วัตถุเวทมนตร์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์

(เปลี่ยนทางจาก กุญแจนำทาง)

ต่อไปนี้เป็นรายการวัตถุเวทมนตร์ในนวนิยาย แฮร์รี่ พอตเตอร์

ดาบของกริฟฟินดอร์

แก้

ดาบของกริฟฟินดอร์ ตีโดยก็อบลิน เดิมเป็นของก็อดดริก กริฟฟินดอร์ คุณสมบัติของดาบที่ตีโดยก็อบลินคือ ไม่ต้องทำความสะอาด และจะดูดซับแต่พลังที่ทำให้ดาบแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ แฮร์รี่พบดาบในหมวกคัดสรร และใช้ฆ่าบาซิลิสก์

ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม ดัมเบิลดอร์ใช้ดาบกริฟฟินดอร์ในการทำลายแหวนของตระกูลกอนต์

ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต รอนใช้ดาบทำลายล็อกเก็ตของสลิธีริน, เนวิลล์ ลองบัตท่อมฆ่างูนากินี

น้ำยาสรรพรส

แก้

น้ำยาสรรพรส (อังกฤษ: The Polyjuice Potion) เป็นน้ำยาชนิดหนึ่ง โดยผู้ที่ดื่มน้ำยานี้ จะสามารถเปลี่ยนร่างเป็นคนอื่นได้ชั่วคราวเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เป็นน้ำยาที่ค่อนข้างปรุงยาก และใช้เวลาปรุงเกือบ 1 เดือน โดยน้ำยานี้จะเปลี่ยนรูปร่างและเสียงของผู้ใช้ไปตามคนที่ต้องการจะเปลี่ยนร่างเป็น แต่จะไม่เปลี่ยนชุดตาม

ส่วนผสมที่ใช้นั้นมีดังเช่น แมลงวันลาซีลวิง ลูกไม้ ผงเขาไบคอร์น คราบงูพิษบูมแสลง ส่วนหนึ่งจากร่างกายคนที่จะปลอมตัว ฯลฯ

น้ำยาสรรพรสถูกใช้ในแฮร์รี่ พอตเตอร์หลายครั้ง โดยครั้งแรกใช้ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนปรุง เพื่อสืบว่ามัลฟอยเป็นทายาทของสลิธีรินหรือไม่

เครื่องรางยมทูต

แก้
 
สัญลักษณ์เครื่องหมายของเครื่องรางยมทูต

เครื่องรางยมทูต (อังกฤษ: Deathly Hallows) เป็นของวิเศษในหนังสือนิทานของบีเดิลยอดกวี และเป็นกุญแจสำคัญในการไขเรื่องราวทั้งหมดในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต เชื่อกันว่า ผู้ครอบครองทั้งหมดจะกลายเป็น "นายแห่งความตาย" หรือ "นายแห่งยมทูต" มี 3 สิ่ง ได้แก่ ผ้าคลุมล่องหน หินชุบวิญญาณ และไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์

ผ้าคลุมล่องหน

แก้

เดิมเป็นของ อิกโนตัส เพฟเวอเรลล์ น้องคนสุดท้องของตระกูลเพฟเวอเรลล์ และถูกส่งไปเรื่อย ๆ แบบรุ่นต่อรุ่น จนถึงเจมส์ พอตเตอร์ ระหว่างนั้นก่อนวันที่เจมส์และลิลี่ พอตเตอร์ถูกสังหาร อัลบัส ดัมเบิลดอร์ได้ขอยืมผ้าคลุมล่องหนไปตรวจสอบ และเมื่อแฮร์รี่เข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ ดัมเบิลดอร์จึงคืนผ้าคลุมล่องหนให้ ผ้าคลุมล่องหนอันนี้ไม่เหมือนผ้าคลุมล่องหนทั่วไป ตรงที่มันสามารถทำให้ผู้ใช้สามารถล่องหนได้อย่างแท้จริง ไม่มีวันเสื่อมสภาพหรือฉีกขาด และไม่มีคาถาใดใช้กับผ้านี้ได้ผล (อ้างอิงจากเล่ม 7 ตอนที่พวกแฮร์รี่ลักลอบเข้าไปในหมู่บ้านฮอกส์มี้ดแล้วคนพยายามจะใช้คาถาเรียกของกับผ้าคลุมแต่ไม่ได้ผล)

