ซามูไรพเนจร (ญี่ปุ่น: るろうに剣心โรมาจิRurouni Kenshinทับศัพท์: รุโรนิ เค็งชิง; "เคนชินคนพเนจร", ชื่อเต็ม: ญี่ปุ่น: るろうに剣心 -明治剣客浪漫譚-โรมาจิRurōni Kenshin -Meiji Kenkaku Rōmantan-ทับศัพท์: รุโรนิ เค็นชิง -เมจิ เค็งคะคุ โรมังตัง-; "เคนชินคนพเนจร: นิยายรักนักดาบยุคเมจิ") เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นผลงานของ โนบุฮิโระ วาสึกิ เรื่องราวของซามูไรชื่อเคนชิน ชื่อการ์ตูนภาษาอังกฤษของซามูไรพเนจร ใช้ชื่อ Rurouni Kenshin และในบางประเทศใช้ชื่อ Samurai X ในฉบับหนังสือการ์ตูนมี 28 เล่มจบ ในฉบับภาษาไทยตีพิมพ์โดยสยามอินเตอร์คอมิกส์ ในฉบับภาษาญี่ปุ่นตีพิมพ์โดยชูเอฉะ

ซามูไรพเนจร
หน้าปกของมังงะ ซามูไรพเนจร เล่ม 1 ในฉบับภาษาไทย
るろうに剣心
ชื่อภาษาอังกฤษRurouni Kenshin หรือ Samurai X
แนวแอคชั่น, ประวัติศาสตร์,ดราม่า,ตลก
มังงะ
manga
เขียนโดยโนบุฮิโระ วาสึกิ
สำนักพิมพ์ญี่ปุ่น ชูเอฉะ
ไทย สยามอินเตอร์คอมิกส์
อนิเมะ
กำกับโดยคาซึฮิโระ ฟุรุฮาชิ
สตูดิโอสตูดิโอแกลลอป (ตอนที่ 1-66)
สตูดิโอดีน (ตอนที่ 67-95)
มังงะ
อนิเมะโทรทัศน์
ภาพยนตร์อนิเมะ / ออริจินัลวิดีโอแอนิเมชัน
ภาพยนตร์คนแสดง

ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันของเรื่องนี้ได้มีการประกาศเปิดตัวเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2554[1] อำนวยการสร้างโดย วอร์เนอร์บราเธอร์ส และกำกับโดย โอโตะโมะ เคชิ โดยมีนักแสดงนำคือ ซะโต ทะเกะรุ (ตัวเอกใน คาเมนไรเดอร์ เดนโอ) แสดงเป็นเคนชิน และ ทะเกะอิ เอะมิ แสดงเป็นคาโอรุ [2] ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2555[3]

เนื้อเรื่อง

แก้

ปฐมบท

แก้

ฮิมุระ เคนชิน อดีตมือสังหารของคณะปฏิวัติเจ้าของฉายา "มือพิฆาตบัตโตไซ" ได้วางดาบ กลายเป็นซามูไรพเนจรธรรมดาๆ จวบจนได้มาพบกับครูฝึกดาบสาวของสำนักคามิยะคัตชินริว คามิยะ คาโอรุ ผู้ซึ่งทำให้เขารู้สึกสบายใจและหยุดการเดินทางที่ไร้จุดหมายลงได้ หลังจากการพำนักอยู่กับคาโอรุ เคนชินต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเหตุการณ์มากมายและได้พบกับ ซางาระ ซาโนสุเกะ, เมียวยิน ยาฮิโกะ, ทากานิ เมกุมิ รวมถึงชิโนโมริ อาโอชิ และกลุ่มโอนิวาบังชู

