เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 เป็นการแสดงมวยปล้ำอาชีพแบบ เพย์-เพอร์-วิว (PPV) จัดโดย ดับเบิลยูดับเบิลยูอี (WWE), จัดเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2012 ที่เมือง ไมแอมี รัฐฟลอริดา สนาม ซันไลฟ์ สเตเดียม[5][6][7] เป็นศึกที่รวมการแสดงนักมวยปล้ำแต่ละค่ายของ WWE เอาไว้ทั้งหมด โดยเรสเซิลเมเนียครั้งนี้ยังถือว่าเป็นเรสเซิลเมเนียที่ทำรายได้มากที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดเรสเซิลเมียมา[8][9]
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 | |||
---|---|---|---|
โปสเตอร์ศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 โดยมี จอห์น ซีนา และ เดอะ ร็อก เป็นนายแบบ | |||
สมาคม | WWE | ||
วันที่ | 1 เมษายน 2012 | ||
เมือง | Miami, Florida | ||
สถานที่ | Sun Life Stadium | ||
ผู้ชม | 78,363 | ||
แท็กไลน์ | "Once in a Lifetime" (ครั้งหนึ่งในชีวิต) | ||
ลำดับเหตุการณ์ Pay-per-view | |||
| |||
ลำดับเหตุการณ์WrestleMania | |||
|
เบื้องหลัง
แก้เรื่องราวของ เดอะ ร็อก และ จอห์น ซีนา[10] ในศึกรอว์ (4 เมษายน 2011) หลังจบ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 จากการที่ เดอะ ร็อก ได้มาลอบทำร้าย จอห์น ซีนา ในการชิงแชมป์ WWE กับ เดอะ มิซ จนทำให้ ซีนา เป็นฝ่ายแพ้ ซีนา เลยเรียก เดอะ ร็อก ออกมาที่เวที และท้า เดอะ ร็อก ว่าจะเจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 โดย เดอะ ร็อก ก็รับข้อเสนอของซีนาโดยที่ ขวัญใจ 2 ยุคมาเจอกัน โดยทั้งคู่ก็จับมือรับข้อเสนอไปด้วยดี[11]
ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2011) เดอะ ร็อก ได้กลับมาปล้ำใน WWE อีกครั้ง ในรอบ 7 ปี โดยคู่กับ ซีนา เจอกับ เดอะมิซ และ อาร์-ทรูธ สุดท้ายร็อก และซีนา ก็เอาชนะไปได้ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ ร็อกได้เล่นงานซีนา ด้วยท่า Rock Bottom เป็นการปิดท้ายรายการอีกด้วย[12]
ในรอว์ (20 กุมภาพันธ์ 2012) ซีนาออกมา และพูดถึงร็อกว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ แต่สัปดาห์หน้าเขาจะมาเพื่อมาคุยกับชั้น เมื่อก่อนชั้นก็เคยชอบเค้านะ แต่ตอนนี้น่ะเอียนแล้ว ก็ยินดีกับมันด้วยละกันกับการที่แสดงหนังอันดับหนึ่งของบ๊อกซ์ออฟฟิซ สัปดาห์หน้ามันก็คงมารอว์ ทำท่ายักคิ้วให้คนดูดีใจ จากนั้นก็กลับไปฮอลลีวู้ดเหมือนเดิม สิ่งที่ชั้นภาคภูมิใจก็คือชั้นอยู่กับ WWE มาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา และไม่เคยจากไปไหน แล้วที่ร็อกมันกลับมาคราวก่อนน่ะนะ มันก็แค่มาโปรโมต Fast Five กับทวิตเตอร์ของมันเท่านั้น ชั้นคนนี้คือคนที่อยู่กับ WWE ตลอด ชั้นขึ้นปล้ำในเรสเซิลเมเนีย อย่างภาคภูมิใจในฐานะนักมวยปล้ำ พาดหัวข่าวหลังจากคืนนั้นจะต้องเป็นซีนาเอาชนะร็อก ในบ้านเกิดของเขาที่ ไมอามี ฟลอริดา เอาไว้เจอกันในเรสเซิลเมเนียก็แล้วกัน
ในรอว์ (27 กุมภาพันธ์ 2012) ร็อกออกมาทักทายแฟนๆ ในสนาม และพูดถึงซีนาว่าชั้นไม่คิดว่านายเป็นคนเลวหรอกนะ แต่นายแค่เป็นคนกระจอกๆ เท่านั้นเอง สัปดาห์ก่อนนายพูดจาพาดพิงถึงชั้น นายบอกว่านายจะต่อสู้ในฐานะตัวแทนนักมวยปล้ำทุกคน แต่ชั้นจะสู้เพื่อแฟนๆ ทุกคน แฟนๆ ที่เบื่อหน่ายแกที่ทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ ทุกค่ำคืน ซีนาออกมาตอบโต้ และบอกว่าเขาไม่ชอบ ดเวย์น จอห์นสัน จะจัดการกับมันในเรสเซิลเมเนีย ก่อนจะเดินจากไป เดอะ ร็อก ก็บอกว่าถึงแกจะปากเสียแล้วรีบเดินหนีไป แต่ว่าความจริงแล้ว เดอะ ร็อก กับ ดเวย์น จอห์นสัน มันก็คนเดียวกัน และมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะว่าในเรสเซิลเมเนีย ชั้นจะเตะก้นแก If You Smell What the Rock is Cooking?
