ไอโฟน 4เอส (อังกฤษ: iPhone 4S) คือสมาร์ตโฟนระบบจอสัมผัสที่พัฒนาโดย บริษัทแอปเปิล ซึ่งเป็นรุ่นที่ห้าของ ไอโฟน ต่อมาจากรุ่น ไอโฟน 4 โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ก่อนสตีฟ จอบส์ จะเสียชีวิต และในงานมี Let's talk iPhone ไอโฟนรุ่นนี้พูดคุยกับ Siri ได้ ณ สำนักงานใหญ่แอปเปิล เมืองคูเปอร์ทิโน่ เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก iPhone 4 ซึ่งภายนอกมีลักษณะไม่แตกต่างกันมากนัก โดยรุ่นนี้มีการแก้ไขปัญหาสัญญาณตกที่เกิดกับ ไอโฟน 4 ในส่วนของระบบประมวลผลได้เปลี่ยนไปใช้ชิพ Apple A5 แบบเดียวกับ ไอแพด 2 และมีการเพิ่มความจุในรุ่น 64GB เข้ามา

ไอโฟน 4s
ผู้พัฒนาแอปเปิล
ผู้ผลิตฟอกซ์คอนน์
คำขวัญ"It's the most amazing iPhone yet."[1]
รูปแบบปัจจัยสมาร์ทโฟน
รุ่นที่ 5
วันที่วางจำหน่าย
14 ตุลาคม 2554
  • สหรัฐอเมริกา (เครื่องติดสัญญา)
  • แคนาดา
  • ออสเตรเลีย
  • สหราชอาณาจักร
  • ฝรั่งเศส
  • เยอรมนี
  • ญี่ปุ่น
28 ตุลาคม 2554
  • ออสเตรีย
  • เบลเยียม
  • สาธารณรัฐเช็ก
  • เดนมาร์ก
  • แอสโทเนีย
  • ฟินแลนด์
  • ฮังการี
  • ไอร์แลนด์
  • อิตาลี
  • ลัตเวีย
  • ลิกเตนสไตน์
  • ลิทัวเนีย
  • ลักเซมเบิร์ก
  • เม็กซิโก
  • เนเธอร์แลนด์
  • นอร์เวย์
  • สิงคโปร์
  • สโลวาเกีย
  • สโลวีเนีย
  • สเปน
  • สวีเดน
  • สวิตเซอร์แลนด์
11 พฤศจิกายน 2554
  • แอลเบเนีย
  • อาร์มีเนีย
  • บัลแกเรีย
  • เอลซัลวาดอร์
  • กรีซ
  • กัวเตมาลา
  • ฮ่องกง
  • มอลตา
  • มอนเตเนโกร
  • นิวซีแลนด์
  • ปานามา
  • โปแลนด์
  • โปรตุเกส
  • โรมาเนีย
  • เกาหลีใต้
  • สหรัฐอเมริกา (ไม่ติดสัญญา)
13 พฤศจิกายน 2554
  • ซาอุดีอาระเบีย
25 พฤศจิกายน 2554
  • โคลอมเบีย
  • มอลโดวา
  • อินเดีย
16 ธันวาคม 2554
  • บราซิล
  • ชิลี
  • อิสราเอล
  • มาเลเซีย
  • ฟิลิปปินส์
  • รัสเซีย
  • ซาอุดีอาระเบีย (อย่างเป็นทางการ)
  • แอฟริกาใต้
  • ไต้หวัน
  • ไทย
  • ตุรกี
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  • คูเวต
  • บาห์เรน
13 มกราคม 2555
  • แองกวิลลา
  • แอนติกาและบาร์บูดา
  • โบลิเวีย
  • บอตสวานา
  • หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน
  • แคเมอรูน
  • หมู๋เกาะเคย์แมน
  • สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
  • จีน
  • ดอมินีกา
  • สาธารณรัฐโดมินิกัน
  • เอกวาเดอร์
  • เกรเนดา
  • กวม
  • กินี
  • โกตดิวัวร์
  • จาเมกา
  • เคนยา
  • มาดากัสการ์
  • มาลี
  • มอริเชียส
  • ไนเจอร์
  • เซเนกัล
  • เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์
  • ตรินิแดดและโตเบโก
  • หมู่เกาะเติกส์และหมู่เกาะเคคอส
  • ยูกันดา
  • จอร์แดน
พฤศจิกายน-ธันวาคม 2554
  • ทั่วโลก (ไม่ติดสัญญา)
หน่วยขาย4 ล้านเครื่องภายใน 3 วัน[2]
ระบบปฏิบัติการแรกเริ่ม: iOS 5.0
ปัจจุบัน: iOS 9.3.5, released 26 สิงหาคม ค.ศ. 2016 (2016-08-26)
พลังงาน3.7V, 5.3Whr
หน่วยประมวลผลกลาง800 MHz ดูอัลคอร์ [แอปเปิล เอ5]][3]
ความจุ8,16,32, และ 64 GB
หน่วยความจำ512 MB[4]
การแสดงผล3.5 นิ้ว (89 มิลลิเมตร) diagonal 1.5:1 aspect ratio widescreen
แอลอีดี IPS TFT LCD Retina display
640×960 resolution at 326 ppi (0.61 MP)
800:1 contrast ratio (typical)
ความสว่างหน้าจอสูงสุด 500 cd/m2
Fingerprint-resistant oleophobic coating บนกระจกหน้า และ กระจกหลัง
เครื่องเสียงลำโพง ช่องเดียว
รูหูฟัง 3.5 mm TRRS
Frequency response: 20 Hz to 20 kHz
การรับเข้า4 ปุ่ม
ปุ่ม ปิด-เปิด
ไมโครโฟน, จอสัมผัส, acceleration, orientation
กล้องด้านหลัง8 MP back-side illuminated sensor
HD video (1080p) at 24/30 เฟรม
IR filter
Aperture f/2.4
5 element lens
โปรเซสเซอร์ประมวลผลภาพ(built-in A5)
ระบบจดจำใบหน้า (stills only)
ระบบป้องกันภาพสั่น
กล้องด้านหน้า0.3 MP ความละเอียดระดับ VGA 30 FPS (480p)
การเชื่อมต่อไวไฟ (802.11 b/g/n) (2.4 GHz only)
Bluetooth 4.0
Combined GSM/CDMA antenna: quad-band GSM/GPRS/EDGE
(800 850 900 1800 1900 MHz)
Quad-band UMTS/HSDPA/HSUPA
(800 850 900 1900 2100 MHz) (800 MHz unannounced)
Dual-band CDMA/EV-DO Rev. A (800 1900 MHz)
GLONASS, GPS
บริการออนไลน์ไอคลาว, แอปสโตร, ไอจูนส์ สโตร, ไอบุ๊คสโตร
ขนาด115.2 mm (4.54 in) H
58.66 mm (2.309 in) W
9.3 mm (0.37 in) D
นำ้หนัก140 g (4.9 oz)
บรรพบุรุษไอโฟน 4
บทความที่เกี่ยวข้องไอโฟน, ไอแพด (ยุคที่ 3), ไอพอด
เว็บไซต์apple.com/iphone

อ้างอิง

แก้
  1. "iPhone". Cupertino, California: Apple. สืบค้นเมื่อ October 23, 2011.
  2. "iPhone 4S First Weekend Sales Top Four Million". Apple. สืบค้นเมื่อ October 17, 2011.
  3. "iPhone 4S Preliminary Benchmarks: ~800MHz A5, Slightly Slower GPU than iPad 2, Still Very Fast". AnandTech. October 11, 2011. สืบค้นเมื่อ October 15, 2011.
  4. "iPhone 4S Teardown". iFixit. สืบค้นเมื่อ October 13, 2011. Check out the marking, specifically E4E4, denoting two 2 Gb LPDDR2 die—for a total of 4 Gb—or 512 MB