เจ้าจันทรา ซิมส์

เจ้าจันทรา, จันทา, ซานดา (พม่า: စဝ်စန္ဒာ) หรือ เจ้านางเมียะซานดา (စောနန်းမြစန္ဒာ) ต่อมาคือ จันทรา ซิมส์ หรือ ซานดา ซิมส์ (อังกฤษ: Sanda Simms; ประสูติ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2471) เป็นเจ้าหญิงพระองค์สุดท้ายแห่งรัฐยองห้วย[1] หนึ่งในรัฐเจ้าฟ้าไทใหญ่ซึ่งปัจจุบันถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศพม่า พระองค์เป็นพระธิดาพระองค์ใหญ่ของเจ้าฟ้าส่วยแต้ก ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศพม่า

จันทรา ซิมส์
เจ้าจันทาราว พ.ศ. 2477
ประสูติ20 ตุลาคม พ.ศ. 2471 (95 ปี)
ยองห้วย รัฐยองห้วย (ในอารักขาของบริติช)
พระภัสดาปีเตอร์ ซิมส์ (พ.ศ. 2499–2545)
ราชวงศ์ยองห้วย
พระบิดาเจ้าฟ้าส่วยแต้ก
พระมารดานางจันทา
ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท
ศิษย์เก่าวิทยาลัยเกอร์ตัน (เคมบริดจ์)
(ศศ.บ., ศศ.ม.)

เจ้าจันทรามีชื่อเสียงจากการเป็นนักข่าวของสำนักข่าวรอยเตอส์ พระองค์เสกสมรสกับปีเตอร์ ซิมส์ และมีพระนิพนธ์ร่วมกับพระภัสดาหลายเล่ม หนึ่งในนั้นคือ จันทราเทวี ความทรงจำจากรัฐฉาน (The Moon Princess: Memories of the Shan States) ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2551 บอกเล่าเรื่องราวความวุ่นวายภายในประเทศพม่า พระประวัติส่วนพระองค์ และพระประวัติของเจ้าฟ้าส่วยแต้ก พระบิดาผู้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของพม่าหลังได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร[2]

พระประวัติ แก้

เจ้าจันทราประสูติเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2471 เป็นพระธิดาพระองค์ใหญ่ในเจ้าฟ้าส่วยแต้ก ประสูติกับนางจันทา บาทบริจาริกา ทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเมทอดิสต์อเมริกัน (American Methodist School) เมืองกาดล้อ เจ้าจันทราได้ตามเสด็จพระบิดาขณะประกอบพระกรณียกิจตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ โดยเจ้าจันทราตามเสด็จเจ้าฟ้าส่วยแต้กเพื่อร่วมประชุมสนธิสัญญาปางโหลง เมื่อ พ.ศ. 2490[1] และในปีเดียวกันนั้น เจ้าจันทราได้ตามเสด็จเจ้าฟ้าส่วยแต้กและเจ้านางเฮินคำไปในพระราชพิธีอภิเษกสมรสของมกุฎราชกุมารีเอลิซาเบธ[3] เจ้าจันทราทรงสำเร็จการศึกษาศิลปศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม) เมื่อ พ.ศ. 2496 และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (เกียรตินิยม) เมื่อ พ.ศ. 2499 จากวิทยาลัยเกอร์ตัน (เคมบริดจ์) สหราชอาณาจักร[2]