ในรอว์ (12 มีนาคม 2012) ซีนาออกมาในมาดของ Dr.Thugonomic ใส่หมวกกลับหัว, โซ่ห้อยคอ, เสื้อบาสเก็ตบอล และใช้เพลงเปิดตัวแบบเก่าของตัวเองด้วย ซีนาเริ่มพูดด้วยสำเนียงเด็กแร็ปด่า เดอะ ร็อก ว่าเป็นพวกทรยศเหมือนกับ ลีบอร์น เจมส์ (นักบาสเก็ตบอลที่ย้ายหนีไปจากคลีฟแลนด์) สัปดาห์ก่อน เดอะ ร็อก หรือไอ้ ดเวย์น จอห์นสัน มันโกรธว่ะ มันบอกให้ชั้นหุบปาก แต่หลังจากวันที่ 1 เมษายน มันจะต้องไปศัลยกรรมใบหน้าเหมือนกับที่มันเคยทำศัลยกรรมนมมาแล้ว Team Bring It เหรอ พวกมันไม่น่ากลัวหรอก เพราะ เดอะ ร็อก มันเป็น Tooth Fairy ชั้นจะกระทืบแกในเรสเซิลเมเนีย และเอาถั่วยัดใส่หน้าแก คืนเดียวกัน เดอะ ร็อก ออกมาพร้อมกับกีตาร์โปร่งเพื่อจัด Rock Concert ทักทายแฟนๆ ชาวคลีฟแลนด์แล้ว เดอะ ร็อก ก็เริ่มเล่นกีตาร์และร้องเพลงที่แต่งเอง เป็นเพลงด่าซีนา หลังร้องเสร็จแล้ว เดอะ ร็อก ก็ประกาศจะกระทืบซีนา ในเรสเซิลเมเนีย ต่อด้วยเปิดเพลง We Will Rock You ฉบับดัดแปลงด่าซีนา มาร้องกับแฟนๆ ในสนามเป็นการปิดรายการ
เรื่องราวของ ดิอันเดอร์เทเกอร์ และ ทริปเปิลเอช[13] ในรอว์ (30 มกราคม 2012) ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้หายกลับมาจากอาการบาดเจ็บ โดยเผชิญหน้ากับ ทริปเปิลเอช ก่อนจะมองโลโก้เรสเซิลเมเนีย และทำท่าเชือดคอแล้ว ทริปเปิลเอช ก็เดินจากไป ต่อมาอันเดอร์เทเกอร์ ได้ขอท้าเจอกับทริปเปิลเอชอีกครั้ง ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งที่ 3 ของเรสเซิลเมเนีย (อันเดอร์เทเกอร์ สามารถเอาชนะ ทริปเปิล เอช ไปได้ถึง 2 ครั้ง ในครั้งที่ 17 และ ครั้งที่ 27) ในรูปแบบการปล้ำในกรงเหล็กเฮลอินเอเซล แมตช์ โดยมีสถิตไร้พ่าย 19-0 ของอันเดอร์เทเกอร์ เป็นเดิมพัน
ชอว์น ไมเคิลส์ ได้มาปรากฏตัวในรอว์ 13 กุมภาพันธ์ 2012 ได้ออกมาบอกให้ ทริปเปิลเอช ออกมารับคำท้าของอันเดอร์เทเกอร์ ที่จะเจอกันในเรสเซิลเมเนีย หลังจากนั้น ทริปเปิลเอช ออกมาและคุยกับชอว์น และชอว์นต้องการให้ทริปเปิลเอช ทำลายสถิติของอันเดอร์เทเกอร์ (19-0) ทั้งคู่จ้องตากันสักพักแล้ว ทริปเปิลเอชก็บอกว่าไม่ ชอว์นทิ้งไมค์ลงทันทีแล้วเดินจากไป ในรอว์ 20 กุมภาพันธ์ 2012 ทริปเปิลเอช ก็ยอมรับคำท้าของอันเดอร์เทเกอร์ เนื่องจากอันเดอร์เทเกอร์ บอกว่า ชอว์นเหนือกว่าตน ทริปเปิลเอชเลยยอมรับคำท้าและเพื่อที่จะทำในสิ่งที่ชอว์นทำไม่สำเร็จ โดยการทำลายสถิติของอันเดอร์เทเกอร์ ในรอว์ (5 มีนาคม 2012) ชอว์นก็ออกมาปรากฏตัวและกล่าวขอโทษทริปเปิลเอช ที่พูดรุนแรงไปเมื่อคราวก่อนและชอว์นได้ประกาศว่าจะเป็นกรรมการให้ในแมตช์ของทริปเปิลเอช เจอกับ อันเดอร์เทเกอร์ ในเรสเซิลเมเนีย
