พิบูลย์ รัชกิจประการ

นายพิบูลย์ รัชกิจประการ (เกิด 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2504) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล 2 สมัย เป็นอดีตนายกเทศมนตรีเมืองสตูล[1]

พิบูลย์ รัชกิจประการ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด5 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 (62 ปี)
พรรคการเมืองภูมิใจไทย
คู่สมรสนางทิพรัตน์ รัชกิจประการ

ประวัติ แก้ไข

พิบูลย์ รัชกิจประการ เกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 ที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของนายสุทัศน์ และนางกุยเฮียง รัชกิจประการ เป็นน้องชายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พิบูลย์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการเกษตร จาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์[2] สมรสกับ นางทิพรัตน์ รัชกิจประการ มีบุตร-ธิดา 4 คน

การทำงาน แก้ไข

พิบูลย์ ทำอาชีพธุรกิจส่วนตัว โดยเป็นเจ้าของบริษัทสตูลอะความารีน ฟีดซัพพลาย

งานการเมือง แก้ไข

พิบูลย์ เคยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองสตูล ต่อมาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2562 และ พ.ศ. 2566 สังกัดพรรคภูมิใจไทย

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แก้ไข

พิบูลย์ รัชกิจประการ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 2 สมัย คือ

  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดสตูล สังกัดพรรคภูมิใจไทย
  2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 จังหวัดสตูล สังกัดพรรคภูมิใจไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้ไข

อ้างอิง แก้ไข

  1. "รัชกิจประการ" ฐานที่มั่นภูมิใจใต้
  2. พิบูลย์ รัชกิจประการ
  3. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓ เก็บถาวร 2022-10-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๑๐, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ เก็บถาวร 2022-12-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๒, ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย ประจำปี ๒๕๕๓ เก็บถาวร 2022-05-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๑๖ ข หน้า ๖, ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๔