สลิเทอร์ลิงก์
สลิเทอร์ลิงก์ (Slitherlink) เป็นปริศนาตรรกะอย่างหนึ่ง คิดค้นโดย นิโคะริ (Nikoli) ผู้ผลิตนิตยสารปริศนาของประเทศญี่ปุ่น ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Puzzle Communication Nikoli เล่มที่ 26 ประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2532
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/4/42/Slither-link-example.png/220px-Slither-link-example.png)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/3/3e/Slither-link-answer.png/220px-Slither-link-answer.png)
สำหรับชื่ออื่นๆ ที่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศได้แก่ Fences, Takegaki, Loop the Loop, Ouroboros และ Dotty Dilemma ส่วนในประเทศไทย นิตยสารในเครือ ปริศนา ของบริษัท สำนักพิมพ์อาทร จำกัด ได้เรียกชื่อเกมนี้ว่า ปริศนาผนังสร้างอาณาเขต
ฮัดสัน (Hudson) เป็นผู้นำปริศนานี้ไปสร้างเป็นเกมบนเครื่องนินเทนโด ดีเอส ซึ่งใช้หน้าจอระบบสัมผัส ในชื่อ Puzzle Series Vol. 5: Slitherlink
ลักษณะและกติกา
แก้สลิเทอร์ลิงก์เป็นปริศนาที่เล่นบนจุดที่เรียงแถวต่อกันคล้ายตาราง ในช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสระหว่างจุดบางช่องมีตัวเลขกำกับอยู่ (ในยุคแรกๆ มีตัวเลขกำกับทุกช่อง) จุดประสงค์ของปริศนานี้คือให้ลากเส้นตรงเชื่อมต่อระหว่างจุดในแนวตั้งและแนวนอนให้ได้เป็นรูปปิดรูปหนึ่ง (เพียงรูปเดียว ไม่มีหลายรูป) ห้ามลากแนวทแยง เชื่อมกัน หรือตัดกัน โดยช่องที่มีตัวเลขจะหมายถึงจำนวนเส้นที่ต้องล้อมรอบช่องนั้น เช่น "2" หมายความว่าจะต้องมีเส้นที่ล้อมรอบช่องนี้สองเส้น รูปปิดที่ได้จะมีรูปแบบเดียวเท่านั้นเป็นผลเฉลย ไม่มีหลายรูปแบบ
เทคนิคการไขปริศนา
แก้เมื่อใดก็ตามที่จำนวนเส้นรอบช่องสี่เหลี่ยม มีเส้นล้อมรอบครบตามจำนวนที่ระบุไว้ในช่อง ช่องว่างที่เหลือสามารถทำเครื่องหมายเล็กๆ เช่นกากบาท เพื่อบ่งบอกว่าจะไม่มีเส้นอื่นผ่านทางนี้อีก อย่างไรก็ตาม วิธีของการลากเส้นล้อมรอบช่องหนึ่งๆ อาจมีได้หลายวิธี มีเพียงบางกรณีที่สามารถระบุลงไปได้ว่ามีกรณีเดียวโดยพิจารณาจากเส้นหรือตัวเลขที่อยู่ข้างเคียงประกอบ ซึ่งสามารถแจกแจงได้ดังนี้
- ช่องเลข "0" – ทั้งสี่ด้านของช่องนี้สามารถกากบาททิ้งไปได้ทันที เนื่องจากจะไม่มีเส้นใดที่ลากผ่านช่องนี้
- ช่องเลข "1" ที่มุม – สองด้านที่ชิดมุมปริศนาสามารถกากบาททิ้งไปได้ เนื่องจากเส้นที่ลากเข้าไปจะต้องลากออกมาอีกทางหนึ่ง ซึ่งทำให้จำนวนเส้นที่ล้อมรอบช่องนั้นเป็นสองเส้น ไม่ใช่หนึ่งเส้น ดังรูปที่ 1
- ช่องเลข "3" สองช่องที่ติดกันในแนวตั้งหรือแนวนอน – สำหรับกรณีนี้จะมีเส้นตรงที่ล้อมรอบทั้งสองช่องเป็นรูปตัว S หรือ Z เพียงสองกรณี ดังนั้นเราสามารถบอกได้ว่าจะมีเส้นตรงสามเส้นที่ลากผ่านส่วนบน ส่วนกลาง และส่วนล่างเสมอ (หรือส่วนซ้าย กลาง ขวา) นอกจากนั้นทั้งสองข้างของส่วนกลางจะไม่สามารถลากเส้นอื่นต่อไปได้ สามารถใส่กากบาทลงไปได้เลย ดังรูปที่ 2
- ช่องเลข "3" สองช่องที่ติดกันในแนวทแยง – ความเป็นได้ของการลากเส้นผ่านมีได้สี่กรณีคือ รูปตัว S, Z, E, 3 อย่างไรก็ตามที่ขอบด้านนอกของเลข "3" จะต้องมีเส้นลากผ่านเสมอทุกกรณี ดังรูปที่ 3
- ช่องเลข "3" สองช่องที่เรียงกันโดยมีช่องเลข "2" คั่นกลางในแนวทแยง – คล้ายกับกรณีก่อนหน้า คือจะต้องมีขอบด้านนอกของเลข "3" เสมอ ไม่ว่าจะมีเลข "2" มาคั่นกลางกี่ตัวก็ตาม (ต้องเป็นเลข "2" ล้วนเท่านั้น)
- เส้นที่เชื่อมเข้ามายังช่องเลข "3" – ด้านที่อยู่ตรงข้ามกับจุดที่เชื่อมจะต้องมีเส้นเสมอ เนื่องจากด้านที่ไม่มีเส้นของช่องเลข "3" จะต้องอยู่ติดกับจุดที่เชื่อมทางใดทางหนึ่งโดยมีความเป็นไปได้เพียงสองกรณี ดังรูปที่ 4
- เส้นที่เชื่อมเข้ามายังช่องเลข "2" และมีด้านตรงข้ามด้านหนึ่งเป็นกากบาท – ด้านตรงข้ามที่เหลืออีกด้านจะต้องเป็นเส้นตรงเสมอ ดังรูปที่ 5
- เส้นที่เชื่อมเข้ามายังช่องเลข "1" และมีกากบาทที่จุดเชื่อม – เส้นที่ลากเข้ามาจะเลี้ยวไปทางอื่นไม่ได้ จำเป็นต้องลากเข้ามายังช่องเลข "1" เพียงด้านเดียว ดังนั้นเส้นตรงจะไม่ถูกลากผ่านด้านตรงข้ามอย่างแน่นอน ดังรูปที่ 6
-
ช่องเลข "1" ที่มุม
-
ช่องเลข "3" สองช่องที่ติดกันในแนวตั้งหรือแนวนอน
-
ช่องเลข "3" สองช่องที่ติดกันในแนวทแยง
-
เส้นที่เชื่อมเข้ามายังช่องเลข "3"
-
เส้นที่เชื่อมเข้ามายังช่องเลข "2" และมีด้านตรงข้ามด้านหนึ่งเป็นกากบาท
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Nikoli's English page on Slitherlink เก็บถาวร 2006-09-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- On the NP-completeness of the Slitherlink Puzzle เก็บถาวร 2013-01-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Slitherlink is NP-complete
- Eurogamer review of Slitherlink on the Nintendo DS เก็บถาวร 2007-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Puzzles in Southwest Airlines magazine เก็บถาวร 2007-11-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน