ตำรวจอวกาศเกียบัน THE MOVIE

ตำรวจอวกาศเกียบัน THE MOVIE (ญี่ปุ่น: 宇宙刑事ギャバン THE MOVIEโรมาจิUchû keiji Gyaban THE MOVIE) เป็นภาพยนตร์ผลิตโดยบริษัทโตเอะ เป็นการครบรอบ 30 ปีของ ตำรวจอวกาศเกียบัน ผลงานแรกของซีรีส์ตำรวจอวกาศและเมทัลฮีโร่ เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2012 [1]

ตำรวจอวกาศเกียบัน THE MOVIE
ไฟล์:Space Sheriff Gavan the Movie - New Movie Poster.jpg
กำกับOsamu Kaneda
เขียนบทYūji Kobayashi
อำนวยการสร้างJun Hikasa (Toei)
นักแสดงนำYuma Ishigaki
Kenji Ohba
Takuya Nagaoka
Yukari Taki
ซุซุกะ โมะริตะ
Toshiaki Nishizawa
Honoka
Riki Miura
Hiroaki Iwanaga
ผู้บรรยายKiyoshi Kobayashi
กำกับภาพWataru Kikuchi
ดนตรีประกอบMichiaki Watanabe
Kousuke Yamashita
ผู้จัดจำหน่ายToei Company
วันฉาย
  • 20 ตุลาคม ค.ศ. 2012 (2012-10-20) (Japan)
ประเทศญี่ปุ่น
ภาษาญี่ปุ่น

ประวัติ

แก้

หลังจากที่ปรากฏในภาพยนตร์ ขบวนการโจรสลัด โกไคเจอร์ VS ตำรวจอวกาศ เกียบัน THE MOVIE ทำให้เริ่มสร้างผลงานออริจินอลของซีรีส์ตำรวจอวกาศในช่วงครบรอบ 30 ปี โดยถูกทำรูปแบบภาพยนตร์ขึ้นมา

เรื่องย่อ

แก้

ตัวละคร

แก้

สำนักงานตำรวจทางช้างเผือก

แก้
จูมนจิ เกคิ (十文字 撃) / ตำรวจอวกาศเกียบัน Type-G (宇宙刑事ギャバンtypeG)
ตัวเอกของเรื่อง อายุ 27 ปี นายตำรวจอวกาศหนุ่มชาวโลกซึ่งถูกเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะของตำรวจอวกาศฝึกหัดในชื่อ เกียบัน เขาเป็นเด็กหนุ่มผู้มีความใฝ่ฝันจะเดินทางออกไปสำรวจอวกาศร่วมกับเพื่อนสมัยเด็กอย่าง โอคุมะ โทยะ จนได้เข้าร่วมกับองค์กร SARD และเข้าร่วมการเดินทางสำรวจดาวอังคารแต่กลับประสบอุบัติเหติระหว่างปฏิบัติภารกิจจนล่องลอยไปในอวกาศและได้รับความช่วยเหลือจากเร็ตสึหรือเกียบันรุ่นแรกและได้รับการทาบทามให้รับการฝึกเป็นตำรวจอวกาศคนใหม่ เกียบัน Type-G ในด้านของการแปลงร่างจะมีขั้นตอนวิธีการเหมือนกับเกียบันรุ่นแรกเพียงแต่โพสท่าต่างกันเล็กน้อย
อิจิโจจิ เร็ตสึ (一条寺 烈) / ตำรวจอวกาศเกียบัน (宇宙刑事ギャバン)
แสดงโดย โอบะ เคนจิ (大葉 健二)
เกียบันรุ่นแรก
คาวาอิ อิทสึคิ (河井 衣月)
เชอร์รี่ (シェリー)
ผู้ช่วยของเกคิ เป็นลูกสาวของมีมี่ คอยเป็นผู้ช่วยของเกคิ
ผู้บัญชาการ โคม (コム長官)
เลขานุการ เอรินะ (エリーナ秘書官)
เฮียวกะ ไค (日向 快) / ตำรวจอวกาศชาลีบัน (宇宙刑事シャリバン)
คาราซุมะ ชู (烏丸 舟) / ตำรวจอวกาศไชเดอร์ (宇宙刑事シャイダー)

