กลุ่มอาการครี-ดูว์-ชา
กลุ่มอาการครี-ดูว์-ชา[1] (อังกฤษ: Cri-du-chat syndrome) เป็นโรคพันธุกรรมชนิดหนึ่งเกิดจากการหลุดหายของส่วนหนึ่งของแขนข้างสั้นของโครโมโซมคู่ที่ 5 การหลุดหายนี้อาจมีขนาดตั้งแต่เล็กมากเกิดกับเฉพาะส่วน 5p15.2 ไปจนถึงการหลุดหายของแขนข้างสั้นทั้งหมด การหลุดหายนี้ส่วนใหญ่เป็นการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นใหม่ แต่บางส่วนเกิดจากการมีการย้ายที่ของโครโมโซมแบบไม่สมดุลหรือเกิดจากการจัดเรียงตัวใหม่ทำให้มีการหมุนกลับรอบเซนโทรเมียร์ในพ่อหรือแม่ก็ได้ ความผิดปกตินี้พบได้ค่อนข้างน้อยคือ ประมาณ 1 ต่อ 20,000 คน และ พบในเด็กหญิงมากกว่าเด็กชาย ในอัตราส่วน 1 ต่อ 2 โดยเด็กที่เกิดมาและอยู่ในกลุ่มของอาการนี้ จะไม่เจริญเติบโตตามปกติ โดยจะมี ศีรษะเล็ก ใบหน้ากลม ใบหูต่ำ ตาห่างและชี้ไปด้านหลัง คางเล็ก จมูกแบน นิ้วค่อนข้างสั้น เสียงร้องแหลมเล็กคล้ายเสียงแมว เนื่องจากมีอาการที่กล่องเสียงผิดปกติ จึงเรียกอีกอย่างว่า cat - cry syndrome
กลุ่มอาการครี-ดูว์-ชา (Cri-du-chat syndrome) | |
---|---|
ลักษณะใบหน้าของผู้ป่วยกลุ่มอาการครี-ดูว์-ชาที่อายุ 8 เดือน (รูป A), 2 ปี (รูป B), 4 ปี (รูป C) และ 9 ปี (รูป D) | |
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก | |
ICD-10 | Q93.4 |
ICD-9 | 758.31 |
OMIM | 123450 |
DiseasesDB | 29133 |
MedlinePlus | 001593 |
eMedicine | ped/504 |
ครี-ดูว์-ชาเป็นนามวลีในภาษาฝรั่งเศส (แปลตามตัวอักษรว่า "เสียงร้องของแมว") ซึ่งมีที่มาจากเสียงร้องของทารกที่มีกลุ่มอาการนี้ซึ่งฟังคล้ายเสียงร้องของแมว โรคนี้พบครั้งแรกโดยเลอเฌิน (Lejeune) และคณะเมื่อปี ค.ศ. 1963[2] ซึ่งได้ให้คำอธิบายโรคนี้ว่าเป็นกลุ่มอาการที่ประกอบด้วยความผิดปกติแต่กำเนิดหลายอย่าง ภาวะสติปัญญาบกพร่อง ศีรษะเล็ก ใบหน้าผิดปกติ และมีเสียงร้องคล้ายแมว ที่เกิดกับทารกแรกเกิด ซึ่งเกิดจากการหลุดหายของโครโมโซมกลุ่ม B ซึ่งต่อมาภายหลังจึงทราบว่าเป็นการหลุดหายของ 5p
อ้างอิง
แก้- ↑ Dictionary.com
- ↑ Lejeune, J., Lafourcade, J., Berger, R., Vialatta, J., Boeswillwald, M., Seringe, P., Turpin, R. Trois ca de deletion partielle du bras court d'un chromosome 5. C. R. Acad. Sci. (Paris) 257: 3098, 1963.