันก็เหมือนกับมีแต่ ไดโนเสาร์ดุร้าย ที่ต่อสู้กันเอง จนสูญพันธุ์ไปหมด"[5]
สองปีต่อมาโปรแกรมเมอร์เกมเอนจินและเกมดีไซเนอร์ ได้ร่วมกันพัฒนาแนวคิดนี้ ก่อน พ.ศ. 2548 ก็มีการพัฒนา ที่บังคับเป็นผลสำเร็จ แต่งานเปิดตัวในปีนั้นได้ถูกยกเลิกไป นายมิยาโมโต้กล่าวว่า "เรายังมีปัญหาที่ต้องแก้ไข เราจึงตัดสินใจไม่เปิดเผยที่บังคับ แต่เราจะแสดงแค่ตัวเครื่องเท่านั้น"[5] ต่อมาประธานบริษัทนินเทนโด นายซาโตรุ อิวาตะ จึงได้แสดงวีโมต ในเดือนกันยายนที่โตเกียวเกมโชว์[6]
เครื่องเล่นนินเท็นโด ดีเอส ได้ถูกกล่าวว่า เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ของการออกแบบเครื่องเล่นวี ดีไซเนอร์ เคนอิจิโร อาชิดะ ย้ำว่า "เรามีเครื่องเล่นนินเทนโด ดีเอส ในใจเวลาเราออกแบบเครื่องเล่นวี เราคิดจะใช้จอสัมผัส แบบเดียวกัน และยังสร้างเครื่องต้นแบบออกมาด้วย" ในที่สุดความคิดนี้ก็ถูกปฏิเสธ เนื่องจากมันจะทำให้ เครื่องเกมทั้งสองเหมือนกันเกินไป นายมิยาโมโต้กล่าวไว้ด้วยว่า "ถ้าเครื่อง ดีเอส ไม่ประสบความสำเร็จ เราคงจะไม่ผลิตเครื่องเล่นวีออกมา" [5]
ชื่อ
แก้เครื่องเล่นวี รู้จักในชื่อโค้ดเนมว่า "รีโวลูชัน" (Revolution) จนกระทั่งถึงวันที่ 27 เมษายน 2549 ก่อนงานประชุมเกม E3 [7] บริษัทนินเทนโดระบุว่าชื่อของเครื่องคือ "วี" ไม่ใช่ "นินเทนโดวี" เครื่องเล่นวี เป็นเครื่องเล่นเกมเครื่องแรก ของนินเทนโดที่ทำตลาด นอกประเทศญี่ปุ่น โดยไม่มีชื่อบริษัท เป็นเครื่องหมายการค้า นินเทนโดสะกด "Wii" ด้วยตัว "i" ตัวเล็กทั้งสองตัว โดยต้องการให้คล้ายกับ คนสองคนยืนอยู่ข้าง ๆ กัน แสดงถึงผู้เล่นที่มารวมกัน และอาจแสดงถึง ที่บังคับของเครื่องได้อีกด้วย [8] บริษัทได้ให้เหตุผลหลายอย่าง ในงานประกาศชื่อวี แต่ที่เป็นที่รู้จักดีที่สุดก็คือ: วีฟังดูเหมือนกับ 'we' (พวกเรา) ซึ่งเน้นว่า เป็นเครื่องเล่นเกมสำหรับทุกคน วีเป็นชื่อที่จดจำได้ง่าย สำหรับคนทั่วโลก ไม่ว่าเขาจะพูดภาษาอะไรก็ตาม ไม่มีความสับสน ไม่ต้องมีตัวย่อ แค่วี[8]
แม้ว่านินเทนโดจะได้อธิบายถึงที่มาของชื่อไปแล้ว นักพัฒนาเกมบางคน และนักข่าวก็ยังกล่าวถึง การเปลี่ยนชื่อในแง่ลบ พวกเขาชอบชื่อ "รีโวลูชัน" มากกว่าชื่อ "วี" [9] และกลัวว่า ชื่อวีจะแสดงถึง ความไม่เอาจริงเอาจัง ของเครื่องเล่นเกม [10] สำนักข่าว บีบีซี รายงานหลังจาก วันประกาศชื่อเครื่องว่า มีการล้อเลียนชื่อปรากฏอยู่ ทั่วอินเทอร์เน็ต [11] ประธานบริษัทนินเทนโดในอเมริกา เรกจี้ ฟิลส์-เอเม่ ยอมรับถึงผลตอบสนอง ในช่วงแรก ทั้งยังอธิบายการเปลี่ยนแปลงอีกว่า:
ชื่อ รีโวลูชัน ไม่ได้เป็นชื่อที่เหมาะสมที่สุด มันเป็นชื่อที่ยาว และในบางสังคม มันยังอ่านได้ยากอีกด้วย เราจึงต้องการชื่อที่สั้น ตรงประเด็น ง่ายต่อการออกเสียง และไม่ซ้ำใคร นั่นเป็นแนวคิดในการสร้างชื่อ วี ขึ้นมา[12]
