ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส

ซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ลำดับที่ 36

ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่น โทคุเมย์เซ็นไต โกบัสเตอร์ส (ญี่ปุ่น: 特命戦隊 ゴーバスターズโรมาจิTokumei Sentai Gōbasutāzuทับศัพท์: Tokumei Sentai Go-Busters) เป็นละครโทคุซัทสึชุดของซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ ลำดับที่ 36 ของประเทศญี่ปุ่น ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 ถีงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 ทางสถานีทีวีอาซาฮี ทุกเช้าวันอาทิตย์ เวลา 7.30 น. - 8.00 น. มีจำนวนตอนทั้งหมด 50 ตอน

ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส
Tokumei Sentai Go-Busters
ประเภทTokusatsu
Superhero fiction
Science fiction
Action/Adventure
Drama
Cyberpunk
สร้างโดยToei
พัฒนาโดยHirofumi Fukuzawa
กำกับโดยTakayuki Shibasaki
แสดงนำ
เสียงของ
บรรยายโดยShoo Munakata
ดนตรีแก่นเรื่องเปิด
ดนตรีแก่นเรื่องปิด
  • "Kizuna ~ Go-Busters!!" by Nazo no Shin Unit Starmen
  • "One wish, One day" by Katsuhiro Suzuki & Keiji Fujiwara
  • "Shinpai Honey ♥ Bunny" by Arisa Komiya & Tatsuhisa Suzuki
  • "Blue Banana Moon" by Ryoma Baba & Tesshō Genda
ประเทศแหล่งกำเนิดญี่ปุ่น
ภาษาต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น
จำนวนตอน50 ตอน
การผลิต
ผู้อำนวยการสร้าง
ความยาวตอน24-25 นาที (ต่อตอน)
ออกอากาศ
เครือข่ายTV Asahi
ออกอากาศ26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 –
10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013

ภาพรวม แก้

ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส เป็นผลงานลำดับที่ 36 ของซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ โดยเนื้อเรื่องได้ถูกกำหนดเป็นโลกคู่ขนาน แต่ก็ได้มีการเชื่อมโยงเนื้อหาระหว่างผลงานอื่นอย่าง ตำรวจอวกาศเกียบัน THE MOVIE เข้ามาอีกด้วย

รูปแบบหลักของโกบัสเตอร์สคือ สายลับพิเศษ และ สัตว์ โดยชุดของสมาชิกใช้พื้นฐานมาจากแว่นตาเข้ามาประกอบ และสมาชิกหลักได้มีผู้ช่วยหุ่นยนต์เข้ามา

ทั้งนี้ซีรีส์ดังกล่าวได้นำองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับพาวเวอร์เรนเจอร์ เข้ามาใช้ในเรื่องนี้ตั้งแต่คำว่า เมกาซอร์ด และ มอร์ฟฟิน แต่ความหมายของคำศัพท์ที่ปรากฏนั้นแตกต่างกันเล็กน้อยในซีรีส์ที่ถูกอ้างอิงมาใช้

เนื้อเรื่อง แก้

ปีค.ศ. 1999 มนุษย์ได้มีการสร้างคอมพิวเตอร์ควบคุมพลังงานที่มีชื่อว่า เอเนอร์ทรอน (エネトロン) ขึ้นมา เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติและทำให้ชีวิตของมนุษย์สะดวกสบายมากกว่าเดิม แต่แล้วพลังงานบางส่วนได้ติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการสร้างพลังงานความชั่วร้ายที่ถูกเรียกว่า เมซไซอา ที่ต้องการจะใช้เวลามากกว่ามนุษย์และสร้างโลกที่สร้างขึ้นสำหรับคอมพิวเตอร์โดยตั้งกลุ่มของตนขึ้นมาในนาม วาร์กราส

ในปัจจุบัน กลุ่มผู้สร้างเอเนอร์ทรอนได้จัดตั้งองค์กรศูนย์จัดการพลังงานขึ้นมาพร้อมกับสร้างทีมหน่วยสอดแนมที่มีชื่อว่า โกบัสเตอร์ส และผู้ช่วย บัดดี้ดรอยด์ เพื่อต่อกรกับ เมไซอาและเหล่าลูกน้องของวาร์กราสเพื่อป้องกันการรุกรานของไวรัสที่มีผลต่อเอเนอร์ทรอน

ตัวละคร แก้

ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส แก้

ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส คือ กลุ่มจารชนที่ใช้ความสามารถพิเศษต่างๆ ในภารกิจปราบปรามเหล่าวาร์กราส และ ปกป้องเอเนอร์ตรอนให้รอดพ้นจากแผนการของวาร์กราสโดยสมาชิกหลักได้รับโปรแกรมวัคซีนที่ฝังอยู่ในร่างกายของพวกเขามาเมื่อ 13 ปีก่อน โดยกลุ่มแรกที่ได้รับการทดลองติดตั้งวัคซีนได้แก่ ฮิโรมุ, ริวจิ และ โยโกะ มีสมาชิกหลัก 3 คนและสมาชิกเสริมอีก 2 คน

ในการต่อสู้ของวาร์กราส ช่วงเวลาก่อนที่จะต่อสู้ได้บอกแนะนำตัวสมาชิกแต่ละคน หลังจากที่ประกาศชื่อครบแล้วใช้คำพูดว่า บัสเตอร์ส เรดดี้...โก! (バスターズ、レディー…、ゴー!) หลังจากปราบเมตารอยด์ได้สำเร็จใช้คำพูดว่า ลบล้างเสร็จสิ้น (削除完了) และหลังจากปราบหุ่นเมกาซอร์ดลงได้สำเร็จใช้คำพูดว่า ชัทดาวน์เสร็จสิ้น (シャットダウン完了)

