สามสาวชุลมุนวุ่นรัก
สามสาวชุลมุนวุ่นรัก (อังกฤษ: Mystic Pizza) เป็นภาพยนตร์แนวการก้าวผ่านวัยในชีวิตวัยรุ่นของสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1988 กำกับการแสดงโดย โดนัลด์ เพทรี นำแสดงโดย จูเลีย โรเบิตส์, แอนนาเบ็ธ กิช และ ลิลี เทย์เลอร์[1]
สามสาวชุลมุนวุ่นรัก | |
---|---|
กำกับ | โดนัลด์ เพทรี |
บทภาพยนตร์ | เอมี โฮลเดน โจนส์ เพอร์รี ฮาวเซ แรนดี ฮาวเซ อัลเฟรด อูรี |
เนื้อเรื่อง | เอมี โฮลเดน โจนส์ |
อำนวยการสร้าง | มาร์ค เลวินสัน สก็อตต์ โรเซนเฟลต์ |
นักแสดงนำ |
|
กำกับภาพ | Tim Suhrstedt |
ตัดต่อ | ดอน โบรชู มาเรียน ร็อทแมน |
ดนตรีประกอบ | เดวิด แม็คฮิวจ์ |
ผู้จัดจำหน่าย | เดอะ ซามูเอล โกลด์วิน |
วันฉาย | 21 ตุลาคม ค.ศ. 1988 |
ความยาว | 104 นาที |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
ทำเงิน | 12.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกจากนักวิจารณ์ โดยเฉพาะบทบาทของสามนักแสดงสาวที่เป็นตัวหลักของเรื่อง นอกจากนี้ยังเป็นการปรากฏตัวในภาพยนตร์เป็นครั้งแรกของ แม็ตต์ เดม่อน ที่ในขณะนั้นมีอายุ 17 ปี อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีการจัดจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว รวมถึงไม่มีการผลิตซ้ำในรูปแบบวิดีโอเทป, ดีวีดี หรือ บลูเรย์ ในฉบับภาษาไทย อย่างไรก็ตามเมื่อ จูเลีย โรเบิตส์ โด่งดังในฮอลลีวูด ได้มีการนำภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาออกอากาศและเผยแพร่ในประเทศไทยผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทรูวิชั่นส์ ในชื่อภาษาไทยว่า สามสาวชุลมุนวุ่นรัก
เนื้อเรื่อง แก้
สามสาวชุลมุนวุ่นรัก (Mystic Pizza) เป็นการนำเสนอเรื่องราวชีวิตวัยรุ่นของตัวละครหญิงทั้งสาม ประกอบไปด้วยสองพี่น้องอารูโจ ได้แก่ เดซี อารูโจ (นำแสดงโดย จูเลีย โรเบิตส์) ผู้เป็นพี่สาว , แคทเธอลีน อารูโจ (นำแสดงโดย แอนนาเบธ กิช) น้องสาวของเดซี และ โจโจ บาร์โบซา (นำแสดงโดย ลิลี เทย์เลอร์) ทั้งสามทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่ร้าน Mystic Pizza ร้านพิซซาของลีโอนา (นำแสดงโดยคอนชาตา ฟาร์เรล) ที่ตั้งอยู่ที่ย่าน มิสติก ในรัฐคอนเนตทิคัต โดยภาพยนตร์มีการนำเสนอบรรยากาศความเป็นเมืองแห่งการประมงของย่านมิสติก รัฐคอนเนตทิคัต และการเป็นชุมชนของคนอเมริกันที่มีเชื้อสายมาจากชาวโปรตุเกส
