พระยาเพชรกำแหงสงคราม (มลิ ยุกตนันท์)
อำมาตย์โท พระยาเพชรกำแหงสงคราม (มลิ ยุกตนันท์) (5 ตุลาคม 2408 – 25 ธันวาคม 2482)[1] เป็นขุนนางชาวไทย อดีตผู้ว่าราชการเมืองชุมพร, อดีตผู้ว่าราชการเมืองตะกั่วป่า และต้นตระกูลยุกตะนันท์[2]
ประวัติ แก้
อำมาตย์โท พระยาเพชรกำแหงสงคราม เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2408 บิดาชื่อ ยุก ยุกตนันท์ มารดาชื่อ หรุ่น ยุกตนันท์ จบการศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เมื่อจบการศึกษาได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้านชีวิตครอบครัวสมรสกับ คุณหญิงเพชรกำแหงสงคราม (เป้า วัชราภัย ยุกตะนันท์) น้องสาวของพระยาพิจารณาปฤชามาตย์ (สุหร่าย วัชราภัย) อดีตองคมนตรีสมัยรัชกาลที่ 6–7 และอดีตกรรมการศาลฎีกา
พระยาเพชรกำแหงสงครามถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2482 ด้วยโรคชราที่บ้านตรอกเวท ถนนสีลม จังหวัดพระนคร สิริอายุได้ 74 ปี
รับราชการ แก้
หลังจากเรียนจบจากสหรัฐอเมริกาก็ได้เข้ารับราชการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนนายร้อยทหารบก (โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ในปัจจุบัน) เมื่อปี 2431 ในวันที่ 7 เมษายน 2432 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรยศเป็น นายร้อยตรี มลิ[3] จากนั้นในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2435 ท่านได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนยศเป็น นายร้อยโท มลิ[4] ต่อมาได้โอนไปรับราชการที่กระทรวงมหาดไทยและได้เข้ารับพระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์เป็น หลวงสวัสดิ์บุรีรมย์ ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา เมื่อวันที่ 13 มกราคม ศกเดียวกัน[5]
ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2440 ได้โปรดเกล้าฯ ให้กระทรวงมหาดไทยส่งสัญญาบัตรเลื่อนบรรดาศักดิ์ให้ท่านเป็น พระยาเพชรกำแหงสงคราม ผู้ว่าราชการเมืองชุมพร ถือศักดินา 3000[6] ต่อมาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2443 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายท่านมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองตะกั่วป่าที่ว่างอยู่[7] ในปี 2446 ท่านได้เป็นเจ้ากรมสำรวจ ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งในเดือนพฤษภาคมปี 2447 เนื่องจากโรคภัยเบียดเบียนขอพักรักษาตัว[8] จากนั้นในปี 2449 หลังจากรักษาตัวจนหายดีแล้วก็ได้กลับเข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองศรีโสภณแทน หลวงนราโยธี ที่โปรดให้กลับเข้ามารับราชการที่กรุงเทพฯ[9]
ต่อมาเมื่อมีการยกฐานะอำเภอกบินทร์บุรี เมืองปราจีนบุรี ขึ้นเป็นเมืองกบินทร์บุรี ในปี 2450[10] ก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้ท่านเป็นผู้ว่าราชการเมืองกบินทร์บุรี หลังจากนั้นในปี 2451 ท่านก็ล้มป่วยจึงได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองกบินทร์บุรีเพื่อพักรักษาตัวโดยมี พระภักดีเดชะ นายอำเภอประจันตคามมารักษาราชการแทน[11]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้
พระยาเพชรกำแหงสงคราม (มลิ ยุกตนันท์) ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งไทยและต่างประเทศ ดังนี้
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย แก้
- พ.ศ. 2440 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)[12]
- พ.ศ. 2438 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (บ.ช.)[13]
- พ.ศ. 2446 – เหรียญทวีธาภิเศก (ท.ศ.)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ แก้
- ฝรั่งเศส :
- พ.ศ. 2457 – เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ ชั้นเชอวาลีเย[14]
อ้างอิง แก้
- ↑ จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน
- ↑ พระราชทานนามสกุล ครั้งที่ 5 (ลำดับที่ 394)
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตร พลเรือน และ ทหาร (หน้า 10)
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรทหาร
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง
- ↑ ส่งสัญญาบัตรไปพระราชทาน
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ย้ายข้าราชการและแต่งตั้งข้าราชการ (หน้า 719)
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปพระราชทาน, เล่ม ๑๔ ตอนที่ ๑๕ หน้า ๑๘๘, ๑๑ กรกฎาคม ๑๑๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๒ ตอนที่ ๔๖ หน้า ๔๔๕, ๑๖ กุมภาพันธ์ ๑๑๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับตราต่างประเทศ, เล่ม ๓๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๒๙๘, ๑๓ กันยายน ๒๔๕๗