ซากุราดะ ฮิโรมุ (桜田 ヒロム)
รับบทโดย ซึซึกิ คาสึฮิโระ (鈴木勝大)
หัวหน้าทีมของโกบัสเตอร์ส เกิดวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1991 กรุ๊ปเลือด AB อายุ 20 ปี, รหัส ID = 555・913・315
ลูกชายของศาสตราจารย์โยสุเกะ เขาได้เข้าร่วมเป็นโกบัสเตอร์ส เพื่อตามหาเบาะแสการหายสาบสูญของพ่อของตน เป็นคนพูดตรงและเคร่งครัดในการปฏิบัติภารกิจ มักต่อล้อต่อเถียงกับโยโกะเป็นประจำโดยเฉพาะเรื่องแคลอรี่กับความอ้วนของโยโกะ ที่เขามักใช้เป็นหัวข้อสนทนาและกลายเป็นการทะเลาะเบาะแว้งในที่สุด
จุดอ่อนของฮิโรมุ คือ ไก่ โดยที่ยามใด ฮิโรมุเจอไก่ไม่ว่าจะเป็นสัตว์, รูปภาพหรือชื่อที่เกี่ยวข้องกับไก่ เขาจะมีอาการหวาดผวาและวิตกจริตขึ้นมาในทันทีและเมื่อช็อกถึงขีดสุด ร่างกายจะไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ในช่วงระยะเวลา 5 นาที ในส่วนสาเหตุที่เกิดอาการกลัวไก่นั้น มาจากการถูกขังในเล้าไก่ระหว่างการเล่นซ่อนหาของฮิโรมุในวัยเด็ก ซึ่งฮิโรมุได้เล่นซ่อนหาและถูกขังอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้ฮิโรมุเกิดอาการกลัวไก่ขึ้นมาตั้งแต่คราวนั้น
เรดบัสเตอร์ (レッドバスター)
ร่างแปลงของซาคุราดะ ฮิโรมุ สวมชุดปฏิบัติการสีแดง มีความสามารถพิเศษจในด้านการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง โจมตีด้วยความเร็วแบบ Hit and Run เป็นหลักซึ่งมาจากพลังที่มาจากวัคซีนโปรแกรม
เรดบัสเตอร์ พาวเวิร์ดคัสตอม (レッドバスター パワードカスタム)
ร่างเพิ่มพลังขั้นสูงที่เรดบัสเตอร์สวมข้อมูลของนิค เพิ่มพลังความเร็วขึ้นด้วยการหายตัวหรือหลบซ่อนจากความเร็ว
อิวาซากิ ริวจิ (岩崎 リュウジ)
รับบทโดย บาบะ เรียวมะ (馬場良馬)
เกิดวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 1984 กรุ๊ปเลือด O อายุ 28 ปี, รหัส ID = 222・458・804
เป็นสมาชิกที่มีอายุสูงที่สุด เปรียบเสมือนพี่ใหญ่ของกลุ่ม คอยทำหน้าที่เป็นนักวางแผนและปรามการทะเลาะวิวาทในกลุ่มโดยเฉพาะฮิโรมุและโยโกะ เขาได้เข้าร่วมเป็นโกบัสเตอร์สพร้อมกับโยโกะ เพราะในวันเกิดเหตุริวจิได้ไปเยี่ยมรุ่นพี่ซึ่งนั่นก็คือ จิน มาซาโตะ เพราะใฝ่ฝันอยากเป็นวิศกรหุ่นยนต์ และเป็นบุคคลคนเดียวที่ครอบครัวไม่ได้ติดในมิติย่อย จึงคอยเป็นผู้ปกครองและพี่เลี้ยงให้ทั้งคู่ มีนิสัยใจดีและสุขุมที่สุดในกลุ่ม ในตอนที่จินกลับมาริวจิได้รับคำแนะนำที่ดีต่อจิน แต่มักจะถูกเสียเปรียบเสมอ
แม้ว่ามีพลังในด้านพละกำลัง แต่มีจุดอ่อนคือเมื่อร่างกายของริวจิถึงขีดจำกัด เขาจะกลายเป็นคนใจร้อน มุทะลุ และไม่ฟังใคร จนทำให้เกิดอันตรายต่อรอบข้าง จึงทำให้เขาต้องใช้น้ำแข็งในการประคบร่างกาย หรือจับตัวโยนลงน้ำ หรืออยู่ในที่เย็นเพื่อไม่ให้เกิดอาการขึ้นมา เมื่อเกิดอาการโอเวอร์โหลดขึ้นมา ร่างกายของเขาจะมีเสียงคลื่นวิทยุแทรกออกมาจากร่างกายเป็นระยะ น้ำเสียงคล้ายกับโปรแกรมแต่งเสียงในคอมพิวเตอร์ นิสัยจะเปลี่ยนไปและต่อสู้โดยที่ไม่เลือกหน้าทั้งมิตรหรือศัตรู และไม่สามารถควบคุมความคิดของตนเองได้จนกว่าร่างกายจะเกิดอาการช็อคและหมดสติ
บลูบัสเตอร์ (ブルーバスター)
ร่างแปลงของอิวาซากิ ริวจิ สวมชุดปฏิบัติการสีน้ำเงิน มีความสามารถพิเศษด้านพละกำลังโดยเฉพาะพลังหมัดอันรุนแรงและแข็งแกร่ง
บลูบัสเตอร์ พาวเวิร์ดคัสตอม (ブルーバスター パワードカスタム)
ร่างเพิ่มพลังขั้นสูงที่บลูบัสเตอร์สวมข้อมูลของกอริซากิ เพิ่มพลังพละกำลังทางกายภาพสูงขึ้น สามารถแปรสภาพวัตถุที่กำลังโยนกลายเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ได้
อุซามิ โยโกะ (宇佐美 ヨーコ)
รับบทโดย โคมิยะ อาริสะ (小宮 有紗)
เกิดวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1995 กรุ๊ปเลือด O อายุ 16 ปี (17 ปี), รหัส ID = 777・117・464
เป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของทีม อยู่ชั้นมัธยมปลายปีที่ 2 แต่แทบจะไม่ได้ไปโรงเรียน เธอได้เข้าร่วมเป็นโกบัสเตอร์สพร้อมกับริวจิ เพื่อพาครอบครัวของเธอกลับมาจากมิติอีกแห่งหนึ่งเช่นเดียวกับริวจิและฮิโรมุ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งก็ตาม มีนิสัยห้าวหาญและพูดจาโผงผาง ไม่กลัวใคร ใจร้อนในบางครั้ง มักอารมณ์เสียในเรื่องที่ฮิโรมุแซวเรื่องน้ำหนักของเธอ หรือทำเหมือนกับเธอเป็นเด็ก ทำให้เธอไม่พอใจและไม่ยอมรับฮิโรมุในฐานะเพื่อนร่วมทีมและพี่ชายที่เคยปลอบใจเธอเมื่อครั้งวัยเยาว์ คนในหน่วยจึงรับเลี้ยงเธอ ซึ่งซึ่งรักทุกคนเหมือนครอบครัว
ข้อเสียของโยโกะ คือไม่ชอบการเรียน เพราะเป็นทั้งโกบัสเตอร์สในวัยเรียนไปพร้อมๆ กัน จึงไม่มีชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป ชอบวานให้คนอื่นทำการบ้านแทน ตอนสอบได้ 0 คะแนนประจำ
เอกลักษณ์หลักของโยโกะคือมักจะไว้ทรงผมเป็นผมหางม้ายาว
แม้ว่าพลังการกระโดดจะยอดเยี่ยมเนื่องจากอิทธิพลของวัคซีนโปรแกรม แต่ก็มีจุดอ่อนนั่นก็คือพลังงานที่มีจำกัด โดยเติมพลังงานให้กับร่างกายด้วยการทานของกินที่เกี่ยวกับแคลอรี่เช่น ช็อกโกแล็ต, ขนม, ไอศกรีม เป็นต้น แต่เมื่อไม่มีขนมของหวานติดตัวจะทำให้เธอหมดแรงเคลื่อนไหวไม่ได้ โดยส่วนมากมักลืมพกของกินที่เกี่ยวกับของหวานและหมดกลางทางแต่ลืมเติมส่วนสำรองอยู่บ่อยครั้งรวมทั้งรบกวนช่วงที่กิน
เยลโล่บัสเตอร์ (イエローバスター)
ร่างแปลงของอุซามิ โยโกะ สวมชุดปฏิบัติการสีเหลือง มีความสามารถทางด้านพลังเตะ และ พลังกระโดดอันยอดเยี่ยม
เยลโล่บัสเตอร์ พาวเวิร์ดคัสตอม (イエローバスター パワードカスタム)
ร่างเพิ่มพลังขั้นสูงที่เยลโล่บัสเตอร์สวมข้อมูลของอุซาดะ เพิ่มการกระโดดให้สูงขึ้นและใช้จังหวะเคลื่อนที่กลางอากาศได้
จิน มาซาโตะ (陣 マサト)
รับบทโดย มัทสึโมโตะ ฮิโรยะ (松本寛也)
ปรากฏตัวตั้งแต่ Mission 14 เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1972 อายุ 40 ปี กรุ๊ปเลือด B, รหัส ID = 198・662・125
นักวิศวกรรมศาสตร์อัจฉริยะที่หาตัวได้ยากในวงการ โดยทั้งฮิโรมุและโยโกะถูกเรียกชื่อเป็น คุณจิน (陣さん) ส่วนริวจิเรียกว่ารุ่นพี่เพราะเป็นรุ่นพี่ที่สถาบันเดียวกันกับจินและตันแบบตัวอย่างในการประดิษฐ์หุ่นยนต์ รวมทั้งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับคุโรกิ มีนิสัยโผงผางและไม่ชอบให้ใครเด่นเกินหน้าเขาโดยเฉพาะบีท J สแต็ก ทำให้จินมักหัวเสียบ่อยครั้งและบานปลายเป็นการทะเลาะในที่สุด เขาได้หายสาบสูญไปในเหตุการณ์ปี 1999 พร้อมกับบุคคลในศูนย์สถาบันวิจัยเคลื่อนย้ายมิติจากการที่วาร์กลาสบุกยึดสถาบันวิจัย ในช่วงอายุ 27 ปี ในช่วงนั้นจินอยู่ตึกที่อื่นเพียงคนเดียวโดยที่กำลังทำงานผลงานวิจัยเรื่องการวาร์ป จินคือคนเดียวที่ยังมีชีวิตรอด แต่ถูกเมตาไวรัสคุกคาม จึงรีบสร้างบีท J สแต็กและสร้างร่างอวตาร์ของตัวเอง เพื่อใช้ในการเสาะหาบุคคลและบอกพิกัดเพื่อสำรวจมิติและสำรวจสภาพแวดล้อมต่างๆ มาเป็นข้อมูลวิจัย และติดต่อกับคุโรกิ
ในส่วนของจินตัวจริงถูก J ไปซ่อนในห้องลับนอกฐานวาร์กลาสและนอนหลับจำศีลในโลงแก้วพิเศษที่ทำการติดตั้งโปรแกรมป้องกันชลอกลายเป็นข้อมูล รวมทั้งได้ขโมยพลังงานเอเนอร์ตรอนที่วาร์กลาสใช้งานเพื่อมาทำการรักษาตัวจริงแต่ทำได้เพียงยืดชีวิตและชาร์จให้ร่างอวตาร์ของตัวเองและบัสเตอร์แมชชีนให้คงสภาพรวมถึงการวาร์ปไปกลับที่มิติย่อยด้วย เพราะทรัพยากรไม่พอ ในช่วงที่ต่อสู้ทำให้ต้องหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บหรือบาดเจ็บให้น้อยสุด เพราะแม้ร่างอวตาร์อยู่ในโลกมนุษย์นานเกินไป หรือถูกกำจัดไป J ที่เป็นตัวส่งสัญญาณรีบูทกลับมาได้ แต่ก็ส่งผลทำให้ร่างจริงในโลงแก้วยิ่งกลายเป็นข้อมูลเร็วขึ้นกว่าเดิม คอยปิดพวกฮิโรมุไม่ให้รู้เรื่องทุกคนในศูนย์สถาบันวิจัยเคลื่อนย้ายมิติที่กลายเป็นข้อมูลไปแล้ว เพราะกลัวจะเสียใจและปลอบให้เข้มแข็งไปในตัวเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น
ใน Final Mission จินสละชีวิตตนเองโดยเร่งแปรสภาพร่างจริงส่วนที่เหลือในโลงแก้วให้กลายเป็นข้อมูลด้วยวิธีโอนข้อมูลเมไซอาการ์ด หมายเลข 13 จากภายในตัวของฮิโรมุมายังตนเอง ทำลายเมซไซอาการ์ดสำเร็จ ผลคือร่างจริงข้อมูลแตกสลายจนเสียชีวิต แต่ร่างอวตาร์ คงสภาพไม่นานร่วมมือกับโกบัสเตอร์สต่อสู้ในศึกสุดท้ายชนะเอ็นเตอร์ได้สำเร็จ จนทำให้เขาได้สูญสลายไปพร้อมกับมิติย่อย
บีทบัสเตอร์ (ビートバスター)
ร่างแปลงนักรบของจิน มาซาโตะ สวมชุดปฏิบัติการสีทอง มีพลังความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ทั่วไปและมีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ภาคพื้นดิน อีกทั้งยังสามารถใช้ความสามารถต่อสู้ประสานร่วมกับบัดดี้ดรอยด์สแต็กบัสเตอร์ได้อีกด้วย
บีท J สแต็ก (ビート・J・スタッグ)
ให้เสียงโดย นาคามุระ ยูอิจิ (中村悠一)
ปรากฏตั้งแต่ Mission 14 เป็นหุ่นยนต์บัดดี้รอยด์ที่สนับสนุนต่อสู้ มีชื่อเล่นว่า เจ (J) โดยชื่อเล่นของเขามาจากคำว่า จูเอคิ (樹液) ซึ่งมีความหมายถึง ยางไม้ มักเรียกแทนตนเองว่า ฉัน (俺)
หุ่นยนต์บัดดี้รอยด์ถูกสร้างขึ้นโดยจิน มาซาโตะ โดยมีความสามารถในการต่อสู้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด และซ่อนบัสเตอร์สูทเพื่อใช้ในการแปลงร่างเป็นสแต็กบัสเตอร์ มักชอบทำตัวโดดเด่นเกินหน้าจิน ทำให้จินอารมณ์เสียอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เป็นตัวฮาให้กับโกบัสเตอร์ส โดยปกติมีน้ำเสียงที่เงียบนิ่งๆ อย่างไรก็ตามเขาก็กังวลที่จินเข้าใกล้การต่อสู้ของวาร์กลาส นอกจากนี้ชอบดื่มเอเนอร์ตรอนรูปแบบกระป๋องเพื่อเติมพลังงานในตัว โดยส่วนมากจะไปขอจากศูนย์จัดการพลังงาน เพราะเอเนอร์ตรอนที่ปล้นชิงจากวาร์กลาส จินจะเก็บไปเพื่อหารักษายืดชีวิตให้จินตัวจริงอีกที
J ถูกจินสร้างตอนติดอยู่ในมิติย่อย มาโลกมนุษย์ได้ เพราะเกาะเมกาซอร์ดของวาร์กลาส ตอนที่เอ็นเตอร์เรียกมา
ความสามารถพิเศษของ J คือ มาร์คเกอร์ซีสเต็ม ในการบอกพิกัดการวาร์ปให้กับอวตาร์ของจิน รวมไปถึง บัสเตอร์แมชชีน โดยมาร์คเกอร์ซิสเต็ม จะถูกเก็บอยู่บนส่วนหัวของ J ในลักษณะไฟด้านข้าง เมื่อใช้งานจะทำการกะพริบไฟที่ส่วนหัวเพื่อเป็นสัญญาณในการบอกพิกัด นอกจากนี้ยังมีระบบต่างๆ ที่ถูกซ่อนไว้ในตัวของ J เนื่องด้วยระบบและฟังก์ชันต่างๆ ในตัวของ J มีการเชื่อมต่อรวมกันเป็นจุดเดียว ทำให้เกิดจุดอ่อนขึ้นมา เมื่อระบบของ J รวน หรือเกิดไวรัสภายในระบบ และ J ไม่อยู่หรือพลังงานหมด หรือ J บาดเจ็บสาหัสจนถึงถูกกำจัด จะทำให้ระบบต่างๆ ใช้การไม่ได้อาจจะส่งผลให้จินและ J แปลงร่างไม่ได้ โดย J หวังหาทางรักษาจินตัวจริง ในตอนอวสานหลังจากที่ร่างของจินสลายไป แม้จะห้ามแล้ว จินจะไม่ฟังเพราะคือทางเดียวที่จะช่วยชีวิตฮิโรมุกับกำจัดเอ็นเตอร์สำเร็จ J ก็เดินทางเร่ร่อนไปใช้ชีวิตที่เหลือ
สแต็กบัสเตอร์ (スタッグバスター)
ร่างแปลงนักรบของบีท J สแต็ก สวมชุดปฏิบัติการสีเงิน มีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ด้านความรวดเร็วและต่อสู้ทางอากาศเป็นหลัก