นินเท็นโดปกป้องการเลือกชื่อ วี แทนที่ รีโวลูชัน และตอบโต้นักวิจารณ์ทั้งหลายว่า "มีชีวิตอยู่กับมัน หลับไปกับมัน กินกับมัน เดินหน้าไปกับมัน"[13]
งานเปิดตัว
แก้ในวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2549 นินเทนโดได้ประกาศข้อมูลการจำหน่ายของที่ญี่ปุ่น, อเมริกาเหนือและใต้, ออสเตรเลเชีย (โอเชียเนีย), เอเชีย และยุโรป รวมไปถึงวันที่ขาย ราคา และจำนวนเครื่อง ก่อนหน้านั้นนินเท็นโดได้เปิดเผยว่ามีการวางแผนที่จะผลิต เครื่องเล่นเกม 6 ล้านเครื่อง และเกม 17 ล้านเกม ในช่วงปีงบประมาณ ซึ่งปิดยอดวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2550[14] และยังบอกอีกว่า คาดว่าจะสามารถผลิต เครื่องเล่นเกมได้มากกว่า 4 ล้านเครื่องก่อนสิ้นปี พ.ศ. 2549[15] มีการประกาศว่า เครื่องเล่นเกมส่วนใหญ่จะถูกส่งไปที่อเมริกา [16] และเกมทั้งหมด 33 เกมจะเปิดขายก่อนสิ้นปี 2549 [17] ตามรายงาน ประเทศอังกฤษได้ประสบปัญหา ขาดแคลนเครื่องเล่นเกม โดยร้านค้าต่าง ๆ และร้านออนไลน์ ไม่สามารถจำหน่าย ให้ลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้า ได้ครบจำนวนในวันเปิดตัว 8 ธันวาคม พ.ศ. 2549[18] ในเดือนมีนาคม 2550 ร้านค้าบางร้านในอังกฤษ ยังคงประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องเล่นเกม [19] ในเดือน มิถุนายน 2550 ความต้องการซื้อเครื่องเล่นเกม ยังคงมากกว่าจำนวนเครื่องที่ได้รับในประเทศอเมริกา [20]
นินเทนโดประกาศว่า จะมีการเปิดตัวเครื่องเล่นเกมใน เกาหลีใต้ ในวันที่ 26 เมษายน 2551 และจีนภายในปี 2551 [21][22][23]
ตัวเครื่อง
แก้เครื่องเล่นวี เป็นเครื่องเล่นเกมที่มีขนาดเล็กที่สุด ของนินเทนโด ตัวเครื่องมีขนาดกว้าง 44 มม (1.73 นิ้ว) , สูง 157 มม (6.18 นิ้ว) , หนา 215.4 มม (8.48 นิ้ว) ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับกล่องดีวีดี 3 กล่องรวมกัน ขาตั้งที่มากับเครื่อง มีขนาดกว้าง 55.4 มม (2.18 นิ้ว) , สูง 44 มม (1.73 นิ้ว) และ หนา 225.6 มม (8.88 นิ้ว) รวมทั้งหมดหนัก 1.2 กก (2.7 ปอนด์)[24] นับเป็นเครื่องเล่นเกม ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของ เครื่องเล่นเกมรุ่นที่ 7 ตัวเครื่องสามารถวางได้ ทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง รหัสของชิ้นส่วนประกอบ และ อุปกรณ์เพิ่มเติม ขึ้นต้นด้วย "RVL" มาจากโค้ดเนม "รีโวลูชัน" (Revolution)[25]
ด้านหน้าของตัวเครื่องประกอบด้วย ช่องใส่แผ่นดิสก์เรืองแสง ซึ่งสามารถใส่แผ่นดิสก์วี ขนาด 12 ซม หรือ แผ่นดิสก์เกมคิวบ์ แสงสีฟ้าในช่องใส่แผ่นดิสก์จะเรืองแสง เป็นเวลาสั้น ๆ เมื่อเปิดเครื่อง และวูบวาบเมื่อมีข้อมูลเข้ามาจาก WiiConnect24. หลังจากเฟิร์มแวร์อัปเดต เวอร์ชัน 3.0 ช่องใส่แผ่นดิสก์จะมีแสงทุกครั้ง เมื่อใส่หรือถอดแผ่นดิสก์ เวลาไม่มีข้อมูลเข้า หรือเวลาเล่นเกม จะไม่มีแสงที่ช่องใส่แผ่นดิสก์ ยูเอสบี