เดซี และ แคทเธอลีน อารูโจ เป็นพี่น้องที่บุคคลิกมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยแคทเธอลีน ผู้เป็นน้องสาวเป็นเด็กวัยรุ่นที่เรียนเก่งและกำลังศึกษาวิชาดาราศาสตร์ ทำงานเป็นพนักงานที่ห้องท้องฟ้าจำลองของพิพิธภัณฑ์วาฬที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในท่าเรือมิสติก ด้วยผลการเรียนที่ดีของเธอทำให้เธอได้รับทุนการศึกษาต่อด้านดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเยล การตัดสินใจเรียนในระดับมหาวิทยาลัยทำให้เธอต้องหาเงินไว้เป็นทุน แคทเธอลีน จึงทำงานในร้านพิซซาในตอนกลางคืนและรับจ้างเป็นพี่เลี้ยงเด็กในตอนกลางวัน ส่วนเดซี พี่สาวของแคทเธอลีนทำงานประจำในร้านพิซซาที่เดียวกับแคทเธอลีน มีบุคลิกเป็นสาวเปรี้ยวและกำลังหาทางออกไปจากเมืองมิสติกที่มีแต่ทะเล โดยเดซีมักจะถูกแม่ของเธอนำไปเปรียบเทียบกับน้องสาวอยู่เป็นประจำ ในเรื่องบุคลิคที่ก้าวร้าวและไม่ค่อยอ่อนหวานเหมือนแคทเธอลีน
เดซี ได้พบกับ ชาร์ล ชายหนุ่มผู้มีฐานะดีที่บาร์แห่งหนึ่งและเกิดชอบพอกัน แม้ทั้งคู่จะแตกต่างกันมากทั้งการศึกษาและฐานะทางบ้าน อีกทั้งแม่ของเดซีก็ไม่สนับสนุนให้คบกัน แต่ทั้งคู่ก็ได้พัฒนาความสัมพันธ์จนชาร์ล ตัดสินใจพาเดซีไปที่บ้านของตนเองเพื่อให้รู้จักกับพ่อและแม่ของตน โดยเดซีมารู้ภายหลังว่าแท้จริงแล้วชาร์ลมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับพ่อ และการที่เขายอมคบกับเธอที่ฐานะแตกต่างกันอย่างมากอาจจะเป็นเพียงการตั้งใจทำให้พ่อของเขารู้สึกขายหน้าโดยใช้เธอเป็นเครื่องมือ เดซีจึงตัดสินใจบอกเลิกกับชาร์ล
ส่วนแคทเธอลีน ได้ถูก ทิม ซึ่งเป็นชายชาวอังกฤษอเมริกันว่าจ้างมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูกสาวของเขาที่ชื่อ ฟีบี้ ในช่วงที่ภรรยาของเขาไม่อยู่บ้าน แต่ทั้งสองกลับถูกชะตากันทำให้แคทเธอลีนเด็กสาวผู้แสนดีในสายตาของแม่และคนอื่นๆ เผลอใจมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับชายผู้เป็นสามีของคนอื่น จนวันหนึ่งภรรยาของทิมได้กลับมาบ้าน แคทเธอลีนเห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกันพร้อมด้วยลูกสาว ทำให้เธอคิดว่าความรักของเธอกับสามีของคนอื่นเป็นสิ่งที่ผิดพลาดและไม่สามารถเป็นจริงได้
ทางด้านของตัวละครหลักอีกคนคือ โจโจ บาร์โบซา ได้คบหากับบิล (นำแสดงโดยวินเซนต์ โดโนฟริโอ) โดยโจโจรักบิลแต่ไม่ต้องการผูกมัดความสัมพันธ์ด้วยการแต่งงาน แต่บิล พยายามที่จะขอเธอแต่งงานให้ได้ สุดท้ายเมื่อบิลถูกโจโจปฏิเสธที่จะแต่งงานด้วย บิลจึงบอกเลิกกับเธอในที่สุด
ในตอนท้ายของเรื่อง ทิม ได้พา ฟีบี้ ผู้เป็นลูกสาว มาที่ร้านมิสติก พิซซา ที่แคทเธอลีนทำงานอยู่เพื่อมาบอกลา และจ่ายเงินให้แคทเธอลีนเป็นค่าจ้างที่ช่วยเลี้ยงลูกสาว ทำให้แคทเธอลีนเสียใจมาก ส่วนโจโจ ตัดสินใจแต่งงานกับบิล โดยในงานแต่งงานของทั้งคู่ ชาร์ล ได้มางานแต่งงานและได้คืนดีกับเดซี ฉากสุดท้ายโจโจ, เดซี และ แคทเธอลีน ได้มายืนมองกระแสน้ำด้วยกันที่ริมระเบียงชั้นบนของร้านอาหารและรำลึกถึงการใช้ชีวิตร่วมกันของพวกเธอในช่วงวัยรุ่น