หินชุบวิญญาณ

แก้

เดิมเป็นของแคดมัส เพฟเวอเรลล์ พี่คนรอง ที่ปรารถนาจะนำหญิงที่เขารักกลับคืนมาจากความตาย แต่เมื่อเขาได้นำหญิงคนนั้นกลับมาจากความตาย หญิงคนนั้นอยู่กับเขาในรูปแบบของวิญญาณ เขาจึงเสียใจและตรอมใจตายในที่สุด หินชุบวิญญาณถูกตกทอดมาสู่มาโวโล่ ก๊อนท์ ในลักษณะของแหวนประจำตระกูลก๊อนท์ โดยไม่รู้ว่ามันคือหินชุบวิญญาณ และก็ได้กลายเป็นฮอร์ครักซ์ชิ้นหนึ่งของโวลเดอมอร์ หลังจากนั้นดัมเบิลดอร์ค้นหาและทำลายฮอร์ครักซ์ ในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ดับเบิลดอร์ส่งหินชุบวิญญาณให้แฮร์รี่ พอตเตอร์โดยใส่ในลูกสนิชสีทอง เมื่อแฮร์รี่จะเข้าไปในป่าต้องห้ามเพื่อพบโวลเดอมอร์ ก่อนจะไปพบ เขาได้เปิดลูกสนิทสีทองให้หินชุบวิญญาณปรากฏขึ้นและได้หมุนมัน 3 รอบ และร่างวิญญาณของ ลิลลี่ เจมส์ ซีเรียส และรีมัสก็ปรากฏตัว หลังจากนั้นแฮร์รี่ก็ได้ทิ้งหินชุบวิญญาญไว้ในป่าต้องห้ามและหายสาปสูญไปตลอดกาล

ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์

แก้

เจ้าของคนแรก คือ แอนตีโอ๊ก เพฟเวอเรลล์ ขณะที่เขาเมาเหล้าองุ่นอยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งก็ถูกฆ่าตาย แล้วไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ก็เปลี่ยนเจ้าของมาเรื่อย ๆ ผ่านการฆ่า หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์จนมาอยู่กับเกรโกโรวิตซ์ ช่างทำไม้กายสิทธิ์ แล้วก็ถูกเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ขโมยไป กรินเดอร์วัลด์ใช้ไม้กายสิทธิ์ทำเรื่องเลวร้าย จนดัมเบิลดอร์ตระหนักว่าเขาเป็นคนเดียวที่สามารถสยบกรินเดลวัลด์ได้ ดัมเบิลดอร์จึงจัดการกับกรินเดอร์วัลด์และยึดไม้กายสิทธิ์มาครอบครอง

ในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต โวลเดอมอร์ต้องการเป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์ จึงไปที่หลุมศพของดัมเบิลดอร์และยึดไม้กายสิทธิ์มาแต่ก็ไม่สามารถใช้มันได้เท่าที่ควร โวลเดอมอร์จึงเข้าใจว่าสเนปเป็นเจ้าของไม้เพราะสเนปเป็นคนฆ่าดัมเบิลดอร์ จึงเรียกมาสังหารทิ้ง แต่ความจริง เดรโก มัลฟอยเป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์เพราะเสกคาถาปลดอาวุธใส่ดัมเบิลดอร์ในคืนที่เขาเสียชีวิต และแฮร์รี่เป็นผู้ปลดอาวุธเดรโก มัลฟอย แฮร์รี่จึงเป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ โวลเดอมอร์ตายเพราะถูกคำสาปพิฆาตที่เสกโดยไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์เพื่อฆ่าแฮร์รี่สะท้อนกลับ (ไม้กายสิทธิ์จะไม่ทำร้ายนายตัวเอง) หลังสงครามยุติ แฮร์รี่ตัดสินใจใช้ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ซ่อมไม้กายสิทธิ์เก่าของตัวเองและนำไม้เอลเดอร์ไปคืนที่หลุมศพของดัมเบิลดอร์ และปกปิดเป็นความลับเพราะเชื่อว่าถ้าไม่มีใครมาแย่งไม้ไปจากแฮร์รี่อีก ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ก็จะหมดพลังไปหลังจากที่เขาตายตามธรรมชาติ

