เกตุ กรุดพันธ์
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ศาสตราจารย์ เกตุ กรุดพันธ์ เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2496 ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี บิดาชื่อ นายศักดิ์ กรุดพันธ์ มารดาชื่อ นางอุบล กรุดพันธ์ สมรสกับ นางธนกร กรุดพันธ์ (นามสกุลเดิม เกษมกิจวัฒนา) มีธิดา 1 คน คือ นางสาวศุภรา กรุดพันธ์
เกตุ กรุดพันธ์ | |
---|---|
เกิด | 2 ตุลาคม พ.ศ. 2496 อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี |
สัญชาติ | ไทย |
อาชีพ | อาจารย์ |
มีชื่อเสียงจาก | นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นของไทย |
ศาสตราจารย์ เกตุ กรุดพันธ์ หรือ ศาสตราจารย์ ดร.เกตุ กรุดพันธ์ เป็นศาสตราจารย์สาขาเคมีวิเคราะห์คนแรกของประเทศไทย ปัจจุบันทำงานที่ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้ประสานงานห้องปฏิบัติการสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการในการพัฒนาเพื่อการลดขนาดในการวิเคราะห์โดยการไหล (กลุ่มวิจัย Flow-based Analysis Research Group)ศาสตราจารย์ ดร.เกตุ กรุดพันธ์ สนใจในวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาวิธีและเครื่องมือ ในการการวิเคราะห์ทางเคมีโดยเฉพาะเทคนิคที่อาศัยหลักการไหล ซึ่งจะมุ่งเป้าที่จะเป็นแบบราคาถูก งานวิจัยจะสัมพันธ์กับปัญหาของท้องถิ่นแต่มีผลกระทบในระดับนานาชาติอีกด้วย ไม่นานมานี้ได้ริเริ่มและผลักดันในการพัฒนาการวิเคราะห์ที่อาศัยหลักการไหลเพื่อการคัดกรองในการตรวจวินิจฉัยโรคบางชนิด (เช่น มะเร็ง, โรคตับ, โรคข้อ และกระดูก และโรคธาลัสซีเมีย เป็นต้น) การพัฒนาดังกล่าวจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาระบบแพทย์ทางไกลในพื้นที่ธุรกันดานในประเทศไทย และได้ริเริ่มผลักดันเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเคมีแบบสะอาดโดยการใช้รีเอเจนต์ที่ได้จากธรรมชาติ การพัฒนาการวิจัยจะมีผลเชื่อมโยงกับการพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่อีกด้วย ศาสตราจารย์ ดร.เกตุ กรุดพันธ์ ได้บุกเบิกงานทาง flow injection analysis ที่เกี่ยวข้องกับกัมมันตรภาพรังสี การเตรียมตัวอย่างแบบในท่อที่ใช้ระบบการไหลผนวกเข้ากับเทคนิคทาง โครมาโทกราฟี การลดขนาดของการวิเคราะห์ทางเคมี เช่น “การดำเนินการวิเคราะห์บนชิพ (lab-on-Chip)” และ “การดำเนินการทดลองที่วาล์ว (Lab-at-Valve)” ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งในการวิเคราะห์ทั้งระบบในระดับไมโคร (micro total analysis system)
ประวัติ
แก้การศึกษา
แก้- พ.ศ. 2511 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 - โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นนทบุรี
- พ.ศ. 2513 - มัธยมศึกษาปีที่ 5 - โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม นนทบุรี
- พ.ศ. 2517 - วิทยาศาสตรบัณฑิต (เคมี) - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- พ.ศ. 2524 - Doctor of Philoscophy Ph.D.(Chemistry) - Liverpool John Moores University (Liverpool Polytechnic),UK (ด้วยทุน Research Assistantship ของ Liverpool Education Authority)
ประสบการณ์การฝึกอบรมและดูงาน
แก้นอกเหนือจากการดูงานต่างๆ แล้ว มีประสบการณ์หลังปริญญาเอก (Post doctoral experiences) ได้แก่
- DAAD Research Fellow, ที่ University of Karlsruhe และ Karlsruhe Nuclear Center Germany (2526-2527, 2530, 2532, 2537)
- IAEA Research Fellow, University Of Ghent, Belgium (2529)
- Water Studies Center, Monash University, Australia (2529)
- Alexander von Humboldt Research Fellow ที่ Karlsruhe Nuclear Research Center, Germany (2534-2535)
- The Royal Society Visiting Fellow ที่ Liverpool John Moores University, UK (2541)
ประสบการณ์ทำงาน
แก้เกตุ มีการทำงานวิจัยและผลงานวิจัยเป็นที่ยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศ โดยได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติ ได้แก่
- นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์เคมี-เภสัช” ปี 2542 จาก สภาวิจัยแห่งชาติ
