วิ่งสู้ฟัด 5 เหิรสู้ฟัด

วิ่งสู้ฟัด 5 เหิรสู้ฟัด
	ใบปิดภาพยนตร์
กำกับ	เบนนี่ ชาน
เขียนบท	อลัน หยวน
อำนวยการสร้าง	เบนนี่ ชาน; เฉินหลง; วิลลี่ ชาน; บาร์บี้ ถัง; โซลอน โซ
นักแสดงนำ	เฉินหลง; เซียะ ถิงฟง; หยาง ไฉ่หนี; อาซา; แดเนียล วู; หลอ ฮุยกวง; เลี่ยว ฉี่จื้อ
กำกับภาพ	แอนโทนี่ ปัน
ตัดต่อ	เหยา ไฉ่ไหว
ดนตรีประกอบ	ทอมมี่ วัย
ผู้จัดจำหน่าย	JCE Movies Limited; Emperor Motion Pictures; China Film Group Corporation; MGN Filmes; มงคลภาพยนตร์; (ไทย)
วันฉาย	23 กันยายน ค.ศ. 2004
ความยาว	124 นาที
ประเทศ	ฮ่องกง
ภาษา	กวางตุ้ง
ทำเงิน	21,109,502 ดอลลาร์ฮ่องกง

วิ่งสู้ฟัด 5 เหิรสู้ฟัด (อังกฤษ: New Police story) เป็นภาพยนตร์ฮ่องกงแนวแอกชั่นจากปี ค.ศ. 2004 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ภาคที่ห้าในภาพยนตร์ซีรีส์ชุดวิ่งสู้ฟัด ต่อจากวิ่งสู้ฟัด 4 โดยมีภาคต่อคือวิ่งสู้ฟัด 2013 กำกับภาพยนตร์โดย เฉิน มู่เซิ่ง นำแสดงโดยเฉินหลง, อู๋ เอี้ยนจู่, เซียะ ถิงฟง

เรื่องย่อ แก้

เมื่อตำรวจฝีมือดีต้องมาเสียอนาคต พร้อมกับเสียเพื่อนร่วมงาน เพราะแก๊งโจรวัยรุ่นที่รักสนุกก่อความวุ่นวาย เขาได้แต่โทษตัวเอง และเอาแต่เก็บตัว แต่เมื่อเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้เข้ามาเพื่อช่วยให้เขากลับมาจัดการกับแก๊งโจรวัยรุ่นกลุ่มเดิม เขาจะสามารถกลับมาผดุงความยุติธรรมได้หรือไม่ และเขาจะใช้วิธีอะไรจัดการกับแก๊งโจรกลุ่มนี้

นักแสดงนำ แก้

เฉินหลง รับบท ผู้กองเฉิน นายตำรวจขาลุยที่ทำผิด จนต้องออกจากตำรวจ
แดเนียล วู รับบท หัวหน้าแก๊งโจรวัยรุ่น
เซียะ ถิงฟง รับบท เจิ้น เสี่ยวฟง หนุ่มน้อยที่คอยช่วยเหลือผู้กองเฉิน

บ็อกซ์ออฟฟิศ แก้

วิ่งสู้ฟัด 5 เหิรสู้ฟัด เปิดตัวในฮ่องกงเมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2004 โดยสร้างรายได้ 5,625,746 ดอลลาร์ฮ่องกงในสามวันแรก และสิ้นสุดการดำเนินงานด้วยเงิน 21 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ส่งผลให้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวในประเทศสูงสุดอันดับสี่แห่งปี

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 2006 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเปิดตัวแบบจำกัดในสหราชอาณาจักร ในช่วงสุดสัปดาห์ที่เปิดตัวภาพยนตร์ทำเงินได้ 19,332 ดอลลาร์จากการฉายในโรงภาพยนตร์ 16 แห่ง ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 21 ของบ็อกซ์ออฟฟิศและรายได้เฉลี่ย 1,208 ดอลลาร์ต่อโรงภาพยนตร์^[1] ครั้นวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2006 วิ่งสู้ฟัด 5 เหิรสู้ฟัด ทำรายได้รวม 33,404 ดอลลาร์ในการเปิดตัวสองสัปดาห์ในสหราชอาณาจักร^[2] โจนาธาน รอสส์ ซึ่งเป็นนักวิจารณ์ภาพยนตร์ชาวอังกฤษ ได้ให้คำวิจารณ์ในเชิงบวกอย่างเที่ยงธรรมและรู้สึกว่าเฉินหลงสามารถ "ยังคงทำธุรกิจ"^[3]