พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตั้งอยู่ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานในฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 2466 - 2467 โดยมีนายแอร์โกเล มันเฟรดี (Ercole Manfredi) สถาปนิกชาวอิตาเลียนเป็นผู้ออกแบบ หมู่พระตำหนักมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมในรูปแบบไทยผสมตะวันตก มีการใช้ไม้สักทองประกอบขึ้นทั้งหลัง โดยยกใต้เสาตอม่อคอนกรีตเสริมเหล็กเหนือชายหาด
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน | |
---|---|
ศาลาทรงซึ่งเชื่อมต่อกับหมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร หนึ่งในสัญลักษณ์ของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | พระราชนิเวศน์ |
สถาปัตยกรรม | ไทยประยุกต์ (ไทยผสมยุโรป) |
ที่ตั้ง | ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ |
เมือง | เพชรบุรี |
ประเทศ | ไทย |
เริ่มสร้าง | พ.ศ. 2466 |
ข้อมูลทางเทคนิค | |
โครงสร้าง | ไม้สักทอง ฐานรากก่ออิฐถือปูน |
การออกแบบและการก่อสร้าง | |
สถาปนิก | แอร์โกเล มันเฟรดี |
เว็บไซต์ | |
mrigadayavan | |
ปัจจุบันตั้งอยู่ภายในค่ายพระรามหก |
ประวัติ
แก้พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานในฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวจัดเป็นที่ประทับที่มีความเรียบง่ายที่สุดซึ่งสร้างตามพระราชประสงค์ของพระองค์เองเพื่อไม่ให้เป็นการเปลืองพระราชทรัพย์จนเกินไปโดยพระองค์เสด็จมาประทับ ณ พระราชนิเวศน์แห่งนี้ถึงสองครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2467 เป็นเวลา 3 เดือน และครั้งที่สอง ปี พ.ศ. 2468 หลังจากนั้นก็ไม่ได้เสด็จมาประทับอีกเลยเนื่องจาก 5 เดือนต่อมาพระองค์ก็เสด็จสวรรคต ณ พระบรมมหาราชวัง
ปัจจุบัน
แก้ปัจจุบัน พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ยังคงซึ่งไว้เขตพระราชฐาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นค่ายพระรามหก กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด) เพื่อใช้ในการฝึกรบสนับสนุนทางอากาศ และในปี 2536 ตชด ได้จัดตั้ง มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
สถาปัตยกรรม
แก้สถาปัตยกรรมของพระราชนิเวศน์เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์ คือ ไทยผสมยุโรป สร้างด้วยไม้สักทอง ลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้นเปิดโล่งใต้ถุนสูง บริเวณใต้ถุนทำเป็นคอนกรีต หลังคาเป็นหลังคาทรงปั้นหยามุงด้วยกระเบื้องว่าวแบบสี่เหลี่ยมซึ่งสามารถกันแดดและกันฝนได้ดีกว่าแบบธรรมดา เพดานยกพื้นสูงมีบานเกล็ดระบายความร้อนโดยมีเสารองรับพระที่นั่งทั้งหมด 1080 ต้น วางในแนวเดียวกัน เสาทุกต้นมีการหล่อขอบฐานและยกขอบขึ้นไปรางน้ำ เรียกว่า บัวขอบ เพื่อกันมดและสัตว์อื่น ๆ ซึ่งในสมัยนั้นมีมดและสัตว์อื่น ๆ ชุกชุม
พระที่นั่ง
แก้พระที่นั่งทั้ง 3 องค์มีความยาวทั้งสิ้น 399 เมตรแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ท้องพระโรง เขตที่ประทับฝ่ายหน้า และเขตที่ประทับฝ่ายใน โดยมีทางเชื่อมต่อกันโดยตลอดโดยมีพระที่นั่งองค์ต่าง ๆ ดังนี้
พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์
แก้พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ เป็นพระที่นั่งองค์แรกตั้งอยู่ทางทิศเหนือเป็นพระที่นั่ง 2 ชั้นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเปิดถึงกันทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ด้านบนเพดานเป็นช่องสี่เหลี่ยมเขียนลวดลายโดยทั้งชั้นล่างและชั้นบนมีห้องควบคุมไฟสำหรับเวทีที่ใช้แสดงละครและมีห้องพักนักแสดง ภายในมีบันไดสำหรับนักแสดงขึ้นลงโดยการแสดงจะจัดขึ้นบริเวณทิศเหนือซึ่งเป็นเวทีซึ่งยกพื้นสูงโดยเจ้านายฝ่ายในจะประทับที่เฉลียงชั้นบนอัฒจันทร์ที่อยู่ตรงทางเข้านั้นเป็นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยทางขึ้นและทางลงแยกกันคนละทาง โดยบนอัฒจันทร์มีลาดพระบาท (พรม) สำหรับเป็นทางเสด็จชั้นบน เป็นท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกว่าราชการ รับพระราชอาคันตุกะ และประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ โดยภายในห้องพระราชพิธีเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปซึ่งสร้างขึ้นภายหลังนอกจากนี้ยังมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกหลายภาพ
หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน
แก้หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน ประกอบไปด้วยอาคารต่าง ๆ ดังนี้
- อาคารด้านหน้า คือบ้านพักของพลเอก เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวง เฟื้อ พึ่งบุญ) ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการมหาดเล็กภายในประกอบด้วยห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องทำงาน