บัดดี้ดรอยด์ แก้

บัดดี้ดรอยด์ (バディロイド) คือ หุ่นยนต์คู่หูของโกบัสเตอร์ส ที่ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับโปรแกรมวัคซีน แอนตี้เมต้าไวรัส ในปี 1999 มีต้นแบบมาจากสัตว์ชนิดต่างๆ ทำหน้าที่ในการสนับสนุนการโจมตีของโกบัสเตอร์ส มีความสามารถที่หลากหลายตามลักษณะของสัตว์ที่ถูกนำมาใช้เป็นต้นแบบนั้นๆ

เมื่อเกิดเหตุการณ์เมกาซอร์ดปรากฏบัดดี้รอยด์จะทำหน้าที่เป็นห้องบังคับหุ่นและทำการเชื่อมต่อกับบัสเตอร์แมชชีน
ชิตะ นิค (チダ・ニック)
ให้เสียงโดย ฟุจิวาระ เคย์จิ (藤原 啓治)
คู่หูของเรดบัสเตอร์ มีข้อมูลโปรแกรม OS ซีตาห์ มีมนุษยสัมพันธ์ดี มองโลกในแง่ดี ทำหน้าที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่เลี้ยงให้กับฮิโรมุตั้งแต่ฮิโรมุอายุ 7 ขวบ แต่ข้อเสียคือหาทิศทางได้แย่ คอยห้ามปราบฮิโรมุเสมอ
สิ่งที่นิคกังวลและวิตกจริตนอกเหนือจากเรื่องของฮิโรมุ คือ การยอมรับของริกะ เนื่องจากนิคเป็นบุคคลภายนอกของครอบครัวซากุราดะ ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจากริกะ แต่เมื่อนิคได้บอกเหตุผลและแสดงจุดยืนของเขาที่มีต่อครอบครัว ทำให้นิคได้รับการยอมรับจากริกะให้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แม้ว่าริกะจะมองว่าเขาอยู่ในฐานะแค่สัตว์เลี้ยงของครอบครัวก็ตาม
ชิตะ นิค สมามารถแปลงร่างเป็นร่างพาหนะชื่อว่า ไบค์โหมด ในโหมดนี้เมื่อต้องการประหยัดพลังงาน เมื่อต้องการเติมพลังงานจะใช้พลังงานเอเนอร์ทรอนรูปแบบน้ำมันเครื่องโดยสามารถเติมได้ในปั๊มแก๊สที่มีแก๊สเอเนอร์ทรอนเท่านั้น
ชื่อ ชิตะ นิค มาจากคำว่า เสือชีตาห์ และ เนื้อสัตว์ (นิคุ)
กอริซากิ บานาน่า (ゴリサキ・バナナ)
ให้เสียงโดย เก็นดะ เท็ตโซ (玄田 哲章)
คู่หูของบลูบัสเตอร์ มีข้อมูลโปรแกรม OS กอลิลล่า มีชื่อเล่นว่า กอริซากิ จินมักเรียกว่า บาบาน่าจัง (バナナちゃん) มีระบบแบ็คอัพข้อมูลสำรองภายในตัว
มีนิสัยขี้อาย ขี้ตกใจง่าย หวาดวิตกและอ่อนไหวง่าย อ่อนโยนจนเหมือนกับอ่อนแอ เมื่อแสดงอาการตกใจ ใบหน้าของบานาน่าจากส่วนพวงมาลัยรถยนต์จะทำการหมุนใบหน้าตนเองโดยอัตโนมัติ
ชื่อ กอริซากิ บานาน่า มาจากคำว่า กอริลล่า และ กล้วย
อุซาดะ เลตัส (ウサダ・レタス)
ให้เสียงโดย ซูซุกิ ทัตสึฮิซะ (鈴木 達央)
คู่หูของเยลโล่บัสเตอร์ มีข้อมูลโปรแกรม OS แรบบิท มีความสามารถพิเศษในด้านการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์สร้างแผนการต่างๆ มีประโยครับคำสั่งคือ "โรเจอร์แร็บบิท!" (ラジャーラビット!)
มีนิสัยพูดมาก เข้มงวดกับโยโกะและมักอธิบายลักษณะนิสัยของคนอื่น เพราะโยโกะเป็นเด็กถูกฝึกมาเป็นโกบัสเตอร์สตั้งแต่แรกซึ่งแตกต่างกับกับฮิโรมุ อุซาดะจึงต้องเป็นทั้งคู่หูกับพี่เลี้ยง มักทะเลาะกับโยโกะบ่อยแต่ถึงกระนั้นอุซาดะยังคงเชื่อมั่นในกันและกันเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังกังวลโยโกะเกี่ยวกับการเรียน โดยมักจะสอนหนังสือให้ เนื่องจากโยโกะไม่ค่อยได้ไปโรงเรียนจากปฏิบัติการภารกิจรวมทั้งแจ้งเตือนนำขนมเพื่อเติมพลังงานให้อีกด้วย โดยถูกฮิโรมุเรียกว่าเป็นซิสคอน
โดยปกติอุซาดะมักจะอยู่ในห้องบัญชาการของศูนย์จัดการพลังงาน และรูปลักษณะมีลักษณะเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็กติดล้อใต้เท้า สามารถบินกลางอากาศได้ด้วยการกระโดด อย่างไรก็ตาม อุซาดะไม่มีพลังในการต่อสู้แบบนิคและกอริซากิ จึงมักจะตกเป็นเป้าหมายของบั๊กเลอร์และคนอื่นๆ ได้ง่าย
ชื่อ อุซาดะ เลตัส มาจากคำว่า กระต่าย และผักกาดหอม
บีท J สแต็ก (ビート・J・スタッグ)
เอเนตัน (エネたん)
ปรากฏตัวในภาพยนตร์และ Mission 44 เป็นบัดดี้รอยประเภทกบ รายละเอียดดูเพิ่มเติมที่ ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส THE MOVIE ปฏิบัติการปกป้องโตเกียวเอเนอร์ทาวเวอร์!

