โจงั่ง มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า เฉา อ๋าง (จีน: 曹昂; พินอิน: Cáo Áng; การออกเสียง; ป. ค.ศ. 177 – กุมภาพันธ์หรือมีนาคม ค.ศ. 197)[a] ชื่อรอง จื่อซิว (จีน: 子脩; พินอิน: Zǐxiū) เป็นบุตรชายคนโตของโจโฉขุนศึกผู้ขึ้นมามีอำนาจในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นและวางรากฐานให้กับรัฐวุยก๊กในยุคสามก๊กของจีน โจงั่งถูกสังหารในยุทธการที่อ้วนเซียในปี ค.ศ. 197[1]

โจงั่ง (เฉา อ๋าง)
曹昂
ประสูติป. ค.ศ. 177[1]
สวรรคตระหว่างวันที่ 5 กุมภาพันธ์ถึง 6 มีนาคม[a] ค.ศ. 197 (20 ปี)[1]
เขตหว่านเฉิง นครหนานหยาง มณฑลเหอหนาน
พระนามเต็ม
ชื่อสกุล: โจ (曹 เฉา)
ชื่อตัว: งั่ง (昂 อ๋าง)
ชื่อรอง: จื่อซิว (子脩)
พระสมัญญานาม
อ๋องแห่งหมิ่น (愍王 หมิ่นหวาง)
ราชวงศ์ราชตระกูลโจ
พระราชบิดาโจโฉ
พระราชมารดาเล่าซี

ประวัติ

แก้

โจงั่งเป็นบุตรชายคนแรกของโจโฉกับเล่าซี (劉氏 หลิวชื่อ หรือ 劉夫人 หลิวฟูเหริน) ผู้เป็นอนุภรรยา เล่าซียังให้กำเนิดบุตรชายของโจโฉอีกคนคือเฉา ชั่ว (曹鑠) และบุตรสาวคือเจ้าหญิงใหญ่[3]ชิงเหอ (清河長公主 ชิงเหอจ่างกงจู่)[4][5] อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเล่าซีเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร โจงั่งจึงได้รับการเลี้ยงดูจากติงฟูเหริน (丁夫人) ภรรยาหลวงคนแรกของของโจโฉที่ปฏิบัติต่อโจงั่งเหมือนเป็นบุตรชายของตนเอง[6]

ไม่มีบันทึกเกี่ยวประวัติช่วงต้นของโจงั่งในประวัติศาสตร์ นอกเหนือจากเรื่องที่โจงั่งได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเซี่ยวเหลียน (孝廉; ผู้ได้รับเลือกเข้ารับราชการพลเรือน) ขณะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ (ประมาณ 19 ปี)[7] ในเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม ค.ศ. 197 โจงั่งติดตามบิดาในการศึกที่รบกับเตียวสิ้วในอ้วนเซีย (宛 หว่าน หรือ 宛城 หว่านเฉิง; ในปัจจุบันคือเขตหว่านเฉิง นครหนานหยาง มณฑลเหอหนาน) เตียวสิ้วยอมจำนนในตอนแรก แต่กลับก่อกบฏในภายหลัง โดยเปิดฉากการโจมตีโจโฉโดยฉับพลันและทำให้โจโฉไม่ทันตั้งตน โจโฉได้รับบาดเจ็บที่แขนข้างขวาเพราะถูกยิงด้วยเกาทัณฑ์ระหว่างการรบ ในขณะที่ม้าเจฺว๋อิ่ง (絕影) ที่โจโฉขี่ถูกเกาทัณฑ์ยิงที่คอและขา[8] โจงั่งไม่สามารถขึ้นบนหลังม้าได้จึงมอบม้าของตนให้บิดาขี่ โจโฉจึงหนีออกจากอ้วนเซียได้ ส่วนโจงั่งเสียชีวิตในที่รบในเวลาต่อมา[9][10][11]

เหตุการณ์ในภายหลังและการสืบเชื้อสาย

แก้

ติงฟูเหรินร้องไห้อยู่บ่อยครั้งให้กับการเสียชีวิตของโจงั่งและกล่าวหาโจโฉว่าเป็นต้นเหตุทำให้โจงั่งถูกสังหาร โจโฉโกรธมากและส่งติงฟูเหรินกลับไปอยู่กับครอบครัวเดิมด้วยหวังว่าติงฟูเหรินจะเปลี่ยนความคิดได้ เมื่อโจโฉไปพบติงฟูเหรินเมื่อราวปี ค.ศ. 200 ติงฟูเหรินปฏิเสธที่จะสนทนากับโจโฉ ทั้งสองจึงหย่าร้างกันอย่างเป็นทางการ[12] หลังการเสียชีวิตของติงฟูเหริน โจโฉมักกังวลว่าตนจะพบหน้าวิญญาณของโจงั่งได้อย่างไรหากวิญญาณของโจงั่งถามถึงติงฟูเหริน[13]

ในปี ค.ศ. 221 หลังโจผี (บุตรชายอีกคนของโจโฉ) โค่นล้มราชวงศ์ฮั่นและก่อตั้งรัฐวุยก๊ก (ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสามก๊ก) พระองค์ทรงแต่งตั้งโจงั่งย้อนหลังให้มีสมัญญามนาม "เฟิงเต้ากง" (豐悼公) สามปีต่อมา โจงั่งได้รับการเลื่อนสถานะเป็นอ๋อง โดยมีสมัญญานามว่า "อ๋องเต้าแห่งเฟิง" (豐悼王 เฟิงเต้าหวาง) ในปี ค.ศ. 229 ในรัชสมัยของโจยอยพระโอรสของโจผี สมัญญานามของโจงั่งเปลี่ยนเป็น "อ๋องหมิ่นแห่งเฟิง" (豐愍王 เฟิงหมิ่นหวาง)[14]

โจงั่งไม่มีบุตรชายเป็นผู้สืบเชื้อสายหลังโจงั่งเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 222 เฉา หว่าน (曹琬) บุตรชายของเฉา จฺวิน (曹均) ที่เป็นพี่น้องต่างมารดาของโจงั่งได้รับการตั้งให้เป็นทายาทของโจงั่ง และได้รับการแต่งตั้งให้มีฐานันดรศักดิ์จงตูกง (中都公) ต่อมาในปีเดียวกัน เฉา หว่านได้รับการตั้งให้มีฐานันดรศักดิ์จ๋างจื่อกง (長子公) ในปี ค.ศ. 254 ในรัชสมัยของโจฮอง เฉา หว่านได้เลื่อนขึ้นเป็น "อ๋องแห่งเฟิง" (豐王 เฟิงหวาง) และได้รับเขตศักดินา "เฟิง" ตามสมัญญานามของโจงั่ง จำนวนศักดินาเพิ่มขึ้นในช่วงรัชสมัยของโจมอและโจฮวนจนถึงมาถึง 2,700 ครัวเรือน หลังเฉา หว่านสิ้นพระชนม์ ได้รับสมัญญานามว่า "อ๋องกงแห่งเฟิง" (豐恭王 เฟิงกงหวาง) เฉา เหลียน (曹廉) โอรสของเฉา หว่าได้สืบเชื้อสายต่อมา[15]

มีการค้นพบหลุมศพแห่งหนึ่งที่สุสานโจโฉในอำเภออานหยาง ซึ่งในหลุมศพมีเสื้อผ้าแต่ไม่มีศพมนุษย์ เสื้อผ้านี้อาจเป็นของโจงั่ง เพราะศพของโจงั่งไม่เคยถูกค้นพบ[16][17][18]

หมายเหตุ

แก้
  1. 1.0 1.1 จือจื้อทงเจี้ยนบันทึกว่ายุทธการที่อ้วนเซียเกิดขึ้นในเดือน 1 ของศักราชเจี้ยนอัน (建安) ปีที่ 2 ในรัชสมัยพระเจ้าเหี้ยนเต้แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออก[2] เดือนนี้เทียบได้กับช่วงเวลาระหว่างวันที่ 5 กุมภาพันธ์ถึง 6 มีนาคม ค.ศ. 197 ในปฏิทินกริกอเรียน

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 1.2 de Crespigny (2007), p. 33.
  2. Sima (1084), vol. 62.
  3. Lee, Lily; Wiles, Sue, บ.ก. (2015). Biographical Dictionary of Chinese Women. Vol. II. Routledge. p. 609. ISBN 978-1-317-51562-3. An emperor's [...] sister or a favorite daughter was called a grand princess (zhang gongzhu); and his aunt or grand-aunt was called a princess supreme (dazhang gongzhu).
  4. (武皇帝二十五男: ... 劉夫人生豐愍王昂、相殤王鑠, ...) สามก๊กจี่ เล่มที่ 20.
  5. (魏略曰:太祖始有丁夫人,又劉夫人生子脩及清河長公主。) อรรถาธิบายจากเว่ย์เลฺว่ในสามก๊กจี่ เล่มที่ 5.
  6. (魏略曰:太祖始有丁夫人,又劉夫人生子脩及清河長公主。劉早終,丁養子脩。子脩亡於穰,丁常言:「將我兒殺之,都不復念!」遂哭泣無節。)อรรถาธิบายจากเว่ย์เลฺว่ในสามก๊กจี่ เล่มที่ 5.
  7. (豐愍王昂字子脩。弱冠舉孝廉。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 20.
  8. (魏書曰:公所乘馬名絕影,為流矢所中,傷頰及足,并中公右臂。) อรรถาธิบายจากเว่ยชูในสามก๊กจี่ เล่มที่ 5.
  9. (世語曰:昂不能騎,進馬於公,公故免,而昂遇害。) อรรถาธิบายชื่อ-ยฺหวี่ในสามก๊กจี่ เล่มที่ 1.
  10. (二年春正月,公到宛。張繡降,旣而悔之,復反。公與戰,軍敗,為流矢所中,長子昂、弟子安民遇害。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 1.
  11. (隨太祖南征,為張繡所害。無子。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 20.
  12. de Crespigny, Rafe (2010). Imperial Warlord A Biography of Cao Cao 155-220 AD (ebook) (ภาษาอังกฤษ). Brill. p. 401. ISBN 9789004188303. สืบค้นเมื่อ 10 January 2022.
  13. อรรถาธิบายจากเว่ย์เลฺว่ในสามก๊กจี่ เล่มที่ 5.
  14. (黃初二年追封,謚曰豐悼公。 ... 五年,追加昂號曰豐悼王。太和三年改昂謚曰愍王。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 20.
  15. ([黄初]三年,以樊安公均子琬奉昂後,封中都公。其年徙封長子公。 ... 嘉平六年,以琬襲昂爵為豐王。正元、景元中,累增邑,并前二千七百戶。琬薨,謚曰恭王。子廉嗣。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 20.
  16. Everington, Keoni (26 March 2018). "Tomb of legendary Chinese general Cao Cao found". Taiwan News. สืบค้นเมื่อ 27 March 2018.
  17. Zhou, Laura (26 March 2018). "Archaeologists confident they have found body of fabled Chinese warlord Cao Cao". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 27 March 2018.
  18. "梟雄出土 河南考古找到曹操遺骸 [A xiaoxiong is unearthed; Henan archaeologists discover Cao Cao's remains]". Apple Daily (ภาษาจีน). 25 March 2018. สืบค้นเมื่อ 27 March 2018.[ลิงก์เสีย]

บรรณานุกรม

แก้