ธรรมารมณ์ คือ อารมณ์ที่ใจรู้ หรืออารมณ์ที่เกิดทางใจ[1] สิ่งที่ใจคิด ความคิด จินตนาการ สิ่งที่ใจเก็บมาคิด ที่เป็นอดีต ปัจจุบัน อนาคต แล้วหน่วงดึงมาเป็นอารมณ์ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นในใจ สัมผัสด้วยใจ[2]

ธรรมารมณ์ มี 2 อย่าง คือ 1. มโนธรรมารมณ์ ธรรมารมณ์ที่เกิดขึ้นในใจ ได้แก่ เวทนา สัญญา และสังขาร 2. โผฏฐัพพะธรรมารมณ์ ธรรมารมณ์ที่เกิดขึ้นทางกาย ได้แก่โผฏฐัพพะที่ประกอบด้วยเวทนา เช่น เจ็บ ปวด เมื่อย ชา คัน เป็นต้น เพราะจิตเมื่อโผฏฐัพพะเหล่านี้เกิดขึ้น จิตจะไปกำหนดจับที่เวทนาก่อน และเมื่อผัสสะเกิดขึ้นจะไม่สามารถแยกโผฏฐัพพะความรู้สึกทางกายออกจากเวทนาได้ จึงจัดให้โผฏฐัพพะที่ประกอบด้วยเวทนาเหล่านี้เป็นธรรมารมณ์ การจะแยกเวทนาออกจากธรรมารมณ์ได้นั้นสามารถทำได้ด้วยการบรรลุนามรูปปริจเฉทญาณ ซึ่งเป็นญาณที่สามารถแยกรูปนามออกจากกันได้ ส่วนโผฏฐัพพะที่ไม่ประกอบด้วยเวทนา 8 อย่าง ไม่จัดว่าเป็นธรรมมารมณ์ จึงจัดเป็นโผฏฐัพพะแท้ ได้แก่ 1. ความรู้สึก แข็ง นิ่ม ของธาตุดิน 2. ความรู้สึก ตึง หย่อน ของธาตุน้ำทางอ้อมที่ทำหน้าที่เกาะกุมให้เกิดรูปร่างแต่เป็นธาตุลมทางตรง (ความรู้สึก พอง ยุบ เป็นสมมุติบัญญัติ) 3. ความรู้สึก ร้อน เย็น ของธาตุไฟ 4. ความรู้สึก เคลื่อนไหว หยุดนิ่ง ของธาตุลม (ความรู้สึก เข้า ออก จัดเป็นสมมุติบัญญัติ)

อ้างอิง

แก้
  1. ความหมายคำว่า "ธรรมารมณ์". พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. ISBN 974-9588-04-5
  2. พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุดคำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้