พอร์ท 2 อันอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง ช่องใส่ เอสดีการ์ด ถูกซ่อนอยู่ด้านหลังฝาปิด ด้านหน้าของตัวเครื่อง แผ่นเอสดีการ์ด สามารถใช้สำหรับอัปโหลด รูปภาพ หรือใช้เก็บสำรอง เซฟเกม และ เกมเวอร์ชัวคอนโซล เนื่องจากระบบการจัดการสิทธิทางดิจิทัล ข้อมูลของเวอร์ชัวคอนโซล จะนำไปใช้กับเครื่องอื่นไม่ได้ ใช้ได้เฉพาะเครื่องที่ ดาวน์โหลดมาเท่านั้น [26] ในการใช้ช่องใส่เอสดีการ์ด สำหรับเซฟเกม ต้องมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ก่อนด้วยการดาวน์โหลดแพทช์ ดังนั้นเครื่องที่ไม่ได้ต่อกับอินเทอร์เน็ต ก็จะไม่สามารถเซฟเกมไว้ใน เอสดีการ์ดได้ เอสดีการ์ดสามารถใช้สร้างเพลงภายในเกม จากไฟล์เอ็มพี3 อย่างเช่นในเกม Excite Truck และยังสร้างเพลงสำหรับสไลด์โชว์ ในโฟโต้แชนแนลได้อีกด้วย นินเทนโดได้แสดงตัวเครื่อง และวีรีโมท ในสีขาว, ดำ, เงิน, เขียวมะนาว, และแดง [27][28] แต่ที่มีขายขณะนี้มีแค่สีขาว นายชิเงรุ มิยาโมโตะ ย้ำว่าสีอื่น ๆ จะมีขายเมื่อ ไม่มีปัญหาผลิตไม่ทันแล้ว [29]
ชุดเปิดตัวเครื่องเล่นวี ประกอบด้วย ตัวเครื่อง ขาตั้งสำหรับตั้งตัวเครื่องในแนวตั้ง, วีโมต 1 อัน, วีเซนเซอร์บาร์ 1 อัน, ขาตั้งเซนเซอร์บาร์ 1 อัน, พาวเวอร์อแดปเตอร์ 1 อัน, ถ่านไฟฉาย AA 2 ก้อน, สายต่อวิดีโอชนิด composite 1 เส้น, หนังสือคู่มือการใช้งาน, และ (ยกเว้นที่ขายในญี่ปุ่น) เกมวีสปอร์ต
ผู้ประกาศข่าวของนินเทนโดกล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวเครื่องเล่นวี ที่สามารถเล่นดีวีดีได้ในปี 2550 [30] แม้ว่าจะใช้แค่ซอฟต์แวร์ เท่านั้นก็สามารถเล่นดีวีดีได้ มัน"ต้องมีมากกว่าแค่เฟิร์มแวร์อัพเกรด" จึงไม่สามารถทำผ่านเครือข่าย WiiConnect24 ได้ [30]
วีโมต
แก้วีรีโมต (บางครั้งเรียกว่า วีโมต (Wiimote) ซึ่งแปลงมาจากคำว่า รีโมต (remote) ) เป็นที่บังคับหลักของเครื่องวีที่ใช้ในเกมหลัก ๆ ของเครื่อง และมีอยู่ในชุดการขายพื้นฐาน ประกอบด้วยสองส่วนคือ วีรีโมต มีรูปทรงเหมือนรีโมตโทรทัศน์ โดยมีคุณสมบัติหลักคือมีเซนเซอร์ในการตรวจจับการเคลื่อนไหว และควบคุมการเล่นเกมโดยการเคลื่อนไหวรีโมตนี้ไปในทิศทางต่าง ๆ และต้องวางตัวตรวจจับความเคลื่อนไหว (Wii Sensor Bar) ไว้ด้านบนของโทรทัศน์ที่ใช้เล่น และจอยอนาล็อกหรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่านุนชะคุ (Nunchuk) ใช้เชื่อมต่อกับวีรีโมต ใช้ในการบังคับทิศทางต่าง ๆ
สเป็กเครื่อง
แก้นินเทนโดได้ประกาศ รายละเอียดเพียงเล็กน้อย เกี่ยวกับระบบของวี แต่ข้อมูลสำคัญ ๆ บางอันได้รั่วไหล มาจากสำนักข่าว แม้ว่ารายงานเหล่านี้ จะไม่ได้รับการยืนยัน อย่างเป็นทางการ มันพอจะบอกได้ว่า ตัวเครื่องเป็นการต่อเติม หรือการพัฒนามาจาก เครื่องเล่นเกมคิวบ์ ยิ่งไปกว่านั้น จากการวิเคราะห์พบว่า เครื่องเล่นวีมีความสามารถ ประมาณ 1.5 ถึง 2 เท่าของเครื่องรุ่นก่อน [2][31]