- นักศึกษาเก่าดีเด่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” ปี 2542 จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- นักวิทยาศาสตร์ดีเด่น” ประจำปี พ.ศ. 2544 จากมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์
- เมธีวิจัยอาวุโส สกว.” ปี 2544-2546 และ 2547-2550
- Science & Technology Research Grant” ปี 2544 จาก Thailand Toray Science Foundation
- JAFIA Scientific Award” (พ.ศ. 2545) จาก The Japanese Association for Flow Injection Analysis (JAFIA) ประเทศญี่ปุ่น (นับเป็นชาวเอเชียคนแรก (ยกเว้นชาวญี่ปุ่น) ที่ได้รับรางวัลนี้)
- บุคคลดีเด่นของชาติ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ด้านเคมีวิเคราะห์) ” ปี พ.ศ. 2547 จากสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ
- นักวิจัยดีเด่น รางวัลมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ช้างทองคำ” ปี พ.ศ. 2550 จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- JAFIA Honor Award for Science (พ.ศ. 2551) จาก Japanese Association for Flow Injection Analysis (นับเป็นชาวเอเชียคนแรก (ยกเว้นชาวญี่ปุ่น) ที่ได้รับรางวัลนี้)
ผลงานวิชาการที่โดดเด่น คือ ได้ริเริ่มการวิจัยเคมีวิเคราะห์แนวใหม่เกี่ยวกับ flow-based analysis ได้รับเกียรติเป็นนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น แห่งชาติทางเคมีคนแรกของประเทศ และเป็นคนแรกที่อยู่ในสถาบันต่างจังหวัด (ปัจจุบันมี 2 คนจากผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ 35 คน) นอกจากนี้ยังเป็นศาสตราจารย์คนแรกทางเคมีวิเคราะห์ในประเทศไทย มีส่วนในการผลักดันบรรยากาศการวิจัยทางเคมีวิเคราะห์ของประเทศไทยจนเข้าสู่ระดับนานาชาติ มีส่วนทำให้เกิดหลักสูตรปริญญาเอกเคมีวิเคราะห์ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นแห่งแรกของประเทศไทย [1]
ประสบการณ์ด้านการบริหารงานในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คือ
- ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (2533–2537)
- กรรมการสภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (หลายสมัย)
- กรรมการวิจัยประจำภาควิชา และ กรรมการวิจัยประจำคณะวิทยาศาสตร์ (หลายสมัย)
- กรรมการประจำคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (หลายสมัย)
- กรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและการวิจัยทางเคมี (PERCH)
- ผู้ประสานงานโครงการปริญญาดุษฎีบัณฑิตร่วมกับสถาบันต่างประเทศ แขนงเคมีวิเคราะห์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่
- ผู้ประสานงานโครงการเพิ่มสมรรถนะความแข่งขันกับต่างประเทศของ สกอ. ในโครงการ “การพัฒนาเครื่องมือและวิธีสำหรับวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์ในระดับไมโครและนาโนเพื่อใช้ในทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อม” (2549 – 2552)
- รองประธานโปรแกรม Environmental Risk Assessment Program ซึ่งมีความร่วมมือกับ Saarland University เยอรมนี โดยการสนับสนุนของ GTZ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2553 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[2]
- พ.ศ. 2548 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[3]
- พ.ศ. 2546 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)[4]
- พ.ศ. 2542 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[5]
อ้างอิง
แก้- ↑ (หน้า 80 ใน “อดีต ปัจจุบัน อนาคต วิทยาการเคมีและเภสัชไทย – ยงยุทธ ยุทธวงศ์ ยอดหทัย เทพธรานนท์ ประมวล ตั้งบริบูรณ์รัตน์ สมเดช กนกเมธากุล – บรรณาธิการ – จัดพิมพ์โดย มูลนิธิบัณฑิตยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, 2549)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๓, เล่ม ๑๒๗ ตอนที่ ๑๔ ข หน้า ๔, ๘ ธันวาคม ๒๕๕๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๒ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๑๔, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์, เล่ม ๑๒๐ ตอนที่ ๒๐ ข หน้า ๑๒๘, ๑ ธันวาคม ๒๕๔๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๑๗ ตอนที่ ๔ ข หน้า ๔๐๓, ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