ศูนย์จัดการพลังงาน แผนกภารกิจพิเศษ แก้

คุโรกิ ทาเคชิ (黒木 タケシ)
รับบทโดย ซาซากิ ฮิเดโอะ (榊 英雄)
ผู้บัญชาการสูงสุดของศูนย์จัดการพลังงานแผนกภารกิจพิเศษ โดยปกติเป็นคนเคร่งขรึมและมักแสดงสีหน้าที่เคร่งเครียดเสียทุกครั้ง มีชื่อเล่นคือ คุโระริน (黒リン) ซึ่งเป็นชื่อเล่นที่มาซาโตะเรียกคุโรกิในฐานะเพื่อนสนิท
โมริชิตะ โทโอรุ (森下 トオル)
รับบทโดย ทาคาฮาชิ นาโอโตะ (高橋 ナオト)
เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของหน่วย ทำหน้าที่ในการสืบค้นข้อมูลให้กับโกบัสเตอร์ส
นาคามุระ มิโฮะ (仲村 ミホ)
รับบทโดย นิชิฮิระ ฟูกะ (西平 風香)
เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของหน่วย เป็นสมาชิกใหม่ที่เพิ่งเข้ามา มีอัธยาศัยดีกับทุกๆคน
โมโตมุระ คาซึยะ (本村 カズヤ)

ผู้เกี่ยวข้องกับโกบัสเตอร์ส แก้

ซากุราดะ ริกะ (桜田 リカ)
รับบทโดย โยชิกิ ริสะ (吉木 りさ)
พี่สาวของฮิโรมุ อายุ 27 ปี ทำงานอาชีพนักวาดรูปประกอบอิสระ มีนิสัยที่อ่อนโยนตรงข้ามกับฮิโรมุที่เข้มแข็ง รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อสุขภาพของริกะดีขึ้น เธอได้ออกจากโรงพยาบาล เพื่อกลับไปประกอบอาชีพเป็นจิตรกรเช่นเดิม
ในช่วงสมัยเด็กเธอไม่ถูกกับเครื่องจักรและหวาดกลัวเมกาซอร์ดจึงไม่เคยไปที่ศูนย์วิจัย หลังวันเกิดเหตุศูนย์วิจัยหายสาปสูญ เธอพยายามคัดค้านไม่ให้ฮิโรมุไปเสี่ยงอันตรายแบบเดียวกับพ่อแม่ ที่เคยประสบมาก่อน นับตั้งแต่ที่พ่อได้หายสาบสูญไปเมื่อ 13 ปีที่แล้ว แต่เมื่อฮิโรมุแสดงความตั้งใจที่จะสืบสานและตามหาพ่อที่สาบสูญไป เธอไม่คัดค้านและสนับสนุนให้ฮิโรมุเป็นโกบัสเตอร์ส และมักเป็นไม้เบื่อไม้เมากับนิคในบางครั้งเนื่องจากยังมีความแคลงใจในตัวนิคบางส่วน แต่เมื่อริกะเข้าใจในเหตุผลและการกระทำของนิคที่ยอมเป็นทั้งเพื่อนและทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับฮิโรมุ ทำให้เธอยอมรับนิคเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
ซากุราดะ โยสุเกะ (桜田 ヨウスケ) และ ซากุราดะ มิจิโกะ (桜田 ミチコ)
รับบทโดย ยามานากะ โช (山中 聡), ฮาโซโกคิ มิจิโกะ (細越みちこ)
พ่อแม่ของฮิโรมุและริกะ ทำงานในศูนย์วิจัยเคลื่อนย้ายมิติ โดยโยสุเกะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทุ่มเทให้กับโครงการหยุดยั้งการแพร่ไวรัสที่มีผลต่อคอมพิวเตอร์และมวลมนุษยชาติ จนสามารถสร้างโปรแกรมแอนตี้เมตาไวรัสได้เป็นผลสำเร็จ ส่วนมิจิโกะเป็นเจ้าหน้าที่ในศูนย์วิจัยเคลื่อนย้ายมิติ กระทั่งวาร์กราสเริ่มโจมตีเอเนอร์ทรอนและศูนย์วิจัย เขาได้ตัดสินใจฉีดวัคซีนเข้ากับบุคคลกลุ่มแรกพร้อมกับทำการเคลื่อนย้ายศูนย์วิจัยไปยังมิติแห่งหนึ่ง เป็นเหตุให้หายสาบสูญในเหตุการณ์เมื่อปี ค.ศ. 1999 และกลายเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งของเมสไซอา
อุซามิ เคย์ (宇佐美 ケイ)
รับบทโดย โอโนะ นัตสึฮิ (上野なつひ)
แม่ของโยโกะ นักวิทยาศาสตร์ในศูนย์วิจัย ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเมกาซอร์ด เป็นผู้ที่ถูกวาร์กราสดูดไปยังมิติและกลายเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งของเมไซอา
โมจิสึคิ ซาบุโร่ (葉月サブロー)
รับบทโดย มิซึกิ อิจิโร่ (水木一郎)
ปรากฏใน Mission 35 นักวิทยาศาสตร์ผู้ประดิษฐ์ LT-06 ทาเทกามิไลโอ เป็นอาจารย์ของมาซาโตะ โดยมาซาโตะนับถือซาบุโร่เสมือนพ่อ
โมจิสึคิ มิกะ (葉月ミカ)
รับบทโดย โอโฮะ ซาโยโกะ (於保佐代子)
ปรากฏใน Mission 35 ลูกสาวของซาบุโร่ เป็นผู้สืบทอดงานประดิษฐ์ทาเทกามิไลโอที่ซาบุโร่ผู้เป็นพ่อไม่สามารถทำสำเร็จ เมื่อมิกะทำสำเร็จเธอกลับไปใช้โจมตีโกบัสเตอร์สทำให้เกิดเข้าใจผิดเรื่องวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้เป็นพ่อในการสร้างทาเทกามิไลโอขึ้นมา
ซาโอโตเมะ เรย์กะ (早乙女レイカ) / จอมโจรพิงค์บัสเตอร์ (怪盗ピンクバスター)
รับบทโดย ชินคาวะ ยูอะ (新川優愛)
จอมโจรสาวที่มีเบื้องหลังเป็นลูกสาวเศรษฐีตระกูลหนึ่ง มีความสามารถในการขโมยและการต่อสู้ที่สูงกว่าโกบัสเตอร์ส ภายหลังจากที่เรย์กะ ได้ร่วมต่อสู้กับฮิโรมุ ทำให้เธอหลงรักฮิโรมุอันเนื่องจากการต่อสู้และการปกป้องชีวิต
จูมนจิ เกคิ (十文字 撃) / ตำรวจอวกาศ เกียบัน Type-G (宇宙刑事ギャバンtypeG) และ เชอร์รี่ (シェリー)
ปรากฏใน Mission 31 และ 32 นายตำรวจอวกาศจากดาวเบิร์ดปรากฏตัวในโลกมนุษย์เพื่อตามหาเชอรี่ที่หลบหนีการตามล่าของไรโนดับเลอร์ จนทำให้พลัดหลงมายังโลก และสืบเรื่องเกี่ยวกับจักรวรรดิมาคูรุ่นใหม่ โดยร่วมมือกับโกบัสเตอร์สในการตามหาไรโนดับเลอร์
ส่วนเชอร์รี่ เป็นคู่หูของเกคิ คอยทำหน้าที่ช่วยเหลือและสนับสนุนให้กับเกียบัน ในระหว่างการสืบเรื่องจักรวรรดิมาคูรุ่นใหม่นั้น ได้พลาดท่าถูกไรโนดับเบิลเลอร์ล่วงรู้แผนการจนทำให้เธอต้องหลบหนีการตามล่าจนกระทั่งเดินทางมายังโลก และได้ถูกโกบัสเตอร์สช่วยชีวิตเอาไว้

พลังและความสามารถของโกบัสเตอร์ส แก้

อุปกรณ์ทั่วไป แก้

บัสเตอร์สูท (バスタースーツ)
ชุดปฏิบัติการพิเศษของเหล่าโกบัสเตอร์ส ซึ่งจะมีสีสันที่แตกต่างกันไปตามผู้ใช้แต่ละคน
ทรานส์พอต (トランスポッド)
อุปกรณ์อเนกประสงค์ของโกบัสเตอร์ส สามารถเรียกใช้บัสเตอร์เกียร์ทุกชิ้นได้จากระยะไกล โดยจะเทเลพอร์ตอุปกรณ์ต่าง ๆ มาจากฐานทัพไปหาผู้ใช้งาน