เรื่องราวของการชิงแชมป์ ของ แดเนียล ไบรอัน และ เชมัส เพื่อชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท[14] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2011) แดเนียล ไบรอัน ได้เอาชนะแมตช์ชิงกระเป๋าฝั่งสแมคดาวน์ โดยมี เวด บาร์เร็ตต์, เชมัส, โคดี โรดส์, เคน, ฮีท สเลเตอร์, จัสติน เกเบรียล และ ซิน คารา เป็นผู้ร่วมเข้าแข่งขันทั้งหมด ต่อมาในสแมคดาวน์ (22 กรกฎาคม 2011) แดเนียล ไบรอัน ได้ประกาศว่าจะใช้กระเป๋าในเรสเซิลเมเนีย 28[15] แต่ในทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2011) ไบรอันก็ได้ใช้กระเป๋าจนสามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทมาจากบิ๊กโชว์[16]
ในรอยัลรัมเบิล (2012) เชมัสได้เป็นผู้ขนะแมตช์รอยัลรัมเบิล ประจำปี 2012 ทำให้ได้เป็นคู่เอกชิงแชมป์โลกในเรสเซิลเมเนีย 28[17] ต่อมาในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2012) เชมัสได้ออกมาลอบทำร้ายไบรอัน และได้เลือกที่จะชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในเรสเซิลเมเนีย
เรื่องราวของการชิงแชมป์ ของ ซีเอ็ม พังก์ และ คริส เจริโค เพื่อชิงแชมป์ WWE[18] ในศึกรอว์ (30 มกราคม 2012) คริส เจริโค ได้มาก่อกวนการปล้ำของ ซีเอ็ม พังก์ และ แดเนียล ไบรอัน ทำให้พังก์ถูกปรับแพ้ฟาล์ว หลังแมตช์ เจอริโคขึ้นมาใส่ท่า Codebreaker เล่นงานพังก์ ก่อนจะเดินจากไป ในศึกรอว์ (6 กุมภาพันธ์ 2012) เจอริโค จะต้องปล้ำในซิกแพ็กชาเลนซ์ หรือแมตช์การปล้ำ 6 คน โดยเจอกับ ซีเอ็ม พังก์ (แชมป์ WWE), ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์, เดอะมิซ, อาร์-ทรูธ และ โคฟี คิงส์ตัน สุดท้ายเจอริโคเป็นฝ่ายชนะนักมวยปล้ำทั้ง 5 คนได้
ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ในแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ชิงแชมป์ WWE ระหว่าง ซีเอ็ม พังก์, เจอริโค, เดอะมิซ, อาร์-ทรูธ, ซิกก์เลอร์ และคิงส์ตัน โดยระหว่างแมตช์ เจอริโคต้องออกจากการแข่งขันจากการถูกพังก์เตะออกนอกกรงและหัวไปกระแทกกับกล้องนอกสนาม จนกรรมการส่งสัญญาณตัว X ให้เจอริโคออกจากแมตช์ทันที ในรอว์ (20 กุมภาพันธ์ 2012) เจอริโคได้เป็นผู้ชนะในแมตช์แบทเทิลรอยัล ทำให้ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับพังก์ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 โดยพังก์ขึ้นมาแสดงความยินดีด้วยการจับมือ แต่เจอริโคไม่จับมือแล้วเดินออกไป
