เกสตาโพ

(เปลี่ยนทางจาก เกสตาโป)

เกสตาโพ (เยอรมัน: Gestapo) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ เกไฮเมอชตาทส์โพลิไซ (Geheime Staatspolizei) แปลว่า ตำรวจลับแห่งชาติ เป็นตำรวจลับอย่างเป็นทางการของนาซีเยอรมนีและในยุโรปที่ถูกเยอรมนียึดครอง

เกสตาโพ
Gestapo

สายลับเกสตาโพ
ภาพรวมหน่วยงาน
ก่อตั้ง26 เมษายน ค.ศ.1933
หน่วยงานก่อนหน้า
  • ทบวงตำรวจลับปรัสเซีย
ยุบเลิก8 พฤษภาคม ค.ศ.1945
ประเภทตำรวจลับ
เขตอำนาจ เยอรมนี และเขตที่เยอรมนียึดครอง
สำนักงานใหญ่Prinz-Albrecht-Straße, เบอร์ลิน
52°30′26″N 13°22′57″E / 52.50722°N 13.38250°E / 52.50722; 13.38250
บุคลากร32,000 นาย ป. 1944[1]
รัฐมนตรี
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน
ต้นสังกัดหน่วยงาน อัลเกอไมเนอ เอ็สเอ็ส
ทบวงกลางความมั่นคงไรช์
ซีแชร์ไฮท์สโพลีไซ

เกสตาโพถูกก่อตั้งขึ้นโดยแฮร์มัน เกอริง ในปี 1933 โดยทำการประสมประสานหน่วยงานตำรวจทางการเมืองต่าง ๆ ของปรัสเซียเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งองค์กร เมื่อวันที่ 20 เมษายน 1934 การควบคุมดูแลของเกสตาโพถูกส่งต่อไปยังหัวหน้าหน่วยชุทซ์ชตัฟเฟิล (เอ็สเอ็ส) ไฮน์ริช ฮิมเลอร์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีตำรวจเยอรมันโดยฮิตเลอร์ใน 1936 แทนที่จะเป็นหน่วยงานของรัฐปรัสเซียโดยเฉพาะ

เกสตาโพกลายเป็นหน่วยงานระดับชาติแห่งหนึ่งซึ่งเป็นลูกสังกัดของตำรวจความมั่นคง (หรือซีโพ) แต่หลังวันที่ 27 กันยายน 1939 เกสตาโพอยู่ภายใต้สังกัดศูนย์อำนวยการความมั่นคงไรช์ (RSHA) และถือว่าเป็นองค์กรพี่น้องของสำนักอำนวยความปลอกภัย (หรือเอ็สเด)

เกสตาโพได้กระทำการทารุณกรรมอย่างกว้างขวางในช่วงที่ดำรงอยู่ อำนาจของเกสตาโพถูกใช้ต่อเป้าหมายอันเป็นศัตรูทางการเมือง ผู้เห็นต่างทางอุดมการณ์(องค์กรนักบวชและศาสนา) พวกอาชญากร ประชากรชาวซินติและโรมา ผู้พิการ พวกรักร่วมเพศ และเหนือทุกข้อคือชาวยิว[2] ผู้ที่ถูกเกสตาโพจับกุมมักถูกควบคุมตัวโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมและนักโทษการเมืองทั่วทั้งเยอรมนี -และตั้งแต่ปั 1941 ทั่วทั้งดินแดนที่ถูกยึดครองภายใต้กฤษฏีกาค่ำคืนและสายหมอก (ที่เรียกว่านัคท์อุนท์เนเบิล) -เพียงแค่ทำให้หายตัวไปในขณะอยู่ในการควบคุมตัวของเกสตาโพ[3] ตรงกันข้ามกับการรับรู้ของประชาชนส่วนใหญ่ ๆ แท้จริงแล้วเกสตาโพเป็นองค์กรที่ค่อนข้างเล็กและมีความสามารถในการเฝ้าระวังที่จำกัด อย่างไรก็ตาม เกสตาโพได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพอย่างมาก เนื่องจากชาวเยอรมันทั่วไปเต็มใจที่จะรายงานถึงเรื่องเพื่อนร่วมชาติ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เกสตาโพมีบทบาทที่สำคัญในฮอโลคอสต์ ภายหลังสงครามยุติลง เกสตาโพได้ถูกประกาศให้เป็นองค์กรอาชญากรรมโดยศาลทหารระหว่างประเทศ(IMT) และสมาชิกเกสตาโพระดับสูงหลายคนถูกตัดสินลงโทษด้วยการประหารชีวิต

อ้างอิง

แก้
  1. Gellately 1992, p. 44.
  2. Johnson 1999, pp. 483–485.
  3. Snyder 1994, p. 242.
  • Lumsden, Robin (2002). A Collector's Guide To: The Allgemeine – SS, Ian Allan Publishing, Inc. ISBN 0-7110-2905-9.