องค์กรอาชญากรรมอวกาศมาคู

แก้
ไบรตั้น (ブライトン) / โอคุมะ โทยะ (大熊 遠矢)
หัวหน้าคนใหม่ของมาคู ดำเนินแผนการเพื่อการคืนชีพ ดอน เฮอเรอร์ โดยชิงอุกกาบาตจากองค์กร SARD และลักพาตัว คาวาอิ อิทสึคิ เพื่อเป็นเครื่องสังเวยและร่างทรงของดอน เฮอเรอร์ ตัวจริงของเขาคือเพื่อนสมัยเด็กของเกคิ ชื่อ "โอคุมะ โทยะ" ซึ่งเข้าเป็นสมาชิกของ SARD และร่วมเดินทางออกสำรวจดาวอังคารพร้อมกับเงคิแต่ก็ประสบอุบัติเหตุจนพลัดหลงกับเงคิจนเข้าไปอยู่ในเวิร์มโฮลที่วิญญาณของดอน เฮอเรอร์ซ่อนตัวอยู่และถูกยุยงว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นฝีมือของเกคิเพื่อที่จะกำจัดตัวเขาและแย่งอิทซึกิไปเป็นของตัวเองทำให้โทยะตกเป็นทาสของดอน เฮอเรอร์ในที่สุด ไบรตั้นเป็นนักรบเกราะสีดำสวมหน้ากากสีทองมีดาบเล่มใหญ่เป็นอาวุธคอยบัญชาการเหล่าอาชญากรผู้เหลือรอดของมาคูในแผนการคืนชีพให้แก่ดอน เฮอเรอร์ ในศึกตัดสินถูกเกียบัน ไทป์ จี จัดการด้วยท่า เกียบัน ไฮเปอร์ไดนามิค จนผ่าหน้ากากทองออกเป็นสองเสี่ยงทำให้พิธีกรรมคืนชีพของดอน เฮอเรอร์ถูกขัดขวางจนวิญญาณสาปสูญไปในห้วงมิติอีกครั้ง โชคร้ายที่แม้เงคิจะช่วยโทยะให้รอดพ้นจากการครอบงำของดอน เฮอเรอร์ได้แต่ก็ไม่อาจรักษาชีวิตของโทยะเอาไว้ได้เช่นกัน
ซัน บัลโดะ (ザン・バルド)
หนึ่งในสามอาชญากรที่เหลือรอดของมาคู สมุนของไบรตั้น เป็นลูกชายอีกคนของดอน เฮอเรอร์ผู้สวมชุดเกราะสีแดงของอดีตหัวหน้าหน่วยรบพิเศษของมาคูอย่างซัน ดอลบ้ามีคฑาหัวกะโหลกด้ามยาวเป็นอาวุธ ซัน บัลโด้บุกเข้าไปศูนย์วิจัยของ SARD เพื่อชิงตัวอิทซึกิและข้อมูลของอุกกาบาตเพื่อใช้ในแผนการคืนชีพให้แก่ดอน เฮอเรอร์แต่ถูกเกียบัน ไทป์ จีเข้าขัดขวางจนถูกจัดการด้วยท่า "เกียบัน ไดนามิค" ไปครั้งนึงแต่ก็คืนชีพขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเขาที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ในตอนท้ายถูกไชเดอร์กำจัดด้วยท่าไชเดอร์บลูแฟลช
แม่มดกิรุ (魔女キル)
หนึ่งในสามอาชญากรที่เหลือรอดของมาคู สมุนของไบรตั้น เป็นภรรยาอีกคนของดอน เฮอเรอร์และเป็นลูกศิษย์ของแม่มดคิบะมีแส้เป็นอาวุธ เธอปลอมตัวบุกเข้าไปยังศูนย์วิจัยโอยามะเพื่อชิงอุกกาบาตลึกลับไปใช้ในการคืนชีพของดอน เฮอเรอร์ ในตอนท้ายถูกชาลีบันกำจัดด้วยท่าชาลีบันแคลช
ลิซาร์ดดับเลอร์ (リザードダブラー)
สัตว์ประหลาดดับเบิลมอนสเตอร์ของมาคู ต้นแบบมาจากกิ้งก่า มีอาวุธประจำตัวคือดาบสั้นและโล่ สามารถปลี่ยนแขนขวาเป็นหัวกิ้งก่าเพื่อใช้ยิงลิซาร์ดมิสไซล์ เป็นลูกน้องของไบรตั้น ได้บุกเข้าสถาบันวิจัยของ SARD พร้อมกับซัน บัลโดะ และชิงข้อมูลของอุกกาบาตไปให้กับไบรตั้นและเข้าต่อสู้กับเกียบันทั้งสองรุ่น
มาคูมอนสเตอร์ (マクーモンスター)
คอน เฮอร์เรอร์ (ドン・ホラー)