สัญลักษณ์

แก้

สัญลักษณ์ของเครื่องรางยมทูตคือรูปสามเหลี่ยม มีเส้นตรงทับวงกลม ซึ่งทั้งสามสัญลักษณ์สามารถตีความหมายออกมาได้ ซึ่งทั้งสามสิ่งหมายถึงเครื่องรางยมทูตทั้งสามนั่นเอง โดยทั้งสามสัญลักษณ์จะตีความหมายได้เป็นเครื่องรางยมทูตสามชิ้นด้วยกันนั่น คือ

  • สัญลักษณ์สามเหลี่ยม แทน ผ้าคลุมล่องหน
  • สัญลักษณ์วงกลม แทน หินชุบวิญญาณ
  • สัญลักษณ์ขีดตรงกลาง แทน ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์

ด้วย ความเข้าใจผิดของสัญลักษณ์ของเครื่องรางยมทูต ใครต่อใครหลายคนต่างพากันคิดว่า เป็นสัญลักษณ์ของพ่อมดศาสตร์มืดผู้เคยโด่งดัง ในนามกรินเดลวัลด์ แท้ที่จริงแล้วเขาคือหนึ่งในผู้เชื่อในนิทานสามพี่น้อง นิทานของบีเดิลยอดกวี และออกติดตามมัน

แผนที่ตัวกวน

แก้

แผนที่ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ใครขยับไปทางไหนหรืออะไรอยู่ที่ไหนในฮอกวอตส์ แฮร์รี่ได้มาจากสองพี่น้องเฟร็ดและจอร์จ วีสลีย์ซึ่งขโมยมาจากห้องทำงานของฟิลช์ ถูกสร้างขึ้นโดย จันทร์เจ้า เขาแหลม เท้าปุย และ หางหนอน เพื่อช่วยในการกลายร่างมนุษย์หมาป่าของรีมัส ลูปิน ในสมัยที่พ่อของแฮร์รี่ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนฮอกวอตส์ ในรูปปกติจะอยู่ในรูปกระดาษเปล่า ถ้าต้องการดูให้ใช้ไม้กายสิทธ์เเตะแผนที่แล้วพูดว่า "ข้าขอสาบานอย่างจริงจังว่าข้า นั้นหาความดีมิได้" และเมื่อใช้เสร็จจะต้องซ่อนแผนที่โดยการใช้ไม้กายสิทธ์แตะที่แผนที่แล้วพูด ว่า "แผนลวงสำเร็จแล้ว" ในแฮรี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งคุกอัซคาบัน แฮร์รี่ได้เจอชื่อของปีเตอร์ เพ็ตติกกรูว์ ซึ่งเชื่อว่าตายไปแล้วบนแผนที่นี้ ต่อมา ในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี แฮร์รี่ได้เจอชื่อของบาร์ทีเมียส เคร้าช์ เจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์ซึ่งเป็นคณะกรรมการในการประลองไตรภาคีกำลังพยายามเข้าไปค้นห้องคุกใต้ดินของสเนป (แท้จริงแล้วเป็นลูกชายของบาร์ทีเมียส เคร้าช์ซึ่งมีชื่อเหมือนกัน รู้จักกันทั่วไปด้วยชื่อ บาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์) แล้วแฮร์รี่ก็ตามไปดูด้วยผ้าคลุมล่องหน เกือบถูกสเนปจับ โชคดีที่ อลาสเตอร์ มู้ดดี ช่วยไว้ได้ และเขาก็ประทับใจแผนที่ตัวกวน จึงขอยืมใช้จากแฮร์รี่มา