หน่วยประมวลผล: รายงานว่า† มีความเร็วที่ 729 MHz [32]
หน่วยความจำ:
พอร์ท และความสามารถอื่น ๆ :
|
ระบบจัดเรตติ้งเนื้อหา: ที่เก็บข้อมูล:
วิดีโอ:
เสียง:
|
ที่บังคับเพิ่มเติม
แก้ที่บังคับเพิ่มเติม มักใช้เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นให้สมจริงยิ่งขึ้น เช่น ที่บังคับในเกมขับรถไฟ พวงมาลัยรถยนต์ (Wii Wheel) หรือที่ลั่นไก (Wii Zapper) ที่ใช้ต่อเข้ากับตอนล่างของวี รีโมต ใช้ในการยิงปืน
-
วี รีโมตและอนาล็อกสติ๊ก (Nunchuk)
-
ที่ลั่นไก (Wii Zapper) ที่ต่อกับวี รีโมต
-
ที่บังคับของ วี รุ่นธรรมดา (Classic Controller)
ปัญหาด้านเทคนิค
แก้เฟิร์มแวร์อัปเดต อันแรกทาง WiiConnect24 มีผลทำให้ เครื่องบางเครื่องใช้งานไม่ได้ เจ้าของเครื่องต้องส่งเครื่อง กลับไปให้นินเทนโดซ่อม (ถ้าต้องการเก็บเซฟเกมเอาไว้) หรือว่าเปลี่ยนเครื่องใหม่ [41]
ปัญหาลิขสิทธิ์
แก้บริษัท อินเตอร์ลิงก์ อิเล็กทรอนิกส์ (Interlink Electronics) ยื่นฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์ต่อนินเทนโด โดยชี้ไปที่การทำงานของ วีรีโมต โดยกล่าวว่าทำให้บริษัท สูญเสียค่าลิขสิทธิ์ ลดยอดขาย และขาดกำไร เนื่องจากการละเมิดลิขสิทธิ์ ของนินเทนโด [42] ห้างหุ้นส่วน อนาสเคป (Anascape Ltd) บริษัทในเท็กซัส ก็ยื่นฟ้องร้องต่อนินเทนโด เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ [43] บริษัท กรีนเวลลิ่ง (Green Welling LLP) ฟ้องร้องต่อนินเทนโด เรื่องสายรัดข้อมือที่ขาดง่าย [44] บริษัทในเท็กซัสชื่อ โลนสตาร์ อินเวนชัน (Lonestar Inventions) ก็ฟ้องร้องนินเทนโด โดยกล่าวว่าบริษัท ลอกเลียนแบบลิขสิทธิ์ของบริษัท ในการออกแบบตัวเก็บประจุ และใช้ในเครื่องเล่นวี [45]
มีบริษัทจีนชื่อ LetVGO ผลิตเครื่องเล่นเกมที่ใช้จอยรีโมต คล้ายกับ วีโมต มีเกมในตัว 12 เกม และใช้ CPU แบบง่าย ๆ ความเร็ว 2.4 GHz โดยใช้ชื่อว่า Vii ซึ่งในขณะนี้มีขายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น และยังไม่ถูก Nintendo ฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์[46][47]
ต่อมามีเครื่อง Wii เลียนแบบอีกรุ่นหนึ่ง[48] ซึ่งรุ่นนี้มีการรุกจำหน่ายในญี่ปุ่นด้วย โดยใช้ชื่อว่า Sport Vii โดยมีเกมเก็บอยู่ในตลับเกม รูปร่างคล้ายตลับ เกมบอยแอดวานซ์
วีบาลานซ์บอร์ด
แก้วีบาลานซ์บอร์ด (Wii Balance Board) เป็นอุปกรณ์สำหรับทรงตัวซึ่งจะมีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของเท้าผู้ เล่นรวมไปถึงตรวจจับสมดุลของน้ำหนักเท้าทั้งสองข้างด้วย เพื่อนำไปใช้ควบคุมการเล่นเกมที่ต้องอาศัยการทรงตัวต่าง ๆ อย่างเช่นเกม WiiFit เกมออกกำลังกายที่จะทำออกมาพร้อมกับกระดานทรงตัวนี้
วีโมชันพลัส