อาวุธอุปกรณ์ของสมาชิกหลัก แก้

มอร์ฟินเบรส (モーフィンブレス)
อุปกรณ์แปลงร่างของโกบัสเตอร์สทั้ง 3 รูปทรงกำไลข้อมือ เมื่อทำการแปลงร่าง จะทำการกดหน้าปัดแล้วใช้รหัสคำพูดว่า It's morphin time! ตัวแว่นมอร์ฟินกลาสจะทำการเปิดออกมาจากตัวเครื่องเพื่อเรียกโอนไปยังบัสเตอร์สูท จากนั้นกดปุ่มอีกที่พร้อมพูดคำว่า Let's Morphin! จะทำการสวมใส่หมวกและแปลงร่างเสร็จสมบรูณ์ ทั้งนี้ระบบรูปแบบสามารถสื่อสารแบบไร้สาย, วิเคราะห์จากกล้องวงจรปิดขนาดเล็ก, เรียกบัสเตอร์แมชชีน, กำหนดเวลาที่เมกาซอร์ดปล่อยออกมา และเมื่อสื่อสารจะทำการใช้คอลโหมด
อิจิกันบัสเตอร์ (イチガンバスター)
ปืนประจำตัวของโกบัสเตอร์ส ปกติจะอยู่ในรูปแบบกล้องถ่ายรูปดิจิตัล สามารถเปลี่ยนได้ 2 รูปแบบ คือ บัสเตอร์โหมด อาวุธรูปแบบปืน มีพลังในการโจมตีสูง และลำแสงที่ยิงออกจากปืนจะมีลักษณะคล้ายกับแสงแฟลชของกล้องถ่ายรูป และ คาเมราโหมด รูปแบบกล้องถ่ายภาพ มีความละเอียดในการถ่ายภาพสูง สามารถสแกนพลังงานเอเนอร์ทรอนได้อย่างแม่นยำ
อิจิกันบัสเตอร์ สเปเชียลบัสเตอร์โหมด (イチガンバスタースペシャルバスターモード)
อิจิกันบัสเตอร์ที่รวมอาวุธกับโซลกันเบลด ทำให้มีประสิทธิภาพในการยิงและการเล็งเป้าเพิ่มสูงขึ้น สามารถใช้ท่าไม้ตาย โอเวอร์ไรด์ชูต ได้
โซลกันเบลด (ソウガンブレード)
ดาบประจำตัวของโกบัสเตอร์ส ปกติจะอยู่ในโหมดกล้องสองตา สามารถเปลี่ยนได้ 2 รูปแบบ ประกอบไปด้วย เบลดโหมด รูปแบบมีดสั้น มีความแหลมคมสูงจนสามารถปักบินพื้นคอนกรีตได้ และ โซลกันโหมด รูปแบบกล้องสองตา เมื่อเปิดโหมดค้นหา (เชิร์จโหมด) จะสามารถทำการค้นหาเป้าหมายหรือสแกนพลังงานเอเนอร์ทรอนได้อย่างแม่นยำเช่นเดียวกับอิจิกันบัสเตอร์ และสามารถใช้ท่าไม้ตายพิเศษได้เช่นกัน

โกบัสเตอร์ส พาวเวิร์ดคัสตอม แก้

GB คัสตอมไวเซอร์ (GBカスタムバイザー)
บัสเตอร์เกียร์เชื่อมต่อกับมอร์ฟินเบรส ใช้ในการเพิ่มพลังให้กับโกบัสเตอร์ กลายเป็น โกบัสเตอร์ส พาวเวิร์ดคัสตอม เมื่อทำการติดตั้งเรียบร้อยจะทำการแปรสภาพบัดดี้รอยด์ให้กลายเป็นข้อมูลและสร้างชุดเกราะขึ้นมา
ไลโอบลาสเตอร์ (ライオブラスター)
บัสเตอร์เกียร์อเนกประสงค์ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ LT-06 ทาเทกามิไลโอ ถูกสร้างพร้อมกับทาเทกามิไลโอ โดยที่ โมจิสึคิ ซาบุโร่ ได้ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ทดสอบความสามารถของผู้ที่ควบคุมทาเทงามิไลโอ นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องโฮโลแกรมฝากข้อความไปยังมิกะ เพื่อให้รู้เจตนารมณ์ที่แท้จริงของการสร้างทาเทกามิไลโอขึ้นมา ไลโอบลาสเตอร์สามารถเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบด้วยกันคือ ไลโอแอชแทชโหมด รูปแบบกระเป๋าเอกสาร รูปแบบหลักของไลโอบลาสเตอร์ ภายในบรรจุข้อมูลของทาเทกามิไลโอรวมไปถึงข้อมูลสั่งการ เมื่อทำการติดตั้งเข้ากับเครื่องบังคับหุ่นจะทำให้ทาเทกามิไลโอสามารถเคลื่อนไหวได้อิสระดั่งสัตว์ป่า
เมื่ออยู่ในรูปแบบปกติและไม่ได้ทำการติดตั้งกับอุปกรณ์ใดๆ จะสามารถค้นหาสัญญาณและจุดพิกัดของเมต้าซอร์ดได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ, ค็อกพิทโหมด รูปแบบพวงมาลัย ใช้ในการควบคุมทาเทกามิไลโอ เมื่อทาเทกามิไลโอยอมรับผู้เป็นนายของตนเองเป็นผลสำเร็จ, บลาสเตอร์โหมด รูปแบบปืน
ไลโอบลาสเตอร์ ไฟนอลบัสเตอร์โหมด (ライオブラスターファイナルバスターモード)
ไลโอบลาสเตอร์ที่ประกอบอาวุธกับโซลกันเบลด ทำให้กลายเป็นสุดยอดอาวุธ

อาวุธอุปกรณ์ของนักรบเสริม แก้

มอร์ฟินบลาสเตอร์ (モーフィンブラスター)
อุปกรณ์แปลงร่างของบีทบัสเตอร์และสแต็กบัสเตอร์ สามารถเปลี่ยนได้ถึง 2 โหมดด้วยกันคือ โหมดโทรศัพท์มือถือ รูปแบบปกติ และ บลาสเตอร์โหมด รูปแบบปืนพกสั้น เมื่อทำการเผด็จศึกจะปรากฏเสียง "Boost up for Buster" จึงสามารถใช้ท่าไม้ตาย กลิตเตอร์แอคซัลท์ (บีทบัสเตอร์) หรือ กริมแอคซัลท์ (สแต็กบัสเตอร์) ได้
ไดรฟ์เบลด (ドライブレード)
ดาบประจำตัวของบีทบัสเตอร์ และ สแต๊กบัสเตอร์ สามารถเปลี่ยนได้ 2 รูปแบบ คือ เบลดโหมด อาวุธรูปแบบดาบ และ แฮนเดิลโหมด รูปแบบพวงมาลัย ใช้ในการควบคุมบัสเตอร์แมชชีน

ท่าไม้ตายประสาน แก้

โวลคานิคบีทสแลช (ボルカニックビートスラッシュ)
โวลคานิคออลสตาร์แอคแทค (ボルカニックオールバスターズアタック)

บัสเตอร์แมชชีน แก้

บัสเตอร์แมชชีน (バスターマシン) คือ พาหนะขนาดยักษ์ของโกบัสเตอร์ส เมื่อทำการรวมร่างบัดดี้ดรอยด์ จะทำเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย เช่น บัสเตอร์วีฮิเคิล รูปแบบยานพาหนะ และ บัสเตอร์แอนิมอล รูปแบบหุ่นยนต์สัตว์ (เมื่อทำการเปลี่ยนโหมดจะกดรหัส GB3 ที่คีย์บอร์ดระบบสัมผัส)

เมื่อได้รับการแจ้งเตือนถึงการเดินทางของเมกาซอร์ดของวาร์กราส บัสเตอร์แมชชีนจะถูกส่งออกจากโรงงานในฐานทัพลับ บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ H-07 (โรงซ่อมบำรุงและโรงวิเคราะห์หุ่นยนต์เดิม ด้านบนคือบริเวณพื้นที่ป่าไม้และรอบนอกของตัวเมือง) ในส่วนของชั้นใต้ดินลึกและปล่อยตัวโดยใช้สถานที่ต่างๆในตัวเมือง เช่น ตึกคอนโด หรือ อุโมงค์รถ เพื่อเป็นฐานยิงในการส่งแมชชีนออกไปสกัดกั้นการโจมตีของวาร์กราส

ส่วน BC-04 และ SJ-05 จะถูกส่งออกมาจากส่วนหนึ่งของสถานบันเคลื่อนย้ายมิติ ที่ติดอยู่ในมิติย่อย โดยสแต็กบัสเตอร์ทำการเรียกบัสเตอร์แมชชีน พร้อมกับบอกพิกัดไปยังศูนย์วิจัยและส่งผ่านประตูมิติที่ถูกสร้างขึ้นจากเศษซากของศูนย์วิจัย