- พระที่นั่งสมุทรพิมานองค์ที่สอง เป็นส่วนที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในประกอบด้วย ห้องพระบรรทม ห้องทรงงาน ห้องสรง ห้องแต่งพระองค์
- อาคารด้านตรงข้ามกับพระที่นั่งสมุทรพิมาน คือหอเสวยฝ่ายหน้าเป็นสถานที่สำหรับเสวยพระกระยาหารและจัดงานพระราชทานเลี้ยง
- พระที่นั่งสมุทรพิมานองค์แรก เดิมเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวต่อมาโปรดเกล้าให้เป็นที่ประทับของพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี
- เรือนฝ่ายใน เดิมเป็นบ้านพักของพลตรี พระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ) ซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าพระยารามราฆพ
โดยพระที่นั่งองค์นี้มีทางเชื่อมกับศาลาลงสรงฝ่ายหน้า ภายในประกอบด้วยห้องแต่งพระองค์ ห้องเก็บของ และเฉลียงสำหรับรับลมทะเล โดยถ้าไม่โปรดจะลงเล่นน้ำทะเลก็มาประทับที่เฉลียงรับลมทะเลก็ได้
หมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร
แก้หมู่พระทีนั่งพิศาลสาคร ประกอบไปด้วยอาคารต่าง ๆ ดังนี้
- อาคารหลังแรก เป็นห้องรับแขกเดิมเป็นท้องพระโรงฝ่ายใน ปัจจุบันเป็นโรงเรียนสอนดนตรีไทย
- หอเสวยฝ่ายใน เป็นสถานที่สำหรับเสวยพระกระยาหาร
- พระที่นั่งพิศาลสาคร เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ภายในประกอบด้วย ห้องบรรทม ห้องรับแขก ห้องสรง ห้องแต่งพระองค์และเฉลียงสำหรับรับลมทะเล
- เรือนพระสุจริตสุดา เป็นบ้านพักของพระสุจริตสุดาซึ่งเป็นพระสนมเอกภายในประกอบด้วย ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องแต่งตัวและเฉลียงรับลมทะเล
- ห้องพักคุณท้าววรคณานันท์ เป็นบ้านพักของคุณท้าววรคณานันท์ (หม่อมราชวงศ์แป๋ม มาลากุล) และคุณท้าวสมศักดิ์ (หม่อมราชวงศ์ปุย มาลากุล)
โดยพระที่นั่งองค์นี้มีทางเชื่อมกับศาลาลงสรงฝ่ายในภายในประกอบด้วยห้องแต่งพระองค์ ห้องเก็บของ และเฉลียงสำหรับรับลมทะเลโดยถ้าไม่โปรดจะลงเล่นน้ำทะเลก็มาประทับที่เฉลียงรับลมทะเลก็ได้
สวนพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
แก้แต่เดิมพบเพียงภาพถ่ายในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยปรากฏสภาพเป็นป่าชายหาดตามลักษณะภูมิประเทศ และถากเป็นพื้นโล่งเตียนโดยรอบหมู่พระที่นั่ง เมื่อทางมูลนิธิมีโครงการในการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบพระราชนิเวศน์ โดยหม่อมหลวงภูมิใจ ชุมพล ผู้ออกแบบสวนได้แรงบันดาลใจจากบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีสวนต่าง ๆ ดังนี้
- สวนเวนิสวานิช
สวนที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างจากบทพระราชนิพนธ์เรื่องเวนิสวานิช ที่แปลมาจากเรื่อง The Merchant of Venice ของวิลเลี่ยม เช็กสเปียร์ นักประพันธ์ชื่อก้องโลกชาวอังกฤษ ที่พระองค์ท่านทรงคงลีลาและฉันทลักษณ์การแปลไว้คำต่อคำใกล้เคียงกับต้นฉบับจริงมากที่สุด สวนแห่งนี้ออกแบบในสไตล์เรอเนสซองและที่กำหนด สร้างไว้ ณ จุดหน้าสุดของเขตพระราชฐานก็เพื่อเป็นจุดนัดพบ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เฉกเช่นเดียวกับเมืองเวนิส ที่เป็นสถานที่พบปะของผู้คน และเป็นแหล่งการค้า ในบทประพันธ์ของเช็กสเปียร์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
- สวนศกุนตลา
ลานกว้างที่ใช้ต้นเข็มนานาพันธุ์ทำเป็นกำแพงล้อมรอบสวน พื้นที่ภายในสวนแห่งนี้ใช้เป็นเหมือนเวทีจัดการแสดง เช่น การแสดงโขน การแสดงละครในฤดูหนาว รวมถึงการจัดเลี้ยงรับรองต่าง ๆ จากสวนศกุนตลาพื้นอิฐหกเหลี่ยม สีแดงอ่อนตัดกับสนามหญ้าสีเขียว ทอดยาวพาไปด้านหน้าทางขึ้นพระราชวังที่รายล้อมด้วยความร่มรื่นของ ไม้ยืนต้นนานาพันธุ์ และพุ่มไม้ดอกที่แข่งกันชูช่อประชันสี ราวกับภาพเขียนสีน้ำมันที่จิตรกรเอกบรรจงวาดอย่างไว้อย่างสุดฝีมือ
- สวนมัทนะพาธา
รอบด้วยระเบียงทั้งสามด้าน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชนิพนธ์เรื่องมัทนะพาธา หรือตำนานดอกกุหลาบ อันเป็นบทละครพูดคำฉันท์ที่มีการใช้สัมผัสและฉันทลักษณ์ได้ถูกต้องและมีความไพเราะยิ่ง และได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดบทละครพูดคำฉันท์ "สวนมัทนะพาธา" ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยแนวไม้พุ่มลายอ่อนช้อย โดยเลือกใช้ต้นข่อย ซึ่งมีพุ่มหนาแน่น ทนต่อแดด และไอทะเลได้ดี
อ้างอิง
แก้แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เก็บถาวร 2011-11-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เก็บถาวร 2008-05-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากเว็บไซต์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ตะลุยพาเที่ยว เก็บถาวร 2007-03-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์