ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พริก"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 15:
[[ไฟล์:Phrik khi nu.jpg|thumb|right]]
[[ไฟล์:Thai_peppers.jpg|thumb|right]]
'''
พริกชนิดต่าง ๆ มีต้นกำเนิดมาจากทวีป[[อเมริกา]] ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้มีปลูกกันในหลายประเทศทั่วโลก เพราะพริกเป็นเครื่องเทศที่สำคัญชื่อหนึ่ง และยังมีคุณสมบัติเป็นยาสมุนไพรด้วยเช่นกัน
== ชนิดของ
พริกมีหลายชนิด เช่น [[พริกขี้หนู]] [[พริกหยวก]] [[พริกเหลือง]] [[พริกชี้ฟ้า]] [[พริกหนุ่ม]] [[พริกกะเหรี่ยง]] [[ประเทศไทย]]นั้นมักนิยมปลูกพริกอยู่ 2 ชนิดซึ่งได้แก่
บรรทัด 24:
# พริกเผ็ดได้แก่ [[พริกขี้หนูสวน]] [[พริกขี้หนูใหญ่]] (ในกลุ่ม ''C. furtescens'')
== การเพาะปลูก
;การเตรียมดิน
:ระหว่างไถพรวน ดินให้รองพื้นด้วยปูนขาว อัตรา 75 ก.ก. ต่อไร่ และปุ๋ย ไบ.โอ.ฮิวมิค.พลัส. อัตรา 50 ก.ก. ต่อไร่ แล้วรดน้ำตาม หรือจะใช้ปุ๋ยดิน ทอง อัตรา 1 แกลลอน (5 ลิตร) ต่อ 1 ไร่ รองพื้น เพื่อปรับสภาพดินและป้องกันกำจัด เชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคพืชที่มีอยู่ในดิน บ่ม ดินทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน จึงยกร่องกว้าง 1 เมตร สูง 20 ซม. แล้วจึงคลุมผ้ายาง ทำการ เจาะรูผ้ายางให้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ซม. ห่างกันประมาณ 50 ซม. เพื่อป้องกันกำจัด วัชพืชในแปลงพริก
เส้น 75 ⟶ 74:
ในสมัยก่อน ยุคที่อังกฤษล่าอาณานิคม ลูกเรือที่เดินทางข้ามทวีปโดยใช้เวลาเป็นเดือน ๆ มักเป็นโรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเลือดออกตามไรฟัน เจมส์ ลินด์ หมอของบริษัทการค้าอินเดียตะวันออกเป็นคนแรกที่สรุปว่าสารบางอย่างในผลไม้จำพวกส้ม สามารถรักษาโรคลักปิดลักเปิดได้ อีกหลายร้อยปีต่อมา อัลเบิรต์ กอยจี้ และทีมนักวิจัย สามารถแยกวิตามินซีบริสุทธิ์ได้ และตั้งชื่อมันว่ากรดแอสคอบิก
ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ชายคือ 90 มิลลิกรัม หญิงคือ 75 มิลลิกรัม ถ้าหากรับประทานเกินความจำเป็นของร่างกาย ทำให้ปวดท้อง และอาจทำให้ท้องเสียได้
{{คอมมอนส์}}
|