สโมสรฟุตบอลเรกซัม
สโมสรฟุตบอลเรกซัม (เวลส์: Clwb Pêl-droed Wrecsam, อังกฤษ: Wrexham Association Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของเวลส์ ตั้งอยู่ที่เมืองเร็กซ์แฮม ประเทศเวลส์ ทีมเข้าแข่งขันในเนชันนัลลีก ดิวิชัน 5 ของระบบลีกฟุตบอลอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1864[1]เป็นสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในเวลส์และเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก[2]
ฉายา | มังกรแดง | ||
---|---|---|---|
ก่อตั้ง | October 1864[1] | ||
สนาม | เรซคอร์สกราวด์ | ||
ความจุ | 10,771 | ||
เจ้าของ | RR McReynolds Company LLC (ไรอัน เรย์โนลส์ และ ร็อบ แมคเอลเฮนนีย์) | ||
ผู้จัดการ | ฟิล พาร์กินสัน | ||
ลีก | เนชันนัลลีก | ||
| |||
สโมสรเร็กซ์แฮมเข้าร่วมในการแข่งขันนัดกระชับมิตรและบอลถ้วย และเข้าร่วมฟุตบอลลีกครั้งแรกด้วยการเข้าร่วม The Combination ในปี ค.ศ. 1890 สโมสรลงเล่น 13 ฤดูกาลใน The Combination และอีก 2 ฤดูกาลใน Welsh Senior League โดยคว้าแชมป์ Combination สี่สมัยและแชมป์ Welsh Senior League 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1992 เร็กซ์แฮมคว่ำแชมป์ดิวิชัน 1 ในฤดูกาลที่แล้วคืออาร์เซนอลในเอฟเอคัพ พวกเขายังเก็บชัยชนะเหนือเอฟซีปอร์โต 1-0 ในปี ค.ศ. 1984 ในศึกยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ โดยเร็กซ์แฮมมีสิทธิ์เข้าร่วมศึกยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ เนื่องจากการคว้าแชมป์เวลส์ คัพ; การแข่งขันในระดับยุโรปครั้งแรกของพวกเขาคือพบกับ FC Zurich ในปี ค.ศ. 1972 และครั้งสุดท้ายคือการเล่นในโรมาเนียกับ Petrolul Ploiesti ในปี ค.ศ. 1995 เรซคอร์สกราวด์สนามเหย้าของเรกซัม เป็นสนามฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงใช้จัดการแข่งขันระดับนานาชาติ[3] สถิติผู้ชมมากที่สุดเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1957 เมื่อสโมสรพบกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดต่อหน้าผู้ชม 34,445 คน[4]
ประวัติแก้ไข
1864-1905แก้ไข
สโมสรนี้ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1864 โดยสมาชิกของ Wrexham Cricket Club ที่ต้องการกิจกรรมกีฬาในช่วงฤดูหนาว สิ่งนี้ทำให้พวกเขาเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับห้าและเก่าแก่ที่สุดในเวลส์[5] เกมแรกอย่างเป็นทางการของพวกเขาเล่นในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1864 ที่สนามคริกเก็ตของเทศมณฑลเดอร์บีเชอร์ เจอกับ Prince of Wales Fire Brigade[1]
2020-ปัจจุบัน:เจ้าของใหม่แก้ไข
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2020 ไรอัน เรย์โนลด์สนักแสดงชาวแคนาดาและร็อบ แมคเอลเฮนนีย์ นักแสดงชาวอเมริกันซื้อสโมสรผ่าน RR McReynolds LLC ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก 2,000 คนของ Wrexham Supporters Trust[6][7] และเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 พวกเขารวมอยู่ในฟีฟ่า 22 โดยเป็นส่วนหนึ่งของ "Rest of the World" กลายเป็นสโมสรนอกลีกแห่งแรกที่อยู่ในซีรีส์นี้[8] ในฤดูกาล 2021-2022 เร็กซ์แฮมจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งรองแชมป์ก่อนจะแพ้กริมสบีทาวน์ 4-5 ในรอบเพลย์ออฟรองชนะเลิศหลังต่อเวลาพิเศษ[9] เร็กซ์แฮมยังเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอโทรฟีปี 2022 แต่พวกเขาแพ้บรอมลีย์ 0-1[10]
หลังจากการเทคโอเวอร์ ซีรีส์สารคดีชื่อ Welcome to Wrexham ได้รับการประกาศว่าดำเนินการผลิตโดย FX ร่วมกับ Boardwalk Pictures ซีรีส์เปิดตัวในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2022 บน FX และ Hulu ในสหรัฐอเมริกา ตามด้วยการเปิดตัวบนดิสนีย์+ ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ในวันถัดมา[11][12][13] การซื้อกิจการโดยเรย์โนลด์ส และแมคเอลเฮนนีย์ และการประชาสัมพันธ์ผ่านสารคดี Welcome to Wrexham มีผลกระทบอย่างมากต่อสโมสร ซึ่งนำไปสู่การได้ฐานแฟนบอลใหม่ทั่วโลกซึ่งไม่เคยมีมาก่อนสำหรับทีมในดิวิชัน 5[14][15][16] ชื่อเสียงของสโมสรเริ่มดึงดูดการรายงานข่าวโดยเฉพาะจากสื่อกีฬาระดับโลก ซึ่งปกติแล้วจะไม่รายงานข่าวให้กับทีมนอกพรีเมียร์ลีก[17] สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับสโมสรและลีกอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก โดย เดอะการ์เดียน ตั้งข้อสังเกตว่า "ทุกสโมสรต้องการ 'ทำตามเร็กซ์แฮม' แต่ไม่ใช่ทุกสโมสรจะทำได้"[18]
สโมสรผ่านเข้าสู่รอบที่ 4 ในเอฟเอคัพ ฤดูกาล 2022–23 โดยเป็นสโมสรในเนชันนัลลีกเพียงสโมสรเดียวที่ทำได้ โดยเอาชนะคอเวนทรีซิตี ในรอบที่ 3 แต่ในที่สุดพวกเขาก็ตกรอบด้วยน้ำมือของเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด การแข่งขันกับเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดคือการแข่งขันฟุตบอลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดของอีเอสพีเอ็น ในทุกแพลตฟอร์มดิจิทัล[19] เร็กซ์แฮมแข่งขันกับนอตส์เคาน์ตีตลอดทั้งฤดูกาลเพื่อชิงตำแหน่งจ่าฝูงของลีก และทั้งคู่สร้างสถิติใหม่สำหรับชัยชนะ ประตู และผลต่างประตูในเนชันนัลลีก ขณะที่นำหน้าอันดับ 3 อยู่ 20+ คะแนนเมื่อจบฤดูกาล[20] ในวันเสาร์ที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2023 เร็กซ์แฮมคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกในรอบ 45 ปี และเลื่อนชั้นสู่อีเอฟแอลลีกทู หลังจากห่างหายไป 15 ปี หลังจากเปิดบ้านเอาชนะบอร์แฮม วูด 3-1[21] สโมสรเก็บคะแนนเป็นประวัติการณ์ถึง 110 คะแนน (113 คะแนนยังคงเป็นไปได้) ในฤดูกาลนี้ โดยเอาชนะนอตส์เคาน์ตีเป็นแชมป์ลีกและเลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ[22]
ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 2023 สโมสรจะเดินทางไปทัวร์ที่สหรัฐอเมริกา แข่งขันนัดกระชับมิตรหลายนัดในนอร์ทแคโรไลนาและแคลิฟอร์เนีย[23][24]
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 1.2 Randall, Liam. "Wrexham FC Fans To Vote To Accept 1864 Date Change". Wrexham.com. สืบค้นเมื่อ 28 June 2012.
- ↑ Jones, Peter. "Wrexham AFC History". สืบค้นเมื่อ 21 December 2015.
- ↑ Bagnall, Steve (17 June 2008). "Guinness cheers Racecourse with official record". Daily Post Wales. สืบค้นเมื่อ 18 June 2008.
- ↑ "Wrexham v Manchester United, 26 January 1957". 11v11.com.
- ↑ "Wrexham football club could be older than thought". BBC News. 21 February 2012.
- ↑ "DONE DEAL: Ryan Reynolds and Rob McElhenney acquire Wrexham AFC". The Non-League Paper. 16 November 2020. สืบค้นเมื่อ 16 November 2020.
- ↑ "Ryan Reynolds and Rob McElhenney: Hollywood stars to take over Wrexham". BBC Sport. 16 November 2020. สืบค้นเมื่อ 16 November 2020.
- ↑ Yin-Poole, Wesley (13 September 2021). "The saga of Wrexham in FIFA 22 just took a weird turn". Eurogamer.
- ↑ Aled Williams (28 May 2022). "Wrexham 4–5 Grimsby Town". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 10 June 2022.
- ↑ Aled Williams (22 May 2022). "FA Trophy final: Wrexham 0–1 Bromley". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 12 June 2022.
- ↑ Martin, Kerry (19 May 2021). "Ryan Reynolds and Rob McElhenney announce 'Welcome to Wrexham' football club documentary". Yahoo! News. สืบค้นเมื่อ 26 July 2021.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""Welcome To Wrexham" Disney+ UK/Ireland Release Date Announced" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2022-07-04.
- ↑ "Welcome to Wrexham critic reviews". metacritic.com. August 23, 2022. สืบค้นเมื่อ August 23, 2022.
- ↑ Scudder, Jake (September 26, 2022). "Wrexham AFC: The fastest growing club in the world". Soccer Scene.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 20, 2022. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
- ↑ Portillo, Sam (April 22, 2023). "The Americans who've fallen in love with Wrexham amid Ryan Reynolds and Rob McElhenney's Hollywood story". Wales Online. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
- ↑ Lewis, Aimee; Foster, Matt (April 23, 2023). "Wrexham secures promotion in front of jubilant owners Ryan Reynolds and Rob McElhenney". CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 23, 2023. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
- ↑ "Are Wrexham now a bigger club than Celtic and Rangers?". Nation.Cymru. March 9, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 11, 2023. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
- ↑ Ruthven, Graham (March 8, 2023). "Can MLS grow its fanbase by 'doing a Wrexham'?". The Guardian. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 23, 2023. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
- ↑ "Interest in Wrexham-Sheff Utd FA Cup game peaks on ESPN". World Soccer Talk.
- ↑ "Wrexham record points total in National League: Ryan Reynolds club claims record league haul". www.sportingnews.com. 18 April 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 April 2023. สืบค้นเมื่อ 19 April 2023.
- ↑ "'Honour of my life': Hollywood duo's emotional response after Wrexham AFC promoted". Fox Sports. 23 April 2023.
- ↑ "Wrexham: Welsh side win promotion to EFL with Hollywood actors watching". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2023-04-21. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 April 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-04-22.
- ↑ Pasztor, David (2023-04-20). "Chelsea confirm friendly against Wrexham for USA Tour". We Ain't Got No History (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-05-13.
- ↑ "Wrexham USA tour 2023: Schedule, tickets, stadiums and more". Pro Soccer Wire (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2023-04-21. สืบค้นเมื่อ 2023-05-13.