เมคานิคและข้อมูลอื่นๆ

แก้

คอมแบทสูท

แก้
เกียบัน typeG (ギャバンtypeG)
คอมแบทสูทของ จูมนจิ เกคิ มีลักษณะแบบเดียวกับเกียบันรุ่นแรกที่เร็ทสึใช้ แต่มีจุดแตกต่างกันคือส่วน เลเซอร์สโคป (ส่วนตา) และ ไดเมนชันคอนโทรลเลอร์ (ไฟในส่วนลำตัว) เป็นไฟแสงสีน้ำเงิน มีความสามารถเหมือนกับเกียบันรุ่นแรกทุกประการ
เกียบัน (ギャバン)
ชาลีบัน (シャリバン)
ไชเดอร์ (シャイダー)

ยานพาหนะและยานรบ

แก้
ไซบาเรียน typeG (サイバリアンtypeG)
ยานบินความเร็วสูง โดลกิรัน (超次元高速機ドルギラン)
มังกรไฟฟ้า โดล (電子星獣ドル)
ซูซูกิ จิมนี่

ในสื่ออื่น

แก้

ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส

แก้

สำหรับ ตำรวจอวกาศเกียบัน THE MOVIE ได้ปรากฏตัวในผลงานของซีรีส์ซูเปอร์เซ็นไต ซึ่งได้ปรากฏตัวเรื่อง ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส ซูเปอร์เซ็นไตลำดับที่ 36 ซึ่งในการปรากฏตัวนั้นเป็นการโปรโมตภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉายในขณะนั้น โดยได้ปรากฏตัวถึง 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกคือ โทคุเมย์เซ็นไต โกบัสเตอร์ส VS บีทบัสเตอร์ VS J (特命戦隊ゴーバスターズVSビートバスターVS J) จากดีวีดีที่แถมจากนิตยาสารเทเลบิแม็กกาซีน ฉบับเดือน 10 ปี 2012 (วางจำหน่ายในเดือนกันยายน) โดยมีเกียบันรุ่นแรกที่ได้ปรากฏตัวในตอนนี้ และ ได้ปรากฏตัวในทีวีซีรีส์หลักจาก Mission 31 และ 32 โดยมี จูมนจิ เกคิ (เกียบัน TypeG) และ เชอร์รี่ ที่ปรากฏตัวในตอนดังกล่าว

ไรโนดับเลอร์ (ライノダブラー)
ปรากฏในทีวีซีรีส์ Mission 31 และ 32 เป็นสัตว์ประหลาดดับเบิลมอนสเตอร์ที่มาคูสร้างขึ้นมา มีต้นแบบพื้นฐานมาจากพันธุกรรมของแรด มีความสามารถในการเปิดช่องว่างมิติบรรยากาศมาคูได้ โดยการเปิดมิตินั้นเป็นการดึงคันโยกรูปร่างนอแรดที่อยู่บริเวณส่วนลำตัว

ผลงานเรื่องอื่นๆ ที่ปรากฏ

แก้
คาเมนไรเดอร์ ปะทะ ซุปเปอร์เซนไต ปะทะ ตำรวจอวกาศ มหาศึกรวมพลังฮีโร่ Z (仮面ライダー×スーパー戦隊×宇宙刑事 スーパーヒーロー大戦 Z)
ตำรวจอวกาศชาลีบัน NEXT GENERATION (宇宙刑事シャリバン NEXT GENERATION) และ ตำรวจอวกาศไชเดอร์ NEXT GENERATION (宇宙刑事シャイダー NEXT GENERATION)
สเปซ สคว็อด เกียบัน VS เดกะเรนเจอร์ (スペース・スクワッド ギャバンVSデカレンジャー)
เกิร์ลส์ อิน ทรอเบิล สเปซ สคว็อด EPISODE ZERO (ガールズ・イン・トラブル スペース・スクワッド EPISODE ZERO)
ขบวนการผู้พิทักษ์อวกาศ คิวเรนเจอร์ (宇宙戦隊キュウレンジャー)
ขบวนการผู้พิทักษ์อวกาศ คิวเรนเจอร์ VS สเปซ สคว็อด (宇宙戦隊キュウレンジャーVSスペース・スクワッド)

อ้างอิง

แก้
  1. "Space Sheriff Gavan: The Movie Announced for October Premiere". Anime News Network. 2012-07-13. สืบค้นเมื่อ 2012-07-16.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้