เจ้าจันทราเสกสมรสกับปีเตอร์ ซิมส์ ซึ่งเป็นนักข่าวที่กรุงเทพมหานคร เมื่อ พ.ศ. 2499[4] หลังจากนั้นพระองค์นิวัตกลับประเทศพม่า ประกอบกิจเป็นผู้ประกาศข่าวและวิเคราะห์ข่าวให้กับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพพม่า (Burma Broadcasting Service) เป็นระยะเวลาสี่ปี ส่วนปีเตอร์ ซิมส์ ทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยร่างกุ้ง[5] กระทั่งเกิดเหตุรัฐประหารในประเทศพม่า พ.ศ. 2505 ทั้งสองจึงลี้ภัยออกนอกประเทศ[6] ในเหตุครั้งนั้นเจ้าฟ้าส่วยแต้กถูกสภาปฏิวัติสหภาพของนายพลเนวินควบคุมตัว ส่วนพระอนุชาชื่อ มีมี หรือ หมี[7] ถูกลอบปลงพระชนม์ในพระชันษา 17 ปี ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้เสียชีวิตเพียงรายเดียวจากการปฏิวัติดังกล่าว[8] ส่วนเจ้าฟ้าส่วยแต้กหลังถูกควบคุมตัวในเรือนจำได้ 18 เดือนก็พิราลัยลง[7] เบื้องต้นเจ้าจันทราและพระสวามีย้ายไปตั้งหลักอยู่ที่ประเทศลาว จากนั้นพระองค์ได้ทรงงานเป็นนักข่าวในหลายประเทศ ตั้งแต่ประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง ประเทศแคนาดา และประเทศโอมาน หลังจากนั้นทรงย้ายครอบครัวไปประทับที่ประเทศฝรั่งเศส และย้ายไปประทับที่สหราชอาณาจักรเป็นที่สุด เจ้าจันทราและสามีเริ่มพระนิพนธ์เมื่อ พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา จนกระทั่งปีเตอร์จากไปใน พ.ศ. 2545 เจ้าจันทราได้ตีพิมพ์หนังสือ จันทราเทวี ความทรงจำจากรัฐฉาน (The Moon Princess: Memories of the Shan States) ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2551 ซึ่งถูกแปลและตีพิมพ์เป็นภาษาพม่าใน พ.ศ. 2557[9]

เจ้าจันทราแห่งรัฐยองห้วย และเจ้านวลอู๋แห่งรัฐลอกจอก เป็นผู้ร่วมประชุมสนธิสัญญาปางโหลง เพียงสองพระองค์เท่านั้นที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ใน พ.ศ. 2565[1] ซึ่งเจ้านวลอู๋มีพระนิพนธ์อัตชีวประวัติส่วนพระองค์ในหนังสือ My Lost World[1]

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 "ပင်လုံညီလာခံတက်ခဲ့တဲ့ စော်ဘွားသမီး "Daughters of Saopha who attended the Panglong Conference"". BBC News မြန်မာ (ภาษาพม่า). 2022-02-13. สืบค้นเมื่อ 2022-12-04.
  2. 2.0 2.1 Sanda, Sao (2008). The Moon Princess: Memories of the Shan States (ภาษาอังกฤษ). River Books. ISBN 978-974-9863-37-4.
  3. "ကိုလိုနီယားနာနှင့် အဆောင်အယောင် နိုင်ငံရေး". BNI (ภาษาพม่า). สืบค้นเมื่อ 2022-12-06.
  4. "St. Lucie News Tribune 10 Dec 2002, page 9". Newspapers.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-12-06.
  5. Simms, Sao Sanda (2017-08-09). AHP 48 GREAT LORDS OF THE SKY: BURMA'S SHAN ARISTOCRACY (ภาษาอังกฤษ). Asian Highlands Perspectives.
  6. "ဗြိတိသျှ-မြန်မာ ရွှေလမ်းငွေလမ်းနဲ့ ခယောင်းလမ်း". BBC News မြန်မာ (ภาษาพม่า). สืบค้นเมื่อ 2022-12-04.
  7. 7.0 7.1 สกุณา ประยูรศุข. เจ้าหาญ ยองห้วย เจ้าฟ้าไทยใหญ่รุ่นสุดท้าย กู้ชาติด้วยประชาธิปไตย. [ม.ป.ท.] : มติชนรายวัน 31:(11194), 2 พฤศจิกายน 2551. หน้า 2.
  8. Donald M. Seekins (2006). Historical Dictionary of Burma (Myanmar). Rowman & Littlefield. pp. 410–411. ISBN 9780810854765.
  9. Linn, Hsu Wai (2017-02-17). "ဒီတပတ်ဖတ်စရာ". ဧရာဝတီ (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2022-12-04.