ในรอว์ (27 กุมภาพันธ์ 2012) พังก์ได้เจอกับ แดเนียล ไบรอัน ผลปรากฏว่า พังก์กำลังจะกดนับ 3 แต่จอห์น โลรีนายติส สั่งให้กรรมการสั่นระฆังยุติการปล้ำ ทำให้ ทีโอดอร์ ลอง ไม่พอใจเลยผลักใส่โลรีนายติส ล้มลงไป และพังก์ ก็เดินกลับแต่เจอริโคออกมาลอบทำร้ายโดยใส่สแลมกับพื้นโลหะ และใส่ท่า Wall of Jericho และท้าพังก์ว่าใครคือ "สุดยอดที่สุดในโลก" จากนั้นเจอริโคก็ได้พูดด่าถึงครอบครัวของพังก์ โดยด่าว่า พ่อติดเหล้า, น้องสาวติดยา, แม่แต่งงานหลังวันเกิดของพังก์ ทำให้พังก์โกรธมากและบอกว่าจะอัดเจอริโคให้เละในเรสเซิลเมเนีย
เรื่องราวของ ทีมจอห์น โลรีนายติส และ ทีมทีโอดอร์ ลอง[19] จอห์น โลรีนายติส และเดวิด โอทังกา ออกมาประกาศเรื่องสำคัญว่าเขาต้องการจะเป็นผู้จัดการควบทั้งรอว์ และสแมคดาวน์ โดยอัลเบร์โต เดล รีโอออกมาและสนับสนุนโลรีนายติส และมาร์ก เฮนรีออกมาสนับสนุนอีกคน และบอกว่าทีโอดอร์ ลองเป็นอันธพาล สองสัปดาห์ก่อนเขาทำร้ายฉันและยังสั่งแบนอีกด้วย เฮนรีบอกกับโลรีนายติสว่าเราไม่เคยเจอกัน แต่นายไม่ใช่คนที่ชอบรังแกคนอื่น ดังนั้นฉันคิดว่านายควรจะได้เป็นผู้จัดการทั้งรอว์และสแมคดาวน์ จากนั้นคริสเตียนก็ออกมาสนับสนุนอีกคน และบอกว่าเขาโดนเชมัส เล่นงานข้อเท้า และยังโดนบิ๊กโชว์อัดจนคอแทบหัก แต่ทีโอดอร์ ลองก็ยังบังคับให้ฉันออกไปปล้ำจนต้องเจ็บซ้ำอีก ดังนั้นจึงขอสนับสนุนให้โลรีนายติสมาเป็นผู้จัดการแทน จากนั้นทุกคนก็ร่วมถ่ายรูปหมู่กันเพื่อประสานความสัมพันธ์อันดี
เรื่องราวของการชิงแชมป์ ของ โคดี โรดส์ และ บิ๊กโชว์ เพื่อชิงแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล[20] ในรอว์ (20 กุมภาพันธ์ 2012) ในแมตช์แบทเทิลรอยัล โดยเหลือ คริส เจอริโค กับ บิ๊กโชว์ ซึ่งเจอริโคได้เป็นผู้ชนะ จากการช่วยเหลือของโคดี โดยดึงมือบิ๊กโชว์ ลงมาข้างล่าง ทำให้บิ๊กโชว์ได้วิ่งไล่ตามโคดีไป ต่อมาโคดีได้ทำคลิปล้อเลียนบิ๊กโชว์ โดยเอาภาพเหตุการณ์ที่น่าอับอายของบิ๊กโชว์ ในเรสเซิลเมเนีย แต่ละครั้งมาล้อเลียน และถูกเรียกว่าเป็นตัวตลกของเรสเซิลเมเนีย ทุกๆ ปี ทำให้บิ๊กโชว์แค้นมากและได้ขอท้าเจอกันในเรสเซิลเมเนีย
เรื่องราวของ แรนดี ออร์ตัน และ เคน[21] ในสแมคดาวน์ (2 มีนาคม 2012) แรนดี ออร์ตัน ได้หายจากอาการบาดเจ็บจากการถูก แดเนียล ไบรอัน เอาเข็มขัดแชมป์ฟาดหัวในระหว่างการปล้ำกับ บิ๊กโชว์ ในรอว์ (13 กุมภาพันธ์ 2012) จนมีอาการกระทบกระเทือนทางสมอง โดยออร์ตันกลับมาล้างแค้นไบรอัน สุดท้ายไม่มีผลแพ้ชนะ เพราะเคนออกมาก่อกวน แถมไล่อัดออร์ตัน ในขณะที่ไบรอันหนีไปได้ และเคนเล่นงานออร์ตันด้วยท่าโชคสแลม แล้วเอาไมค์มากล่าวยินดีต้อนรับออร์ตันที่หายบาดเจ็บกลับมา ในรอว์ (5 มีนาคม 2012) ออร์ตันได้มาเอาคืนเล่นงานด้วยท่า RKO