กระแสตอบรับ แก้
ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 1988 และได้คะแนนจาก รอตเทนโทเมโทส์ 77% เมื่อผลิตเป็นวีดีโอเทป[2] นอกจากนี้ยังได้รับคำชื่นชมจากรายการ ซิซเกล แอนด์ อีเบิร์ต แอนด์ เดอะ มูฟวีส์ รายการวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดังซึ่งผลิตโดยวอลต์ ดิสนีย์ โดย โรเจอร์ อีเบิร์ต นักวิจารณ์ภาพยนตร์หนึ่งในผู้ดำเนินรายการได้กล่าวชื่นชมการแสดงของสามนักแสดงสาวที่เป็นตัวละครหลักของเรื่อง โดยเฉพาะ แอนนาเบธ กิช ที่อีเบิร์ตเปรียบว่าทำให้นึกถึง แคทารีน เฮปเบิร์น นักแสดงหญิงชั้นนำในฮอลลีวูดเมื่อสมัยเป็นวัยรุ่น[3] และกล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกย้อนกลับมาพูดถึงอีกครั้งเมื่อนักแสดงในเรื่องกลายเป็นดาราที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอนาคตข้างหน้า
โดยเมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่โรเจอร์ อีเบิร์ต กล่าวไว้ก็ได้รับการพิสูจน์เมื่อ แอนนาเบธ กิช กลายเป็นดาราดังในแวดวงโทรทัศน์ โดยเฉพาะในซีรีส์ แฟ้มลับคดีพิศวง, The Haunting of Hill House - บ้านกระตุกวิญญาณ ส่วนลิลี เทย์เลอร์ ได้แสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ประสบความสำเร็จหลายเรื่องเช่น Ransom - ค่าไถ่เฉือนคม, The Haunting -หลอนขนหัวลุก, The Conjuring - คนเรียกผี, เมซ รันเนอร์ สมรภูมิมอดไหม้ ส่วนคนที่ต่อมาภายหลังโด่งดังและมีชื่อเสียงมากที่สุดคือ จูเลีย โรเบิตส์ ซึ่งกลายเป็นนักแสดงสาวอันดับหนึ่งในฮอลลีวูดในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 โดยมีผลงานอย่าง ผู้หญิงบานฉ่ำ, รักบานฉ่ำที่น็อตติ้งฮิลล์ และ อีริน บรอคโควิช ยอมหักไม่ยอมงอ ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์และรางวัลลูกโลกทองคำ
นอกจากนี้นักแสดงหนุ่มวัย 17 ปี ที่รับบทตัวประกอบในเรื่องอย่าง แม็ตต์ เดม่อน ต่อมาได้กลายเป็นนักแสดงชายแถวหน้าในวงการฮอลลีวูด มีผลงานที่โด่งดังอย่าง ภาพยนตร์ชุดเจสัน บอร์น, อินเตอร์สเตลลาร์ ทะยานดาวกู้โลก, เดอะ มาร์เชียน กู้ตาย 140 ล้านไมล์ และได้รับรางวัลออสการ์และรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง Good will Hunting - ตามหาศรัทธารัก
อ้างอิง แก้
- ↑ Variety film review; 12 October 1988
- ↑ "Mystic Pizza (1988)".
- ↑ "Mystic Pizza". Chicago Sun-Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-21. สืบค้นเมื่อ 2021-10-02.