หลังจากการแข่งขันการประลองไตรภาคีสิ้นสุดลง อลาสเตอร์ มู้ดดี้ ได้แสดงตัวว่า ตัวเองเป็นสายให้ลอร์ดโวลเดอร์มอร์ เพื่อหลอกล่อแฮร์รี่ในการเป็นเครื่องสังเวยเพื่อชุบชีวิตโวลเดอร์มอลและกำลังจะลงมือฆ่าแฮร์รี่ แต่ถูกพวกศาสตราจารย์ดัลเบิ้ลดอร์จับได้ จนเผยร่างที่แท้จริงออกมาว่าเป็นลูกชายของบาร์ทีเมียส เคร้าช์ และถูกสเนปจับกรอกสัจจะเซรุ่มใส่ปากเผยทุกอย่างที่เขาได้เตรียมการไว้ มีบทตอนหนึ่งว่า บาร์ทีเมีย เคร้าช์ จูเนียร์ รู้ว่าพ่อได้มาที่ฮอกวอตส์จากแผนที่ตัวกวนที่ยืมมาจากแฮร์รี่ เพื่อบอกความจริงกับอัลบัส ดัมเบิลดอร์ และกลัวว่า แผนการทั้งหมดจะพัง จึงลงมาหมายจะฆ่าเสีย ซึ่งตอนที่แฮร์รี่พบบาร์ทีเมียส เคร้าช์ ผู้เป็นพ่อสลบอยู่ พร้อมกับวิกเตอร์ ครัม แล้วแฮร์รี่ไปตามอัลบัสดัมเบิ้ลดอร์ บาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์ที่หลบซ่อนตรงพุ่มไม้เมื่อเห็นว่า วิกเตอร์ ครัมอยู่คนเดียว จึงใช้คาถาทำให้วิกเตอร์สลบไป แล้วจับพ่อของตนมาฆ่าและแปลงสภาพเป็นกระดูกฝังไว้ที่ป่าต้องห้าม

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นคาดว่าแฮร์รี่ได้รับแผนที่คืนอย่างลับ ๆ โดยเข้าไปในห้องทำงานของอาจารย์สอนศาสตร์การป้องกันตัวจากศาสตร์มืดและหยิบออกมา จากนั้นพกติดตัวไว้ตลอดเวลา ในเล่ม 5 แฮรี่ส่องดูแผนที่ทุกครั้งก่อนจะส่งนักเรียนออกจากห้องต้องประสงค์เมื่อมีการประชุมกองทัพดัมเบิ้ลดอร์ และในเล่มที่ 6 ได้ใช้ในการสอดส่องดูเดรโก มัลฟอย แต่ก็มักจะไม่เห็น และทำให้แฮรี่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่ที่ไม่เห็นเพราะเนื่องจากมัลฟอยนั้นอยู่ในห้องต้องประสงค์ ซึ่งมันจะไม่แสดงถึงตัวมันเองและผู้ที่อยู่ภายในนั้น

ในเล่มที่เจ็ด แฮร์รี่ยังคงใช้แผนที่ตัวกวนอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่เซเวอรัส สเนปได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นอาจารย์ใหญ่คนใหม่ของฮอกวอตส์ แฮร์รี่ได้พบเห็นชื่อของสเนปอยู่ในห้องของอาจารย์ใหญ่อยู่ตลอดเวลา หลังสงครามฮอกวอตส์ได้จบลง แฮร์รี่ได้เก็บแผนที่ตัวกวนนี้เป็นสมบัติประจำส่วนตัวเพื่อระลึกความคิดถึงผู้ที่สร้างมันขึ้นมา แต่ต่อมา เจมส์ ซิเรียส พอตเตอร์ ลูกชายคนโตของแฮร์รี่ ก็มาหยิบออกไปจนได้