แก้วีโมชันพลัส (Wii Motion Plus) เป็นอุปกรณ์เสริมของ วีรีโมต ช่วยทำให้มีความแม่นยำมากขึ้นแต่จะมีผลกับเกมใหม่ ๆ ที่รองรับเท่านั้นจะวางขายในวันที่ 8 มิถุนายน 2009 พร้อมกับเกม วีสปอร์ตรีสอร์ท (Wii Sports Resort)
อ้างอิง
แก้- ↑ "Consolidated Financial Highlights" (PDF). Nintendo. 2010-03-31. p. 23. สืบค้นเมื่อ 2010-05-07.
- ↑ 2.0 2.1 "Wii: The Total Story". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-12-18. สืบค้นเมื่อ 2006-11-20.
- ↑ McDonough, Amy. "Wii Get It Now: Technical Specs from 1UP.com". 1up.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-22. สืบค้นเมื่อ 2008-05-02.
- ↑ 4.0 4.1 "Financial Results Briefing for the Six-Month Period ended December 2009" (PDF). Nintendo. 2009-10-31. p. 11. สืบค้นเมื่อ 2010-01-29.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 Kenji Hall. "The Big Ideas Behind Nintendo's Wii". BusinessWeek. สืบค้นเมื่อ 2007-02-02.
- ↑ Sinclair, Brendan; Torres, Ricardo (September 16, 2005). "TGS 2005: Iwata speaks". GameSpot. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2007. สืบค้นเมื่อ September 24, 2006.
- ↑ "Nintendo Revolution Renamed To Nintendo Wii". Console Watcher. Console Watcher. สืบค้นเมื่อ 2006-11-03.
- ↑ 8.0 8.1 "Breaking: Nintendo Announces New Revolution Name - 'Wii'". Gamasutra. CMP. สืบค้นเมื่อ 2006-09-16.
- ↑ Parmy Olson. "Wii Reactions: Developers Comment". Forbes. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-25. สืบค้นเมื่อ 2007-03-10.
- ↑ "Iwata's Nintendo Lampooned for 'Wii'". BBC News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-19. สืบค้นเมื่อ 2007-03-10.
- ↑ "Nintendo name swap sparks satire". BBC. สืบค้นเมื่อ 2007-03-14.
- ↑ Donahoe, Michael; Bettenhausen, Shane (July 2006). "War of the Words". EGM. p. 25.
- ↑ Casamassina, Matt (April 27, 2006). "Nintendo Talks to IGN about Wii". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 21, 2007. สืบค้นเมื่อ March 14, 2007.
- ↑ "Nintendo Co., Ltd. Corporate Management Policy Briefing". Nintendo. สืบค้นเมื่อ 2006-11-11.
- ↑ Bozon, Mark (2006-09-26). "Nintendo Sets the Record Straight". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-23. สืบค้นเมื่อ 2007-09-24.
- ↑ "Nintendo to Sell Wii Console in November". Gadget Guru. Associated Press. สืบค้นเมื่อ 2006-10-29.
- ↑ Rodriguez, Steven (November 14, 2006). "The Twenty Wii Launch Games". Planet GameCube. สืบค้นเมื่อ 2006-11-14.
- ↑ "Wii shortages frustrating gamers". BBC. 2006-12-08. สืบค้นเมื่อ 2006-12-08.