ภาคชิชิโอ: เกียวโต

แก้

การหวนกับมาพบกันอีกครั้งของเคนชิน และไซโต ฮาจิเมะ อดีตหัวหน้าหน่วยชินเซ็น กอง 3 ซึ่งปัจจุบันได้ทำหน้าที่ตำรวจสันติบาล ไซโตซึ่งมีหน้าที่เป็นสายสืบให้กับรัฐบาลกลางกำลังสืบสวนเรื่องของอดีตมือสังหารของคณะปฏิวัติอีกคนหนึ่ง ชิชิโอ มาโคโตะ ซึ่งคาดว่ากำลังเตรียมแผนก่อการปฏิวัติอยู่ จากเหตุการณ์การสังหาร โอคุโบ โทชิมิจิ เสนาบดีฝ่ายมหาดไทยโดยเซตะ โซจิโร่ สมุนของชิชิโอ ทำให้เคนชินไม่อาจอยู่เฉยได้ เขาจึงเดินทางยังเกียวโตเพื่อยับยั้งแผนการปฏิวัติของชิชิโอ ขณะเดียวกันชิชิโอก็เรียกกองกำลังจุปปงคาตานะ ซึ่งเป็นยอดฝีมือพิเศษ 10 คนของตัวเองออกมารับมือกับเคนชินด้วย ทางด้านซาโนสุเกะก็ได้ออกติดตามเคนชินมาที่เกียวโตเพื่อช่วยเหลือเคนชินอีกแรง ขณะที่ยาฮิโกะกับคาโอรุก็เดินทางมาหาเคนชินเช่นกัน ระหว่างการเดินทางเคนชินพบกับ มากิมาจิ มิซาโอะ สาวน้อยแห่งโอนิวาบังชู และด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มโอนิวาบังชู ทำให้พวกของเคนชินสามารถป้องกันแผนเผากรุงเกียวโตเพื่อก่อความวุ่นวาย ในขณะที่ตัวชิชิโอและผู้ใกล้ชิดเตรียมนำเรือดำ "เรนโกกุ" เข้าอ่าวโตเกียวเพื่อสร้างความวุ่นวาย แต่ในที่สุดเรือเรนโกกุ ก็ถูกระเบิดมือของซาโนสุเกะทำลายเสียหายจนต้องเลิกล้มแผนการบุกยึดอ่าวโตเกียวไป ชิชิโอพร้อมทั้งจุปปงคาตานะทั้งหมดจึงย้อนกลับไปที่ฐานของตัวเองพร้อมกับท้าให้เคนชินตาม การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเคนชินและชิชิโอ เดิมพัน ด้วยชะตากรรมของรัฐบาลญี่ปุ่น

ภาคเอนิชิ: ทัณฑ์มนุษย์

แก้

หลังจบศึกชิชิโอ พวกเคนชินอยู่อย่างสงบซักระยะ แต่แล้วเงาแห่งการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อกลุ่มคน 6 คน ที่เคยมีความแค้นต่อเคนชิน ในสมัยอดีตรวมตัวกันมาเพื่อแก้แค้น 1 ในนั้น คือ ยูกิชิโร่ เอนิชิ น้องชายของ ยูกิชิโร่ โทโมเอะ ภรรยาที่ล่วงลับของเคนชินเอง เอนิชิที่แค้นฝังใจว่าเคนชินผิด จึงทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เคนชินทุกข์ใจ โดยเริ่มจากการทำร้ายคนรอบข้าง ถึงขั้นนำทัพบุกโรงฝึกคามิยะ แต่พวกเคนชินก็จัดการได้หมด แต่หลังจากหมอกควันที่หนาทึบจางลง ทุกคนก็พบว่าคาโอรุถูกดาบปักอกและถูกกรีดใบหน้าแบบเคนชินแล้วสิ้นใจไปเสียแล้ว เคนชินถึงกับหมดหวัง หนีไปอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านคนไร้ราก

แม้ทุกคนมาเตือนสติ เคนชินก็ไม่สน ซาโนก็กลับไปบ้านเกิดกับก่อเรื่องแล้วกลับมาในภายหลัง ขณะที่อาโอชิกับมิซาโอะเพิ่งมาถึง พอรู้ทราบเชื่อว่าคาโอรุยังไม่ตายจึงขุดศพชันสูตรดู จนรู้ว่าคือศพปลอม อาโอชิกับไซโต้สืบหาฐานใหม่ของเอนิชิ ทางคุจิรานามิ เฮียวโก ที่แค้น เพราะถูกเคนชินตัดมือขวาตอนสงครามปฏิวัติ เกิดคลั่งแหกคุกอาละวาดไปทั่ว ยาฮิโกะออกมารับหน้าแทน สึบาเมะเตือนสติเคนชินสำเร็จ จึงโค่นคุจิรานามิลง พอทุกคนกลับมารวมตัวไปฐานใหม่ของเอนิชิบนเกาะร้าง สู้ตัดสินกันจนชนะ ช่วยคาโอรุตัวจริงออกมาสำเร็จ เอนิชิที่ได้รับบันทึกก่อนตายของโทโมเอะจากคาโอรุ พอถึงโตเกียวก็หลบหนีไปหมู่บ้านคนไร้ยาก โดยหมดหวังกับตัวเอง โดยไม่รู้ว่าตนได้อยู่กับพ่ออีกครั้ง

ตัวละครหลัก

แก้

รายชื่อตอน

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. ""Rurouni Kenshin" to get film adaptation starring Sato Takeru!". Tokyohive. สืบค้นเมื่อ June 28, 2011.
  2. "Emi Takei to Play Live-Action Rurouni Kenshin's Kaoru". Anime News Network. สืบค้นเมื่อ July 25, 2011.
  3. "Live-Action Rurouni Kenshin Film Image Published". Anime News Network. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้