ฮอร์ครักซ์

แก้

ฮอร์ครักซ์ (อังกฤษ: Horcrux) เป็นหนึ่งในวัตถุเวทมนตร์ในวรรณกรรมเยาวชนชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ โดย เจ. เค. โรวลิ่ง หนึ่งในวัตถุศาสตร์มืดที่ถูกสร้างมาเพื่อรักษาความเป็นอมตะของเจ้าของไว้ [1] แนวคิดของฮอร์ครักซ์ ปรากฏครั้งแรกในตอน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม และการแสวงหาและทำลายฮอร์ครักซ์ของโวลเดอมอร์ก็เป็นประเด็นหลักของเนื้อเรื่องในสองเล่มสุดท้ายของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้แก่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม และแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต

การสร้าง

แก้

ผู้ที่สร้างฮอร์ครักซ์ขึ้นมาหนึ่งชิ้น จำต้องแลกมาด้วยวิญญาณบางส่วนของตนเอง หรืออื่น ๆ เพื่อเป็นภาชนะในการสร้างโดยการทำลายล้างชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่ง "การทำความชั่วอย่างร้ายกาจ จะฉีกวิญญาณออกเป็นส่วน ๆ" หลังจากทำฆาตกรรมแล้ว วิญญาณส่วนที่หลุดออกมาก็จะถูกห่อหุ้มด้วยเวทมนตร์แล้วกักเก็บเอาไว้ในวัตถุใดวัตถุหนึ่ง ซึ่งจะกลายเป็นฮอร์ครักซ์

ที่อยู่อาศัยของชิ้นส่วน วิญญาณนั้น สามารถสร้างขึ้นได้ในทุกสถานะ ไม่ว่าจะเป็น สิ่งที่มีชีวิต หรือไม่มีชีวิตก็ได้ ทั้งนี้ที่อยู่ของวิญญาณนี้ จะถูกเรียกในชื่อ "ฮอร์ครักซ์" ทั้งสิ้น แต่พ่อมดไม่นิยมที่จะเลือกสิ่งมีชีวิตมาสร้างเป็นฮอร์ครักซ์ เนื่องจากว่ามันเป็นวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ และสามารถคิดด้วยตนเองได้ จำนวนฮอร์ครักซ์ที่พ่อมดคนหนึ่งสามารถสร้างได้นั้นไม่มีจำนวนจำกัด แต่จากการแบ่งวิญญาณออกเป็นส่วนที่เล็กลงเรื่อย ๆ ผู้ใช้ก็จะสูญเสียความเป็นมนุษย์ตามธรรมชาติ และวิญญาณก็จะไม่มีความเสถียรอย่างยิ่ง

ภายใต้เงื่อนไขที่มีความพิเศษอย่างมาก ส่วนหนึ่งของวิญญาณอาจสามารถถูกกักเก็บเอาไว้ในวัตถุ โดยนอกเหนือจากเจตนาหรือความรู้ของผู้สร้าง ขณะที่วัตถุนั้นจะส่งผลให้ผู้สร้างเป็นอมตะเช่นเดียวกับฮอร์ครักซ์ทั่วไป เพียงแต่ว่าวัตถุนั้นจะไม่ถูกเรียกว่า "วัตถุมืด"[2] เช่น เมื่อโวลเดอมอร์สังหารแฮร์รี่ไม่สำเร็จจากการใช้คำสาปพิฆาต ร่างของโวลเดอมอร์ถูกทำลายหลังจากนั้น และบางส่วนของวิญญาณก็ถูกฝังอยู่ในร่างของแฮร์รี่

การทำลาย

แก้

ฮอร์ครักซ์ ถือว่าเป็นวัตถุที่ถูกทำลายได้ยากยิ่ง พวกมันไม่สามารถถูกทำลายได้โดยวิธีการทั่วไป อย่างเช่น การทุบ การทำแตก หรือการเผา ในการทำลายฮอร์ครักซ์ มันจะต้องได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจนกระทั่งไม่สามารถซ่อมแซมด้วยเวทมนตร์ได้อีก และส่วนของวิญญาณที่ถูกกักเก็บไว้ก็จะถูกทำลายตามไปด้วย นอกจากนั้น ฮอร์ครักซ์ยังสามารถมีผลลบล้างทางเวทมนตร์ได้ เมื่อผู้สร้างรู้สึกสำนึกผิดต่อการก่อฆาตกรรมของตนที่สร้างฮอร์ครักซ์ขึ้นมา แต่กระบวนการดังกล่าวก็อาจสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้สร้างจนอาจเสียชีวิตได้ทีเดียว สิ่งที่ทำลายฮอร์ครักซ์ได้คือ เพลิงปีศาจ พิษบาซิลิสก์ ในที่นี้ แฮร์รี่ได้ใช้ดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์ เป็นตัวทำลาย เพราะดาบสามารถดูดซึมพิษของบาซิลิสก์ไว้ หลังจากที่แฮร์รี่ได้ใช้ดาบฆ่าบาซิลิสก์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ

