ทอม เคลเวอร์ลีย์

โทมัส วิลเลียม หรือ "ทอม" เคลเวอร์ลีย์ (อังกฤษ: Thomas William "Tom" Cleverley) เกิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1989 เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอังกฤษ เล่นในตำแหน่งกองกลาง ปัจจุบันเป็นหัวหน้าโค้ชของสโมสรฟุตบอลวัตฟอร์ด

ทอม เคลเวอร์ลีย์
เคลเวอร์ลีย์ขณะเล่นให้กับเอฟเวอร์ตันในปี ค.ศ. 2015
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม โทมัส วิลเลียม เคลเวอร์ลีย์[1]
วันเกิด (1989-08-12) 12 สิงหาคม ค.ศ. 1989 (34 ปี)[1]
สถานที่เกิด เบซิงสโตก, อังกฤษ
ส่วนสูง 1.75 m (5 ft 9 in)[2]
ตำแหน่ง กองกลาง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
วอตฟอร์ด (รักษาการผู้จัดการทีม)
สโมสรเยาวชน
1998–2000 แบรดฟอร์ดซิตี
2000–2008 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2008–2015 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 55 (3)
2009เลสเตอร์ซิตี (ยืมตัว) 15 (2)
2009–2010วอตฟอร์ด (ยืมตัว) 33 (11)
2010–2011วีแกนแอทเลติก (ยืมตัว) 25 (4)
2014–2015แอสตันวิลลา (ยืมตัว) 31 (3)
2015–2017 เอฟเวอร์ตัน 32 (2)
2017วอตฟอร์ด (ยืมตัว) 17 (0)
2017–2023 วอตฟอร์ด 117 (7)
ทีมชาติ
2009 อังกฤษ อายุไม่เกิน 20 ปี 1 (2)
2009–2011 อังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี 16 (0)
2012 บริเตนใหญ่ 5 (0)
2012–2013 อังกฤษ 13 (0)
จัดการทีม
2024– วอตฟอร์ด (รักษาการณ์ชั่วคราว)[3]
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2017

ทอมเกิดที่เบซิงสโตก เมืองแฮมเชียร์ แต่ไปโตที่แบร็ดฟอร์ด และเขาก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมเยาวชนของแบร็ดฟอร์ด จากนั้นเขาก็ได้ร่วมฝึกซ้อมกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 14 ปี และเซ็นสัญญาร่วมทีมเป็นทางการในปี 2005

ด้วยพรสวรรค์ด้านการเล่นฟุตบอลทำให้เขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และในฤดูกาล 2007-2008 เขาก็ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกสำรองร่วมกับ แซม ฮิวสัน และ ริชาร์ด เอ็กเคอร์สลี่ย์

จากนั้น เขาได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมอื่นๆ อีกหลายทีมในสัญญายืมตัวไม่ว่าจะเป็นกับเลสเตอร์ซิตี ในช่วงปลายฤดูกาล 2008-2009 และทำประตูแรกให้ทีมจิ้งจอกได้ในเกมที่เอาชนะวอล์ซอลล์ ไปได้ 4 - 1 ในช่วงปิดฤดูกาลเขาก็กลับมาเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในเกมอุ่นเครื่อง และเขาก็ทำประตูแรกในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดได้ในเกมที่พบกับบาเลนเซีย ในเดือนสิงหาคม 2009 จากนั้น เขาก็ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับวัตฟอร์ด ในฤดูกาล 2009-2010 และกลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของทีม "แตนอาละวาด" ในปีนี้ด้วย จากนั้นช่วงปิดฤดูกาลเขาก็กลับมาร่วมทัวร์ปรีซีซั่นกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในการเดินทางไปแถบอเมริกาเหนือในเดือนกรกฎาคม 2010 แม้ว่าเขาจะมีฟอร์มการเล่นที่ดีเยี่ยม และมีโอกาสเล่นในทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่ในฤดูกาล 2010-2011 วีแกน ก็ให้ความสนใจเขา และติดต่อเซ็นสัญญายืมตัวเคลฟเวอร์ลี่ย์ ไปเล่นให้กับทีมตลอดทั้งฤดูกาล แม้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะยืนยันว่าเคลฟเวอร์ลี่ย์ คือนักเตะที่สำคัญของทีมในอนาคต แต่เขาก็เห็นว่าการปล่อยตัวให้วีแกน ยืมไปนั้นจะส่งผลดีต่อตัวนักเตะ และทำให้เขามีประสบการณ์มากขึ้น และแข็งแกร่งขึ้น

สำหรับเกมกับทีมชาติ เคลฟเวอร์ลี่ย์ มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่ปี 2008 ในชุดอายุไม่เกิน 19 ปี จากนั้น ก็มีชื่อติดทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คนอื่นๆ เช่น คริส สมอลลิ่ง และ ฟิล โจนส์ ในเดือนสิงหาคม 2011 เคลฟเวอร์ลี่ย์ ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เพื่อลงเตะนัดกระชับมิตรกับฮอลแลนด์ จากการคุมทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ แต่เกมนี้ต้องถูกยกเลิกไปหลังเกิดเหตุการณ์จลาจลในลอนดอน

จากการแขวนสตั๊ดของ พอล สโคลส์ ทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ต้องการนักเตะที่จะมาทดแทนในแดนกลางของทีม และเซอร์ อเล็กซ์ ก็เชื่อมั่นในฝีเท้าของเคลฟเวอร์ลี่ย์ และให้โอกาสเขาได้ลงพิสูจน์ตัวเองในฤดูกาล 2011-2012 เขาได้ลงเล่นนัดแรกให้ทีมปีศาจแดงชุดใหญ่ในการพบกับแมนเชสเตอร์ซิตี ในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ และมีส่วนในการเปิดบอลให้ หลุยส์ นานี่ ทำประตูตีเสมอได้ในนัดนี้ และเขาก็ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก นัดแรกในการพบกับเวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน จากนั้น เขาก็โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจอย่างสม่ำเสมอ จนกลายเป็นมิดฟิลด์ตัวทำเกมที่สำคัญของทีม และในเดือนตุลาคม 2011 สโมสรก็ได้ให้รางวัลเขาด้วยการต่อสัญญาไปอีก 4 ปีซึ่งจะทำให้เขาอยู่กับทีมไปจนถึงฤดูกาล 2014-2015

เกียรติประวัติ แก้

สโมสร แก้

เลสเตอร์ซิตี
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

รางวัลส่วนตัว แก้

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 Hugman, Barry J., บ.ก. (2010). The PFA Footballers' Who's Who 2010–11. Edinburgh: Mainstream Publishing. p. 86. ISBN 978-1-84596-601-0.
  2. "Player Profile: Tom Cleverley". Premier League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 31 July 2012.
  3. "วัตฟอร์ด ปลดโค้ช ตั้งแข้งเก่า แมนยู ขึ้นรักษาการณ์แทน". www.siamsport.co.th (ภาษาอังกฤษ). 10 March 2024. สืบค้นเมื่อ 17 March 2024.