CB-01 ชีต้าห์ (CB-01チーター)
บัสเตอร์แมชชีนของเรดบัสเตอร์ ตัวยานสีแดง
บัสเตอร์วีฮิเคิล CB-01 ชีต้าห์ (バスタービークルCB-01チーター)
ยานยนต์รูปแบบรถสปอร์ต มีอาวุธเป็นปืนเลเซอร์ที่ด้านข้างรถทั้ง 2 ข้าง
บัสเตอร์แอนิมอล CB-01 ชีต้าห์ (バスターアニマルCB-01チーター)
หุ่นสัตว์รูปร่างเสือชีต้าห์
GT-02 กอริลล่า (GT-02ゴリラ)
บัสเตอร์แมชชีนของบลูบัสเตอร์ ตัวยานสีน้ำเงิน
บัสเตอร์วีฮิเคิล GT-02 กอริลล่า (バスタービークルGT-02ゴリラ)
ยานยนต์รูปแบบรถบรรทุก สามารถบรรทุก RH-03 แร็บบิท ได้
บัสเตอร์แอนิมอล GT-02 กอริลล่า (バスターアニマルGT-02ゴリラ)
หุ่นสัตว์รูปร่างกอริลล่า ทำหน้าที่ในการสนับสนุนการโจมตีทางภาคพื้นดิน มีอาวุธคือ บานาน่า มิซไซล์ ซึ่งเป็นมิซไซล์รูปกล้วย เมื่อทำการปอกเปลือกออกจะปรากฏมิซไซล์ทรงจรวด มีพลังในการทำลายระดับกลาง ส่วนปลอกเปลือกมิซไซล์ใช้ในการสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของเมกาซอร์ดทำให้หกล้มได้ โดยปกติจะเกือบอยู่ในหัวไหล่ทั้ง 2 ข้างและสามารถยิงได้ 8 นัดต่อครั้ง และสามารถปล่อยแสงเลเซอร์บนหลังคาส่วนรถพ่วง กับ สปอตไลท์จากล้อแมกซ์ของรถหัวลาก
RH-03 แร็บบิท (RH-03ラビット)
บัสเตอร์แมชชีนของเยลโล่บัสเตอร์ ตัวยานสีเหลือง
บัสเตอร์วีฮิเคิล RH-03 แร็บบิท (バスタービークルRH-03ラビット)
ยานยนต์รูปแบบเฮลิคอปเตอร์ ทำหน้าที่ในการสนับสนุนการโจมตีทางอากาศ
บัสเตอร์แอนิมอล RH-03 แร็บบิท (バスターアニマルRH-03ラビット)
หุ่นสัตว์รูปร่างกระต่าย สามารถโจมตีด้วยการกระโดดเตะและขุดดินโดยการใช้ใบพัด
BC-04 บีเทิล (BC-04ビートル)
บัสเตอร์แมชชีนของบีทบัสเตอร์ ตัวเครื่องสีทองและสีดำ เป็นยานที่สามารถแปลงโหมดเมกาซอร์ดได้เช่นเดียวกันกับ CB-01 ชีต้าห์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1999 พร้อมกับบัสเตอร์แมชชีนลำอื่นๆ และได้หายสาบสูญในเหตุการณ์ปีเดียวกัน โดย BC-04 บีเทิล และ SF-05 สแต๊กบีเทิล ได้หายไปพร้อมกับส่วนหนึ่งของศูนย์วิจัย ชื่อ BC ย่อมาจาก บีเทิล และ เครน
บัสเตอร์วีเคิล BC-04 บีเทิล (バスタービークルBC-04ビートル)
ยานยนต์รูปแบบรถเครน
บัสเตอร์แอนิมอล BC-04 บีเทิล (バスターアニマルBC-04ビートル)
หุ่นสัตว์รูปร่างด้วงกว่างญี่ปุ่น สามารถโจมตีด้วยการบินและเกาะศัตรูพร้อมกับดูดพลังงานเอเนอร์ทรอนจากศัตรูคล้ายกับการดูดน้ำเลี้ยงจากต้นไม้ เมื่อดูดพลังงานเสร็จจะใช้เขาทำการโยนศัตรูขึ้นฟ้าด้วยพลังมหาศาล หน้าที่หลักในโหมดแอนิมอลคือ การดูดพลังเอเนอร์ทรอนเพื่อใช้ในการบำรุงศูนย์วิจัยที่อยู่ต่างมิติ
SJ-05 สแต็กบีเทิล (SJ-05スタッグビートル)
บัสเตอร์แมชชีนของสแต็กบัสเตอร์ ตัวเครื่องสีเงินและสีดำ ชื่อ SJ ย่อมาจาก สแต็กบีเทิล และ เจ็ท
บัสเตอร์วีฮิเคิล SJ-05 สแต็กบีเทิล (バスタービークルSJ-05スタッグビートル)
ยานยนต์รูปแบบเครื่องบินรบ ทำหน้าที่ในการสนับสนุนการโจมตีร่วมกับ BC-04 บีเทิล
บัสเตอร์แอนิมอล SJ-05 สแต็กบีเทิล (バスターアニマルSJ-05スタッグビートル)
หุ่นสัตว์รูปร่างด้วงเขากวาง สามารถโจมตีด้วยการบินและเกาะศัตรูพร้อมกับดูดพลังงานเอเนอร์ทรอนจากศัตรูคล้ายกับการดูดน้ำเลี้ยงจากต้นไม้ เมื่อดูดพลังงานเสร็จจะทำการบีบรัดศัตรูด้วยเขาทั้ง 2 ข้างด้วยพลังมหาศาล
LT-06 ทาเทกามิไลโอ (LT-06タテガミライオー)
บัสเตอร์แมชชีนรูปแบบบัดดี้ซอร์ด สามารถควบคุมด้วย ไลโอบลาสเตอร์ หรือ โกบัสเตอร์เอช นั่งบังเหียนบนหลัง LT-06 ทาเทกามิไลโอ สามารถเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีได้อย่างอิสระหรือได้รับคำสั่งจากเจ้าของเท่านั้น ถูกสร้างขึ้นโดย โมจิสึคิ ซาบุโร่ ซึ่งใช้เวลาตลอดชีวิตของเขาในการทุ่มเทและสร้างผลงานขึ้นมาแต่กลับเสียชีวิตระหว่างการสร้าง ทำให้มิกะ ผู้เป็นบุตรสาวได้สานงานต่อจนเป็นผลสำเร็จ มีจิตใจเสมือนสัตว์ป่า จะยอมรับและเชื่อฟังเมื่อบุคคลคนนั้นสามารถสื่อใจกับทาเทกามิไลโอ
บัดดี้วิฮิเคิล LT-06 ทาเทกามิไลโอ (バディビークルLT-06タテガミライオー)
ยานยนต์รูปแบบเป็นมอเตอร์ไซต์ 3 ล้อ สามารถควบคุมด้วย ไลโอบลาสเตอร์ หรือ โกบัสเตอร์เอช นั่งบังเหียนบนหลัง
บัดดี้แอนิมอล LT-06 ทาเทกามิไลโอ (バディアニマルLT-06タテガミライオー)
มีลักษณะคล้ายกับสิงโต สามารถควบคุมได้เช่นเดียวกับร่างแมชชีน
FS-0O ฟร็อก (FS-0Oフロッグ)
ข้อมูลจำเพาะ[a]
บัสเตอร์วิเคิล / บัดดี้วิเคิล
ชื่อ ความสูง ความกว้าง ความยาว น้ำหนัก ความเร็ว แรงกำลัง
CB-01 ชีต้าร์ 45 เมตร 12.8 เมตร 19.2 เมตร 1300 ตัน 350 กม. / ชม. 5 ล้านแรงม้า
CB-01 ชีต้า (ไม่เชื่อมต่อกับนิค) 38.7 เมตร 1282 ตัน 330 กม. / ชม. 4.93 ล้านแรงม้า
GT-02 กอริลล่า 40 เมตร 18.7 เมตร 16 เมตร 1600 ตัน 280 กม. / ชม. 6 ล้านแรงม้า
GT-02 กอริลล่า (ไม่เชื่อมต่อกับกอริซากิ) 36.3 เมตร 1582 ตัน 250 กม. / ชม. 5.93 ล้านแรงม้า
RH-03 แรบบิท 29 เมตร 17.4 เมตร 22.8 เมตร 800 ตัน 350 กม. / ชม. 3 ล้านแรงม้า
RH-03 แรบบิท (ไม่เชื่อมต่อกับอุซาดะ) 27 เมตร 782 ตัน 350 กม. / ชม. 2.93 ล้านแรงม้า
BC-04 บีเทิล 57.7 เมตร 18.7 เมตร 19 เมตร 1600 ตัน 250 กม. / ชม. 6 ล้านแรงม้า
SJ-05 สแต็กบีเทิล 37 เมตร 7 เมตร 29.7 เมตร 800 ตัน 1 แรงมัค 3 ล้านแรงม้า
LT-06 ทาเทกามิไลโอ 75.3 เมตร 30 เมตร 31 เมตร 2400 ตัน 500 กม. / ชม. 9 ล้านแรงม้า
FS-0O ฟร็อก 27.6 เมตร 29 เมตร 28.7 เมตร 800 ตัน
บัสเตอร์แอนิมอล / บัดดี้แอนิมอล
ชื่อ น้ำหนัก ความกว้าง ความยาว น้ำหนัก ความเร็ว แรงกำลัง
CB-01 ชีต้าห์ 61.3 เมตร 23.3 เมตร 17.4 เมตร 1300 ตัน 300 กม. / ชม. 5 ล้านแรงม้า
GT-02 กอริลล่า 27.1 เมตร 25 เมตร 32 เมตร 1600 ตัน 250 กม. / ชม. 6 ล้านแรงม้า
RH-03 แรบบิท 28.7 เมตร 21.1 เมตร 17.3 เมตร 800 ตัน 300 กม. / ชม. 3 ล้านแรงม้า
BC-04 บีทเทิล 63.4 เมตร 24.2 เมตร 26.6 เมตร 1600 ตัน 950 กม. / ชม. 6 ล้านแรงม้า
SJ-05 สแต็กบีเทิล 41.8 เมตร 21 เมตร 25.5 เมตร 800 ตัน 900 กม. / ชม. 3 ล้านแรงม้า
LT-06 ทาเทกามิไลโอ 86.7 เมตร 39 เมตร 31 เมตร 2400 ตัน 450 กม. / ชม. 9 ล้านแรงม้า
FS-0O ฟร็อก 23.5 เมตร 29 เมตร 25.7 เมตร 800 ตัน