ฮอร์ครักซ์ของโวลเดอมอร์

แก้

ด้วยความทะนง โวลเดอมอร์สร้างฮอร์ครักซ์ ถึง 7 ชิ้น (รวมกับแฮร์รี่ ที่ไม่ตั้งใจสร้าง) เกือบทั้งหมดสร้างขึ้นเมื่อยังเป็น ทอม ริดเดิ้ล ส่วนใหญ่สร้างจากวัตถุมีค่าทางประวัติศาสตร์ของพ่อมดแม่มด เพื่อเน้นย้ำความสูงส่งของตน

ลำดับฮอร์ครักซ์ของโวลเดอมอร์ ได้แก่ สมุดบันทึกของทอม ริดเดิ้ล, แหวนตระกูลก๊อนท์, ล็อกเกตสลิธีริน, ถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟ, รัดเกล้าของเรเวนคลอ, แฮร์รี่ พอตเตอร์ (โดยมิได้ตั้งใจ) และงูนากินี

ถ้วยอัคนี

แก้

ถ้วยอัคนีเป็นของวิเศษที่ปรากฏในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี ซึ่งถ้วยนี้เป็นถ้วยที่ใช้ในการเลือกนักเรียนที่จะเป็นตัวแทนในการประลองเวทไตรภาคีของแต่ละโรงเรียน ซึ่งถ้าหากผู้ใดต้องการจะเข้าร่วมการแข่งขัน ก็ให้เขียนชื่อใส่ลงในถ้วย หลังจากนั้นถ้วยจะพ่นชื่อผู้ที่ได้เป็นตัวแทนของแต่ละโรงเรียนออกมา ถ้วยอัคนีนั้นเป็นวัตถุแห่งเวทมนตร์อันทรงพลังมาก มีเพียงคาถาพัลวัลจิตเท่านั้นที่สามารถตบตาได้

กุญแจนำทาง

แก้

กุญแจนำทางเป็นของวิเศษที่เหล่าพ่อมดใช้ในการเดินทาง ห้ามจัดตั้งกุญแจเดินทางเองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงเวทมนตร์ ปรากฏครั้งแรกใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี โดยพ่อของรอนใช้เพื่อเดินทางมาสถานที่แข่งขันควิชดิชเวิลด์คัพ และปรากฏอีกหลายครั้งหลังจากนั้น คาถาที่ใช้สร้างกุญแจเดินทางคือพอตัส

กระจกเงาแห่งเอริเซด

แก้

กระจกเงาแห่งเอริเซด จะสะท้อนความปรารถนาเบื้องลึกของผู้ส่อง เช่น แฮร์รี่ พอตเตอร์ เห็นภาพตัวเองและครอบครัว ส่วน รอน วีสลีย์ มีพี่ ๆ ที่เก่งกว่ามาโดยตลอด เห็นตัวเองมีความสามารถเหนือพี่น้องทั้งหมด ส่วนอัลบัส ดัมเบิลดอร์ เห็นครอบครัวของตนเอง ได้เพอร์ซิวาล เคนดรา แอรีอานนากลับมา และได้คืนดีกับอาเบอร์ฟอร์ธ ส่วนโวลเดอมอร์นั้น เห็นตนเองที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ยิ่งใหญ่ และเป็นอมตะ

