เจ้าอินทนนท์ ณ เชียงใหม่

เจ้าอินทนนท์ ณ เชียงใหม่ (12 มีนาคม พ.ศ. 2453 — 24 มิถุนายน พ.ศ. 2534) เป็นราชโอรสองค์สุดท้ายในเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 9 (องค์สุดท้าย) กับหม่อมบัวเขียว ณ เชียงใหม่ ชายารองในเจ้าแก้วนวรัฐ สมรสกับเจ้าสุคันธา ณ เชียงตุง ราชธิดาในเจ้าฟ้าก้อนแก้วอินแถลง เจ้าฟ้าหลวงนครเชียงตุง องค์ที่ 40 กับเจ้าบัวทิพย์หลวง มเหสีพระองค์หนึ่ง การสมรสระหว่างเจ้าอินทนนท์ กับเจ้าสุคันธา นับเป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างนครเชียงตุงกับนครเชียงใหม่อย่างดียิ่ง

เจ้าอินทนนท์ ณ เชียงใหม่
เจ้านายฝ่ายเหนือ
เกิด12 มีนาคม พ.ศ. 2453
อนิจกรรม24 มิถุนายน พ.ศ. 2534
คู่อภิเษกเจ้าสุคันธา ณ เชียงใหม่
พระบุตรเจ้ารัตนนินดนัย ณ เชียงใหม่
เจ้าวิไลวรรณ ณ เชียงใหม่
เจ้าสรรพสมบูรณ์ ณ เชียงใหม่
เจ้าไพฑูรย์ศรี ณ เชียงใหม่
เจ้าวีระยุทธ ณ เชียงใหม่
ราชสกุลณ เชียงใหม่
ราชวงศ์ทิพย์จักร
เจ้าบิดาเจ้าแก้วนวรัฐ
เจ้ามารดาหม่อมบัวเขียว ณ เชียงใหม่

การศึกษา

แก้

เจ้าอินทนนท์ เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง จังหวัดเชียงใหม่ ย่านถนนห้วยแก้ว ต่อมาจึงย้ายเข้าไปเรียนต่อที่โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ พร้อมกับเจ้าไชยสุริวงศ์ ณ เชียงใหม่ บุตรเจ้าไชยสงคราม (สมพมิตร ณ เชียงใหม่)[1]

ครอบครัว

แก้

เจ้าอินทนนท์ ได้สมรสกับเจ้าสุคันธา ราชธิดาในเจ้าฟ้าก้อนแก้วอินแถลง เจ้าฟ้าหลวงเมืองเชียงตุง ณ หอคำนครเชียงตุง ขณะที่ทั้ง 2 องค์มีอายุ 22 ปี โดยมีเจ้าฟ้าก้อนแก้วอินทแถลง เจ้าหอคำ เจ้านางปทุมมหาเทวี เป็นเจ้าภาพเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2475 มีร้อยเอกโรแบรด์ ข้าหลวงอังกฤษผู้กำกับราชการนครเชียงตุง ร่วมเป็นเกียรติในงานมงคลสมรส เจ้านางสุคันธาและเจ้าอินทนนท์ ณ เชียงใหม่ จึงเป็นสายใยแห่งความรักของราชสำนักเชียงใหม่-เชียงตุง รุ่นราชโอรส ราชธิดา "เจ้าหลวง" สองราชสำนักรุ่นสุดท้าย โดยมีบุตรธิดา 5 คน คือ

  1. เจ้ารัตนนินดนัย ณ เชียงใหม่
  2. เจ้าวิไลวรรณ ณ เชียงใหม่
  3. เจ้าสรรพสมบูรณ์ ณ เชียงใหม่
  4. เจ้าไพฑรูย์ศรี ณ เชียงใหม่
  5. เจ้าวีระยุทธ ณ เชียงใหม่ อดีตผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาสันป่าตอง

ถึงแก่อนิจกรรม

แก้

เจ้าอินทนนท์ ณ เชียงใหม่ ถึงแก่อนิจกรรมในปี พ.ศ. 2534 รวมอายุได้ 81 ปี และเป็นราชโอรสของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ที่ถึงแก่อนิจกรรมเป็นองค์สุดท้าย

บทบาทเจ้านายฝ่ายเหนือ

แก้

เจ้าอินทนนท์ ณ เชียงใหม่ เป็นผู้นำเจ้านายฝ่ายเหนือในกระบวนเครื่องพระขวัญของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีถวายพระขวัญเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดทางภาคเหนือ วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2501[2] และเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์ฟื้นฟูศิลปนาฏศิลป์ของเชียงใหม่ โดยทำการจัดตั้งโรงเรียนสอนหัดรำต่อมาคือวิทยาลัยนาฏศิลป์ เชียงใหม่ และมอบทุนทรัพย์ส่วนตัวในการทำนุบำรุงโรงเรียน และสนับสนุนการอนุรักษ์งานพิธีสำคัญแบบพื้นเมือง


ราชตระกูล

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. ย่านท่าแพ 38[ลิงก์เสีย]
  2. วรชาติ มีชูบท, เจ้านายฝ่ายเหนือ และตำนานรักมะเมียะ, กรุงเทพฯ : สร้างสรรค์บุ๊คส์, หน้า 190-192