เมกาซอร์ด / บัดดี้ซอร์ด แก้

โกบัสเตอร์เอซ (ゴーバスターエース)
หุ่นยนต์รูปแบบเมกาซอร์ดที่เกิดจากการเปลี่ยนร่างของ CB-01 ชีต้าห์ โดยทำการกดรหัส "GB4" ที่คีย์บอร์ดระบบสัมผัส ทำหน้าที่หลักในการโจมตีเมกาซอร์ดของฝั่งวาร์กลาส และเผด็จศึกโดยการ ชัทดาวน์ (ปิดระบบ) มีอาวุธประจำตัวคือ เอชเบลด เป็นดาบที่แปลงมาจากสปอยเลอร์ และ มิซไซล์จากส่วนหัวไหล่
ท่าไม้ตายคือ เดมมาลิชเชินแคลช ท่าที่โกบัสเตอร์เอชใช้เอชเบลดทำการเชื่อมต่อเข้ากับพลังงานเอเนอร์ทรอนจะทำการวิ่งเข้าหาศัตรูพร้อมกับทำการฟันสะพายแล่งใส่ศัตรูอย่างรุนแรง ทำให้ศัตรูถูกทำลายลงในที่สุด และ ฟลายอิ้งลาเลียต เป็นท่าลาเลียตโดยโกบัสเตอร์คิง ทำการโยนโกบัสเตอร์เอช ขึ้นฟ้าจากนั้นใช้ท่าลาเลียตพุ่งเข้าหาศัตรู
โกบัสเตอร์เอช สแต็กคัสต้อม (ゴーバスターエース スタッグカスタム)
ปรากฏใน Mission 26 เกิดจากการรวมร่างของ โกบัสเตอร์เอช และ SJ-05 สแต็กบีเทิล โดย SJ-05 ทำหน้าที่เป็นแขนซ้าย แบ็คแพ็ค และ อาวุธ ให้กับโกบัสเตอร์เอช ถูกใช้ขึ้นมาเพื่อทดแทนที่ถูกเคชิโกมุซอร์ดลบความสามารถการรวมร่างของโกบัสเตอร์โอ
ท่าไม้ตายคือ เอชสแต็กแคลช
โกบัสเตอร์บีท (ゴーバスタービート)
หุ่นเมกาซอร์ดที่เกิดจากการเปลี่ยนร่างของ BC-04 บีเทิล มีความสามารถในการโจมตีระยะไกลด้วยเครน มีอาวุธประจำตัวคือ บีทแคนนอน และ บีทซอร์ด
ท่าไม้ตายคือ บีเทิลแคททาพัลท์แอคแทค ใช้เครนในการจับในระยะไกล โดยบีทบัสเตอร์สั่งการณ์ให้ SJ-05 ร่อนลงมายังที่เครนเพื่อใช้เป็นรันเวย์พิเศษ เมื่อ SJ-05 ร่อนลงรันเวย์พร้อมกับเร่งความเร็วสูงสุดจะพุ่งชนศัตรู ทำให้ศัตรูถูกทำลายลงในที่สุด, บีทแคนนอนเบิสท์, บีททูซอร์ดครอส
ทาเทกามิไลโอ (タテガミライオー)
LT-06 ทาเทกามิไลโอ ที่แปลงร่างจากบัดดี้ซอร์ด มีอาวุธประจำตัวคือ ไลอ้อนเซอร์กัน หอก 2 ปลาย และ ทาเทกามิชิลด์ โล่รูปหัวสิงโตกำลังคำรามที่เกิดจากล้อหน้ารวมเข้ากับหัวสิงโต สามารถปล่อยลำแสงจากล้อได้ ท่าไม้ตายคือ ไลอ้อนอิมแพ็กต์ ท่าที่ทำการเชื่อมต่อเอเนอร์ทรอนเข้ากับไลอ้อนเซอร์กันจนเกิดพลังงานห่อหุ้มหอกทั้ง 2 ปลาย จากนั้นทำการฟันเป็นรูปกากบาทใส่ศัตรู ทำให้ศัตรูถูกทำลายลงในที่สุด
ข้อมูลจำเพาะ
ชื่อ ความสูง ความกว้าง ความยาว น้ำหนัก ความเร็ว แรงกำลัง
โกบัสเตอร์เอซ 38 เมตร[3][4][5] 30 เมตร[3][4][5] 14 เมตร[3][4][5] 1300 ตัน[3][4][5] 330 กม. / ชม.[3][4][5] 5 ล้านแรงม้า[3][4][5]
โกบัสเตอร์เอช สแต็กคัสต้อม 2100 ตัน[3][4][5] 340 กม. / ชม.[3][4][5] 8 ล้านแรงม้า[3][4][5]
โกบัสเตอร์บีท 41.3 เมตร[3][6][7] 23 เมตร[3][6][7] 10.4 เมตร[3][6][7] 1600 ตัน[3][6][7] 280 กม. / ชม.[3][6][7] 6 ล้านแรงม้า[3][6][7]
ทาเทกามิไลโอ 53 เมตร[3][8][9] 20.4 เมตร[3][8][9] 23.7 เมตร[3][8][9] 2400 ตัน[3][8][9] 350 กม. / ชม.[3][8][9] 9 ล้านแรงม้า[3][8][9]