เพนชิฟ

แก้

เป็นอ่างทรงกว้างก้นตื้นทำจากโลหะหรือหิน ใช้สำหรับแสดงความทรงจำ (ที่ถูกดึงออกมาจากผู้เป็นเจ้าของมาใส่ในอ่าง) โดยผู้ที่กำลังดูความทรงจำนั้นจะรู้สึกเสมือนว่าตนได้เข้าร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย พ่อมดแม่มดมักดึงความทรงจำในเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญ ๆ ในชีวิตของตนเก็บไว้และเมื่อต้องการที่จะย้อนดูความทรงจำเหล่านั้นก็จะนำมันออกมาเทลงในอ่างนี้ เช่น ตอนที่อัลบัส ดับเบิลดอร์ ดึงความทรงจำของตนเกี่ยวกับครั้งแรกที่พบเจอ ทอม รีดเดิ้ล, ตอนสเนปสั่งให้แฮร์รี่นำความทรงจำของเขาในรูปแบบของน้ำตามาใส่ในอ่างเพนชิฟหลังจากเขาตายแล้ว

หมวกคัดสรร

แก้

หมวกคัดสรรเป็นหมวกของก็อดดริก กริฟฟินดอร์ หนึ่งในสี่ผู้ก่อตั้งโรงเรียนฮอกวอตส์ เนื่องจากวันหนึ่งผู้ก่อตั้งทั้งสี่ปรึกษากันว่าหากวันหนี่งไม่มีพวกเขาแล้วใครจะเป็นผู้คัดเลือกนักเรียน ก็อดดริก กริฟฟินดอร์จึงถอดหมวกที่ใส่อยู่ แล้วผู้ก่อตั้งทั้งสี่ก็ร่ายเวทมนตร์ไว้ที่หมวกคัดสรร ซึ่งก็ได้ทำหน้าที่คัดสรรนักเรียนฮอกวอตส์มาโดยตลอดหมวกคัดสรรถูกเก็บไว้ที่ห้องศาสตราจารย์ใหญ่ ทำให้ได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จึงสามารถคาดเดาเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นในแต่ละปี และ นำมาเตือนได้ในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ ฟอกส์นกฟีนิกซ์ของดัมเบิลดอร์ ได้เอาหมวกคัดสรรมาให้แฮร์รี่ที่ห้องแห่งความลับ และ ดาบกริฟฟินดอร์ที่แฮร์รี่หยิบมาจากในหมวกก็ทำให้แฮร์รี่รอดชีวิตกลับมาได้

ปากกาขนนกเลือด

แก้

เป็นปากกาขนนกที่อัมบริดจ์ใช้ในการลงโทษนักเรียนที่ฮอกวอตส์เมื่อครั้งเป็นศาสตราจารย์วิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด จนถึงเป็นศาสตราจารย์ใหญ่แห่งฮอกวอตส์ ปากกาขนนกของเธอปรากฏครั้งแรกตอนที่เธอต้องการลงโทษแฮร์รี่ พอตเตอร์ เพราะเธอกล่าวหาว่าเขาพูดโกหกเกี่ยวกับการกลับมาของเจ้าแห่งศาสตร์มืด โดยเธอให้แฮร์รี่ พอตเตอร์ เขียนคำว่า "ฉันจะไม่โกหก" ปากกาของเธอไม่ต้องใช้น้ำหมึก เพราะเมื่อเขียนลงบนกระดาษข้อความที่เขียนนั้นจะถูกกรีดสลักลงที่หลังมือของผู้เขียน ถือว่าเป็นการลงโทษที่โหดร้ายสำหรับนักเรียน และปากกานี้ได้ปรากฏอีกครั้งตอนที่เธอต้องการลงโทษนักเรียนเกี่ยวกับการก่อตั้งชมรมลับ นักเรียนที่ถูกลงโทษในครั้งนั้นเช่น เฟร็ด จอร์จ เฮอร์ไมโอนี่ เป็นต้น

อ้างอิง

แก้
  1. Author's website, Diary entry, Sept 29th เก็บถาวร 2005-12-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Harry Potter Lexicon archive
  2. "The One with J.K. Rowling".