ธนีกาญจน์ แดงดา

ธนีกาญจน์ แดงดา ชื่อเล่น ไหม[1][2] เป็นนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยตำแหน่งกองหน้า[3] และเธอเป็นน้องสาวของธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยเช่นเดียวกัน[4][5][6][7] ปัจจุบันลงเล่นให้แก่เอซี นางาโนะ ปาร์เซโร เลดีส์ ในวีเมนเอมพาวเวอร์เมนต์ลีก ในประเทศญี่ปุ่น

ธนีกาญจน์ แดงดา
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ธนีกาญจน์ แดงดา
วันเกิด 15 ธันวาคม พ.ศ. 2535 (31 ปี)[1]
สถานที่เกิด ไทย กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ส่วนสูง 1.74 m (5 ft 8 12 in)[1]
ตำแหน่ง กองหน้า
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2013–2014 กรุงเทพมหานคร 30 (11)
2014–2016 ออสเตอร์ซุนด์ ดีเอฟเอฟ 20 (5)
2016–2019 ชลบุรี 16 (5)
2019–2019 ยูนนาน เหิงจุ้น เป่ยเหลียน 18 (7)
2020–2023 ชลบุรี 5 (1)
2023– เอซี นางาโนะ ปาร์เซโร 1 (1)
ทีมชาติ
2012– ทีมชาติไทย 72 (23)
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ธนีกาญจน์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลฟุตบอลสยามโกลเด้นบอล ครั้งที่ 3 สาขานักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยม

ประวัติ แก้

ธนีกาญจน์ แดงดา เป็นลูกสาวของ พ.อ.อ.ประสิทธิ์ แดงดา ซึ่งแต่เดิม ธนีกาญจน์เคยเป็นนักกรีฑาซึ่งได้รับการฝึกสอนจากเรวดี ศรีท้าว ก่อนที่จะหันมาเป็นนักฟุตบอลในภายหลัง[8]

พ.ศ. 2555 ธนีกาญจน์เป็นหนึ่งในนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยเข้าแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน 2012 ที่จัดขึ้น ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม[9]

ใน พ.ศ. 2556 ธนีกาญจน์ได้เข้าร่วมแข่งขันในระดับอาชีพให้แก่สโมสรกรุงเทพมหานคร ในไทยวีเมน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013 [10] โดยในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ธนีกาญจน์เป็นหนึ่งในผู้ทำประตูให้แก่สโมสรดังกล่าวเมื่อครั้งที่พบกับสโมสรฟุตบอลหญิงวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ[11] ต่อมา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เธอได้ลงแข่งขันเมื่อพบกับทีมโรงเรียนกีฬาจังหวัดขอนแก่น[12] รวมถึงในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เธอเป็นหนึ่งในผู้ทำประตูเมื่อครั้งที่พบกับสโมสรฟุตบอลหญิงทหารอากาศ[13] และภายในปีเดียวกันนี้ ในการแข่งขันฟุตบอลหญิงเอเชียนคัพ 2014 รอบคัดเลือก ธนีกาญจน์เป็นหนึ่งในผู้ทำหน้าที่นักฟุตบอลทีมชาติตัวหลัก[14][15] ซึ่งแม้จะมีอาการบาดเจ็บแต่เธอก็อาการดีขึ้นในภายหลัง[16] และเธอเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนช่วยให้ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายชนะฟุตบอลหญิงทีมชาติอิหร่าน ส่งผลให้ทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลหญิงเอเชียนคัพ 2014 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ[17]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 "Football Siam Golden Ball : ฟุตบอลสยามโกลเด้นบอล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2013-07-02.
  2. “พ่อมุ้ย”แปลกใจลูกชายดิ๊ด๊าเจอบททดสอบโหดจากตราหมี - Goal.com
  3. "ข่าวแบโผ 23 แข้งสาวศึกอช. - Siamrath.co.th". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2021-09-23.
  4. ""มุ้ย" กระหึ่ม! ฟีฟ่าตีแผ่เส้นทางลูกหนังก่อนจะเป็นยอดกองหน้าช้างศึก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-12. สืบค้นเมื่อ 2013-07-02.
  5. ธีรศิลป์ แดงดา - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
  6. "พ่อมุ้ย"เชื่อฝีเท้าลูกชายทำฝันเมื่อ 20 ปีที่แล้วเป็นจริง - 7mth.com
  7. "คอลัมน์ลีกไทย: 10 แข้งสาวไทยยอดเยี่ยม 2012". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-28. สืบค้นเมื่อ 2013-07-02.
  8. ยอดคุณพ่อผู้ปั้น มุ้ย- ไหม 'แดงดา'ครอบครัวทีมชาติ : ข่าวสดออนไลน์
  9. "แข้งสาวไทย" ยำใหญ่ "เสือเหลือง" เละ - เดลินิวส์
  10. Football SiamTV - "น้องไหม" ยก ธีรศิลป์ แดงดา พี่ชายเป็นแบบอย่าง[ลิงก์เสีย]
  11. "สาวม.นอร์ทฯพ่ายกทม.คารังบอลวีเมนพรีเมียร์ลีก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2013-07-02.
  12. กรุงเทพเปิดบ้านอัดกีฬาขอนแก่น 4-0 รั้งฝูงไทยวีเมนลีก : SMMOnline.net[ลิงก์เสีย]
  13. นักเตะสาวกรุงเทพมหานคร ชนะ ทหารอากาศ - MCOT.net[ลิงก์เสีย]
  14. "มาดามแป้ง" เรียก 31 แข้งสาวไทยติดธงลุยเอเชี่ยนคัพ : มติชนออนไลน์
  15. "Sport Classic : นิตยสารสำหรับคนรักกีฬาและสุขภาพ » 23 แข้งสาวไทยลุยอช.คัพลุ้นเข้ารอบสุดท้าย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2021-08-16.
  16. ""23 แข้งสาวไทย" พร้อมทำศึก "ชิงแชมป์เอเชีย" - KHONKAENSPORT". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-30. สืบค้นเมื่อ 2013-07-02.
  17. "เปิดประตูสู่อาเซียน(กีฬา): บันไดก้าวต่อไป ของฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-21. สืบค้นเมื่อ 2013-07-02.
  18. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๕๗ เก็บถาวร 2022-05-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๑ ข หน้า ๓๓, ๙ มกราคม ๒๕๕๘

แหล่งข้อมูลอื่น แก้