ผล
แก้ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ WWE Music Group Tweet ที่เอกซ์ (ทวิตเตอร์)
- ↑ WWE Music Group Tweet ที่เอกซ์ (ทวิตเตอร์)
- ↑ WWE Music Group Tweet ที่เอกซ์ (ทวิตเตอร์)
- ↑ WWE Music Group Tweet ที่เอกซ์ (ทวิตเตอร์)
- ↑ "aboutus". Sun Life Stadium. 2011-04-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-16. สืบค้นเมื่อ 2011-04-04.
- ↑ "WrestleMania is Miami-bound in 2012". World Wrestling Entertainment. 2011-02-09. สืบค้นเมื่อ 2011-02-09.
- ↑ Varsallone, Jim (2011-02-09). "WrestleMania 28 headed to Sun Life Stadium". The Miami Herald. สืบค้นเมื่อ 2011-02-09.
- ↑ 8.0 8.1 "WWE Tag Team Championship Triple Threat Match". WWE. สืบค้นเมื่อ March 30, 2012.
- ↑ 9.0 9.1 "Kelly Kelly and Maria Menounos vs. Divas Champion Beth Phoenix and Eve". WWE. สืบค้นเมื่อ March 16, 2012.
- ↑ "John Cena vs. The Rock". WWE. สืบค้นเมื่อ October 28, 2011.
- ↑ 11.0 11.1 Adkins, Greg (2011-04-05). "Raw Results: C U at WrestleMania!". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2011-04-05.
- ↑ "The Miz and R-Truth vs. John Cena and The Rock". WWE. สืบค้นเมื่อ 31 October 2011.
- ↑ 13.0 13.1 "The Undertaker vs. Triple H (Hell in a Cell Match with special referee Shawn Michaels)". WWE. สืบค้นเมื่อ February 20, 2012.
- ↑ 14.0 14.1 Giannini, Alex (February 19, 2012). "World Heavyweight Champion Daniel Bryan vs. Sheamus". WWE. สืบค้นเมื่อ February 19, 2012.
- ↑ Michael, Burdick (2011-07-22). "SmackDown results: Calamity after the storm". WWE. สืบค้นเมื่อ 2011-07-23.
- ↑ "Caldwell's WWE TLC PPV Report 12/18: Complete "virtual time" coverage of live PPV - TLC, Table, Ladder, Chair matches". James Caldwell. สืบค้นเมื่อ 18 December 2011.
- ↑ Murphy, Ryan (January 29, 2012). "Sheamus won the 30-Man Royal Rumble Match". WWE. สืบค้นเมื่อ 31 January 2012.
- ↑ 18.0 18.1 "WWE Champion CM Punk vs. Chris Jericho". WWE. สืบค้นเมื่อ February 20, 2012.
- ↑ 19.0 19.1 "Team Teddy vs. Team Johnny". WWE. สืบค้นเมื่อ March 12, 2012.
- ↑ 20.0 20.1 "Intercontinental Champion Cody Rhodes vs. Big Show". WWE. สืบค้นเมื่อ February 20, 2012.
- ↑ 21.0 21.1 "Randy Orton vs. Kane". WWE. สืบค้นเมื่อ March 17, 2012.