- ↑ "UK Wiis "Like Gold Dust"". IGN. 2007-03-06. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-10. สืบค้นเมื่อ 2007-04-18.
- ↑ "Demand for Wii still outpaces supply". komo-tv. 2007-06-29. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-18. สืบค้นเมื่อ 2007-07-01.
- ↑ "Nintendo's Wii to Hit South Korea and China". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-16. สืบค้นเมื่อ 2008-04-14.
- ↑ Wii Launch Center - DS, Wii heading to Korea - News at GameSpot
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-29. สืบค้นเมื่อ 2008-04-14.
- ↑ Allen, Danny (November 17, 2006). "A closer look at the Nintendo Wii". PC World. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 15, 2008. สืบค้นเมื่อ December 1, 2020.
- ↑ "Wii controller world tour". NGamer. July 13, 2007. p. 8.
- ↑ "Nintendo Forums: SD CARD ISSUE (from one system to another)". December 10, 2006. สืบค้นเมื่อ 2006-12-10.
- ↑ "Wii Colors". Revolution Report. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-02-16. สืบค้นเมื่อ 2006-07-15.
- ↑ "Wii Remote Colors". news.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-02. สืบค้นเมื่อ 2006-07-15.
- ↑ Wii Quotables เก็บถาวร 2012-02-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน IGN.com. Retrieved on March 10 2007.
- ↑ 30.0 30.1 "GameDaily BIZ: Confirmed: Nintendo to Release DVD-Enabled Wii in 2007". 2006-11-13. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-06. สืบค้นเมื่อ 2006-11-14.
- ↑ Casamassina, Matt. "IGN's Nintendo Wii FAQ". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-10. สืบค้นเมื่อ 2006-11-11.
- ↑ 32.0 32.1 "IGN: Revolution's Horsepower". IGN. 2006-03-29. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-22. สืบค้นเมื่อ 2006-12-23.
- ↑ "Wii??? (Wii??)" (ภาษาญี่ปุ่น). Nintendo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-06-15. สืบค้นเมื่อ 2006-05-22.
- ↑ "PS3 VS Wii, Comparisons of Core LSI Chip Areas". TechOn!. 2006-11-27. สืบค้นเมื่อ 2006-12-15.
- ↑ Burman, Rob (2007-08-08). "Keyboard Functionality Added to Wii". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-23. สืบค้นเมื่อ 2007-08-08.
- ↑ Casamassina, Matt (2006-09-20). "IGN's Nintendo Wii FAQ". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-05-02. สืบค้นเมื่อ 2007-01-25.
- ↑ Casamassina, Matt (2006-07-17). "Macronix Supplies Wii". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-22. สืบค้นเมื่อ 2006-07-18.
- ↑ consolewatcher.com Wii Component Cable Supports 480p Output
- ↑ "What is Wii?". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-08. สืบค้นเมื่อ 2007-09-18.
- ↑ "Dolby Technology to Power the Sound of the Wii Console" (Press release). Dolby Laboratories. 2006-09-21. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-10-20. สืบค้นเมื่อ 2006-09-23.
- ↑ "Wii Connect 24 Kills Wiis". ComputerAndVideoGames.com.
- ↑ Micah Seff (2006-12-08). "Nintendo Sued for Patent Infringement". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-12-13. สืบค้นเมื่อ 2006-12-08.
- ↑ INQUIRER staff (2006-08-03). "Microsoft, Nintendo sued over games controller". The Inquirer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-24. สืบค้นเมื่อ 2006-12-08.
- ↑ "Nintendo Recalls Defective Wii Wrist Straps After Class Action Filed by Green Welling LLP". Business Wire. 2006-12-16. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-05. สืบค้นเมื่อ 2007-03-23.
- ↑ "Lonestar sues Nintendo over Wii capacitor design". Engadget/Wall Street journal. 2006-06-18. สืบค้นเมื่อ 2007-06-19.
- ↑ "ผู้จัดการออนไลน์ - "เวยลี่ปั้ง"เครื่องเกม Vii จีนที่ดูเหมือน Wii ญี่ปุ่น". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-17. สืบค้นเมื่อ 2008-09-12.
- ↑ เว็บไซต์ของผู้ผลิด Vii http://www.letvgo.com/vii.htm เก็บถาวร 2008-01-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ http://www.youtube.com/watch?v=wed_bW8iiEw
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเครื่อง Nintendo Wii เก็บถาวร 2009-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน