แจ็ก บัตแลนด์
แจ็ก บัตแลนด์ (อังกฤษ: Jack Butland; เกิดวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1993) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ ตำแหน่งผู้รักษาประตู เล่นให้กับเรนเจอส์ เขาเคยติดทีมชาติอังกฤษ เนื่องจากจอห์น รัดดี้บาดเจ็บ จึงได้ไปร่วมแข่งขันยูโร 2012แทนในฐานะผู้รักษาประตูมือ 3
ข้อมูลส่วนตัว | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | แจ็ก บัตแลนด์[1] | ||||||||||||||||
วันเกิด | [2] | 10 มีนาคม ค.ศ. 1993||||||||||||||||
สถานที่เกิด | บริสตอล ประเทศอังกฤษ | ||||||||||||||||
ส่วนสูง | 6 ft 5 in (1.96 m)[2] | ||||||||||||||||
ตำแหน่ง | ผู้รักษาประตู[3] | ||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | |||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | เรนเจอส์ | ||||||||||||||||
หมายเลข | 1 | ||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | |||||||||||||||||
คลีฟดอนยูไนเต็ด | |||||||||||||||||
2007–2010 | เบอร์มิงแฮมซิตี | ||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | |||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | ||||||||||||||
2010–2013 | เบอร์มิงแฮมซิตี | 29 | (0) | ||||||||||||||
2011 | → เชลท์นัมทาวน์ (ยืม) | 12 | (0) | ||||||||||||||
2012 | → เชลท์นัมทาวน์ (ยืม) | 12 | (0) | ||||||||||||||
2013–2020 | สโตกซิตี | 157 | (0) | ||||||||||||||
2013 | → เบอร์มิงแฮมซิตี (ยืม) | 17 | (0) | ||||||||||||||
2013 | → บาร์นสลีย์ (ยืม) | 13 | (0) | ||||||||||||||
2014 | → ลีดส์ยูไนเต็ด (ยืม) | 16 | (0) | ||||||||||||||
2014 | → ดาร์บีเคาน์ตี (ยืม) | 6 | (0) | ||||||||||||||
2020–2023 | คริสตัลพาเลซ | 10 | (0) | ||||||||||||||
2023 | → แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ยืม) | 0 | (0) | ||||||||||||||
2023– | เรนเจอส์ | 33 | (0) | ||||||||||||||
ทีมชาติ | |||||||||||||||||
2008–2009 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 16 ปี | 4 | (0) | ||||||||||||||
2009–2010 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 17 ปี | 9 | (0) | ||||||||||||||
2010–2011 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 19 ปี | 4 | (0) | ||||||||||||||
2011–2014 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 20 ปี | 7 | (0) | ||||||||||||||
2011–2015 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี | 28 | (0) | ||||||||||||||
2012 | บริเตนใหญ่ | 5 | (0) | ||||||||||||||
2012–2018 | อังกฤษ | 9 | (0) | ||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| |||||||||||||||||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 07:39, 7 มิถุนายน ค.ศ. 2023 (UTC) |
ประวัติ
แก้บัทแลนด์เกิดที่บริสตอล หลังจากเล่นให้คลีฟดอนยูไนเต็ด และสถาบันบริสตอล เขาเซ็นสัญญากับเบอร์มิงแฮมซิตีในฐานะนักเตะเยาวชนในปี 2007 และหลังจากออกจากโรงเรียนคลีฟดอน เขาได้รับทุนการศึกษาสองปี ในสถาบันการศึกษาของเยาวชนของสโมสร ในอายุ 16 ขวบ บัทแลนด์ลงเล่นให้ทีมสำรองและเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในระยะเวลา 2 ปีครึ่ง ในวันที่ 17 มีนาคม 2010 และได้เป็นผู้เล่นทีมเยาวชนยอดเยี่ยมของเบอร์มิงแฮมในฤดูกาล 2009-2010 เขาได้รับบาดเจ็บที่มือจนต้องผ่าตัดระยะหนึ่ง ต่อมาในเดือนเมษายนเขาหายเจ็บแล้วได้มีชื่อในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมพรีเมียร์ลีกที่พบกับ วูลฟ์แฮมป์ตันเนื่องจาก เบน ฟอสเตอร์ ได้รับบาดเจ็บและอาการเจ็บป่วยของ โคลิน ดอยล์
ต่อมาบัทแลนด์ได้รับเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี แล้วได้เซ็นสัญญากับทีมในลีกทู คือ เชลท์แนม ในฐานะนักเตะยืมตัว เขาได้ลงเล่นนัดแรกในเกมที่พบ มัคเคิลสฟิลด์ ทาวน์ และเชลท์แนมชนะ 2-0 แล้วบัทแลนด์ได้ต่อสัญญากับเบอร์มิงแฮมถึงปี 2015 เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมลีกทูในเดือนพฤศจิกายน สุดท้ายทำคลีนชีตได้ถึง 7 จาก 12 นัด
ต่อมาเชลท์แนมได้ยืมตัวเขาอีกครั้งจนจบฤดูกาล ได้ลงเล่น 12 นัด เขาได้กลับเบอร์มิงแฮมเนื่องจาก โบอาซ มายฮิลล์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งเจ็บ
ย้ายร่วมสโตกซิตี
แก้บัตแลนด์ร่วมทีม สโตกซิตี ด้วยสัญญา 4 ปีครึ่ง ในวันที่ 31 มกราคม 2013 แต่สโตกซิตีให้เบอร์มิงแฮมซิตียึมตัวในอีกครึ่งฤดูกาลหลัง[4][5] หลังจากกลับมาจากยึมตัวเขาพบว่าตัวเขาเป็นมือสาม รองจาก อัสเมียร์ เบโกวิช และ โธมัส โซเรนเซ่น, และเมื่อวันที่ 26 กันยายน เขาร่วมบาร์นสลีย์ ในสัญญายึมตัว[6]
ในฤดูกาล 2015–16 บัตแลนด์ได้รับเลือกให้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ในนัดที่สโตกซิตี เสมอ กับ นอริชซิตี ไป 1-1 และในนัดถัดมาที่สโตกซิตีบุกไปเยือน อาร์เซนอล ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ก็ตาม และถึงแม้ว่าสโตกซิตีจะแพ้ไป 2-0 แต่บัตแลนด์ก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม [7][8][9]
ผลงานทีมชาติ
แก้บัทแลนด์ลงเล่นเกมแรกในทีมชาติในวันที่ 3 ตุลาคม 2008 สามารถทำคลีนชีตได้ในเกมที่พบกับไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งอังกฤษชนะ 6-0
เขาได้เลื่อนขึ้นไปชุดยู 17 ในปี 2009 และเป็นตัวเป็นตัวจริงสำหรับทีม ซึ่งอังกฤษสามารถคว้าแชมป์ได้จากการชนะสเปน 2-1
ต่อมาเขาได้ติดทีมชาติชุดไปแข่งขันฟุตบอลยู 20 ชิงแชมป์โลก เขาสามารถเก็บคลีนชีตได้ทั้ง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่มช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบ 16 ทีม เขาพลาดเสียประตูครั้งเดียว เขาติดทีมชาติยู 21 ในวันที่ 1 กันยายน 2011 บัทแลนด์ติดทีมชาติเพราะ จอห์น รัดดี้ เจ็บ ทำให้ได้ไปยูโร 2012 แทนในฐานะผู้รักษาประตูมือ 3 แต่ในยูโร 2016 บัตแลนด์บาดเจ็บที่ข้อเท้า ทำให้อดไปร่วมแข่งขัน[10]
อ้างอิง
แก้- ↑ "FIFA World Cup Russia 2018: List of players: England" (PDF). FIFA. 15 July 2018. p. 10. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 6 December 2019.
- ↑ 2.0 2.1 "Jack Butland: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 6 April 2020.
- ↑ "แจ็ก บัตแลนด์". Barry Hugman's Footballers. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2019.
- ↑ "Birmingham City keeper Jack Butland moves to Stoke City". BBC Sport. 31 January 2013. สืบค้นเมื่อ 1 February 2013.
- ↑ "Stoke sign England keeper". Stoke City F.C. 31 January 2013. สืบค้นเมื่อ 1 February 2013.
- ↑ Krishnan, Joe (26 September 2013). "Jack Butland joins Barnsley from Stoke on three-month emergency loan". The Independent. สืบค้นเมื่อ 8 October 2013.
- ↑ "Norwich City 1 Stoke City 1, match report: Jack Butland offers England reminder of his credentials". The Telegraph. สืบค้นเมื่อ 30 August 2015.
- ↑ "Stoke escaped with a 1-1 draw from Norwich thanks to Jack Butland". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 30 August 2015.
- ↑ "Arsenal 2 Stoke City 0 analysis: Jack Butland the star man to keep Gunners at bay". independent. สืบค้นเมื่อ 13 September 2015.
- ↑ "ยูโร 2016 ใครชนะใครแชมป์ 28 06 59 เบรก 1". ฟ้าวันใหม่. June 28, 2016. สืบค้นเมื่อ June 30, 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Profile at the Football Association website
- แจ็ก บัตแลนด์ – สถิติการลงแข่งจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) (อังกฤษ)
- แจ็ก บัตแลนด์ – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (ในภาษาอังกฤษ)