หุ่นยนต์เมกาซอร์ดยักษ์ แก้

โกบัสเตอร์โอ (ゴーバスターオー)
เมกาซอร์ดที่เกิดจากการรวมร่างของ โกบัสเตอร์เอช, GT-02 และ RH-03 โดย โกบัสเตอร์เอช ทำหน้าที่แกนกลางของหุ่น, GT-02 ทำหน้าที่เป็นเกราะหน้าอกและส่วนขา และ RH-03 ทำหน้าที่เป็นแขนทั้ง 2 ข้าง แบ็คแพ็คด้านหลัง และ หมวก โดยทำการกดรหัส GB5 ที่คีย์บอร์ดระบบสัมผัส ตามด้วย Combine Operation! รวมร่างปฏิบัติการ!
เมื่อทำการรวมร่าง โกบัสเตอร์เอชจะทำการปล่อยมิซไซล์ และ เอเนอร์ทรอนบาเรีย ออกมาเป็นรูปวงกลมเพื่อป้องกันการโจมตีระหว่างการรวมร่างพร้อมกับควบคุมระยะเวลาในการรวมร่าง เมื่อรวมร่างได้เกิน 90% ห้องบังคับจะถูกเคลื่อนย้ายไปรวมกันที่ส่วนหัว
อาวุธประจำตัวคือ บูสท์บัสเตอร์ซอร์ด เอชเบลดที่รวมเข้ากับบูสเตอร์ของ RH-03 แร็บบิท ทำให้มีพลังในการโจมตีเพิ่มขึ้น และใช้พลังงานเอเนอร์ทรอนได้มากกว่าเดิม
ท่าไม้ตายคือ ไดเมนชัน ครัช ทำการเชื่อมต่อเอเนอร์ทรอนเข้ากับดาบและสะสมพลังงานจนครบ 100% จะเกิดพลังงานเอเนอร์ทรอนสีเขียวขึ้นมาที่ตัวดาบ เกราะหน้าอกและส่วนขาจะทำการปล่อยบาเรียสีฟ้าเพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนไหว โกบัสเตอร์โอจะวิ่งเข้าหาศัตรูพร้อมกับฟันสะพายแล่ง ทำให้ศัตรูถูกทำลายลงในที่สุด และ เอ็กซ์โพรชันคิก เป็นท่าที่ทำการรวบรวมพลังงานเอเนอร์ทรอนไว้ที่ขาซ้าย จะทำการกระโดดพร้อมกับหมุนตัว 1 รอบ แล้วทำการเตะใส่ศัตรูอย่างรุนแรง ทำให้ศัตรูถูกทำลายลงในที่สุด
บัสเตอร์เฮอร์คิวริส (バスターヘラクレス)
เมกาซอร์ดที่เกิดจากการรวมร่างของ โกบัสเตอร์บีท และ SJ-05 โดย SJ-05 ทำหน้าที่เป็นเกราะหน้าอก และ อาวุธ โดยทำการกดรหัส GB7 ที่คีย์บอร์ดระบบสัมผัส ตามด้วย Combine Operation! โทคุเมย์ กัตไท!
อาวุธประจำตัวคือ สแต็กลันเซอร์ ปืนไรเฟิลที่มือขวา, แก็ตลิ่งบาซูก้า ปืนกลที่เกราะหน้าอก, สแต็กชิลด์ โล่ที่แขนซ้าย สามารถใช้โจมตีด้วยการตัดศัตรูด้วยใบมีดอันแหลมคม, บีทแคนนอน
ท่าไม้ตาย คือ เฮอร์คิวริสไครซิส
เกรทโกบัสเตอร์ (グレートゴーバスター)
เมกาซอร์ดที่เกิดจากการรวมร่างของ โกบัสเตอร์โอ และ บัสเตอร์เฮอร์คิวริส โดย โกบัสเตอร์โอ ทำหน้าที่เป็นแกนกลาง, แบ็กแพ็คอาวุธ และ บัสเตอร์เฮอร์คิวริส ทำหน้าที่เป็นเท้าเสริมแขนทั้ง 2 ข้าง แบ็กแพ็ค และ อาวุธ ในการใช้งานนั้นต้องให้นำบัสเตอร์แมชชีนมาประกอบร่างในห้องเตรียมรบจากศูนย์จัดการพลังงาน แต่มีข้อเสียคือการใช้งานเกรทโกบัสเตอร์ต้องใช้พลังงานเอเนอร์ตรอนที่เป็นจำนวนมาก
อาวุธประจำตัวคือ บัสเตอร์แลนซ์ หอกที่เกิดจากการรวมของบูสท์บัสเตอร์ซอร์ด และ เครนอาร์ม สามารถยืดหดได้ตามต้องการ, สแต๊กลันเชอร์
ท่าไม้ตาย คือ เดมมาลิชเชินธรัสท์ ทำการเชื่อมต่อเอเนอร์ทรอนเข้ากับบัสเตอร์แลนซ์ พลังงานเอเนอร์รอนมหาศาลจะห่อหุ้มบัสเตอร์แลนซ์ทันที เกรทโกบัสเตอร์วิ่งเข้าหาศัตรูเข้าหาพร้อมกับแทงด้วยความเร็วสูง ทำให้ศัตรูถูกทำลายลงในที่สุด
โกบัสเตอร์ไลโอ (ゴーバスターライオー)
หุ่นยนต์เมกาซอร์ดที่เกิดจากการรวมร่างของ บัดดี้ซอร์ด LT-06, GT-02, RH-03 โดยทาเทกามิไลโอ ทำหน้าที่เป็นแกนกลางของหุ่น มีวิธีการรวมร่างแบบเดียวกับโกบัสเตอร์โอ
อาวุธประจำตัวคือ บูสต์บัสเตอร์ซอร์ด
ท่าไม้ตายคือ อิกนิกชั่นทอร์นาโด ทำการเชื่อมต่อพลังเข้ากับทาเทกามิ ชิลด์ที่หน้าอก จะทำการยิงพลังออกมาทางปากสิงโต พุ่งตรงไปยังศัตรูอย่างรุนแรง ทำให้ศัตรูถูกทำลายลงในที่สุด
โกบัสเตอร์คิง (ゴーバスターキング)
หุ่นยนต์เมกาซอร์ดที่เกิดจากการรวมร่างของ โกบัสเตอร์ไลโอ และ บัสเตอร์เฮอร์คิวริส
ท่าไม้ตายคือ เอกซ์มิชชันเบรก ท่าที่ทำการเชื่อมต่อเอเนอร์ทรอนเข้ากับบัสเตอร์แลนซ์ พลังงานเอเนอร์รอนมหาศาลจะห่อหุ้มบัสเตอร์ แลนซ์ทันที โกบัสเตอร์คิง วิ่งเข้าหาศัตรูเข้าหาพร้อมกับฟันเป็นรูปดอกจันทน์ด้วยความเร็วสูง ทำให้ศัตรูถูกทำลายลงในที่สุด, ทวินเบลดสแลช ใช้ใบมีดที่แขนทั้ง 2 ข้าง ทำการฟันศัตรูแบบสะพายแล่ง, ฟลายอิงลาเลียต ท่าลาเลียตโดยโกบัสเตอร์คิง ทำการโยนโกบัสเตอร์เอช ขึ้นฟ้าจากนั้นใช้ท่าลาเลียตพุ่งเข้าหาศัตรู
โกบัสเตอร์ เคโระโอ (ゴーバスターケロオー)
ข้อมูลจำเพาะ
ชื่อ ส่วนสูง ความกว้าง ความหนาบริเวณอก น้ำหนัก ความเร็ว แรงกำลัง
โกบัสเตอร์โอ 53.5 เมตร 46.3 เมตร 22.3 เมตร 3700 ตัน 300 กม. / ชม. 14 ล้านแรงม้า
บัสเตอร์เฮอร์คิวริส 41.3 เมตร 23 เมตร 21 เมตร 2400 ตัน 350 กม. / ชม. 9 ล้านแรงม้า
เกรทโกบัสเตอร์ 60.5 เมตร 46.3 เมตร 30 เมตร 6100 ตัน 400 กม. / ชม. 23 ล้านแรงม้า
โกบัสเตอร์ เคโระโอ 52 เมตร 28.8 เมตร 26 เมตร 3700 ตัน
โกบัสเตอร์ไลโอ 65.8 เมตร 49.6 เมตร 46.6 เมตร 4800 ตัน 500 กม. / ชม. 18 ล้านแรงม้า
โกบัสเตอร์คิง 82.6 เมตร 50.1 เมตร 56.3 เมตร 7200 ตัน 650 กม. / ชม. 27 ล้านแรงม้า

วาร์กราส แก้

วาร์กราส (ヴァグラス) เป็นกลุ่มศัตรูที่ถูกสร้างจากไวรัสคอมพิวเตอร์โดยผู้นำคือเมซไซอา โดยอาศัยฐานทัพในศูนย์วิจัยการถ่ายโอนในอดีตที่ได้รับความเสียหายและเปลี่ยนแปลงไปโดยล่องลอยอยู่พื้นที่มิติย่อย

เมซไซอา แก้

เมซไซอา (メサイア)
ให้เสียงโดย ซาซากิ เซย์จิ (佐々木 誠二)
ผู้นำของวาร์กราส เป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ที่สัมผัสกับเมนคอมพิวเตอร์ของสถาบันวิจัยเคลื่อนย้ายมิติที่กลายพันธุ์จากการติดเชื้อไวรัสคอมพิวเตอร์ลึกลับ จนมีชีวิตและทำให้เกิดมีนิสัยที่ชั่วร้าย ทำให้สถาบันวิจัยเคลื่อนย้ายมิติถูกเคลื่อนย้ายไปยังมิติย่อยรวมไปถึงการหายสาบสูญของบุคคลในสถาบันวิจัย และได้เตรียมการวางแผนที่จะเข้ามาบุกโลกจริงอีกครั้ง
โดยปกติจะปรากฏในภาพโฮโลแกรมรูปหัวกะโหลกและอาศัยอยู่ในมิติย่อย ร่างของเมซไซอาเป็นข้อมูลที่ไม่เสถียรคงสภาพได้ไม่นาน จึงต้องชาร์จพลังงานเอเนอร์ตรอนในฐานทัพ โดยที่เอ็นเทอร์ไปเก็บกู้จากในภารกิจต่างๆ เพื่อยืดพลังชีวิต มีความสามารถสร้างพลังงานทั้งหมดรวมทั้งเมตาไวรัส มีแผนการหลักคือสร้างอวตาร์มนุษย์ไปส่งไปโลกมนุษย์เพื่อรวบรวมเอเนอร์ตรอนให้มากพอแล้วเพื่อนำมาสร้างร่างกายและนำพลังงานในการวาร์ปส่งฐานทัพในมิติย่อยมารุกรานโลกมนุษย์เพื่อก่อสงครามล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์
เมซไซอาเซล (メサイアセル)
เมซไซอาในรูปแบบหุ่นยนต์ โดยใช้อาศัยข้อมูลของ คัทเตอร์รอยด์, พาราโบล่ารอยด์, ฟอร์ครอยด์ และ คีย์รอยด์ ทำให้เกิดรูปร่างและมีชีวิตขึ้นมา
เมซไซอา รีบูท (メサイア・リブート)
เมซไซอาที่กลายเป็นหุ่นยนต์เมกาซอร์ด เป็นไพ่ตายของวาร์กราสในการทำลายล้าง เกิดจากการหลอมรวมกับสารอนินทรีย์ทุกชนิดโดยภายในหุ่นใช้พลังงานและข้อมูลของศูนย์วิจัย โดยใช้หุ่นเมกาซอร์ดไทป์ ζ เป็นแกนกลางในการขับเคลื่อน[13][11]
ลักษณะร่างกายของเมซไซอาสร้างมาจากมิติย่อยที่อยู่ในศูนย์วิจัยการถ่ายโอน[13] มีความสูงขนาดมหึมาและมีน้ำหนักมหาศาลมากกว่าโกบัสเตอร์คิง[13] ในช่วงที่ปรากฏตัวครั้งแรกนั้น ส่วนหัวถูกคลุมด้วยกระบังหน้า แต่ได้ถูกการโจมตีทำให้ใบหน้าจริงปรากฏด้วยลักษณะเป็นดวงตาคู่[13] ในส่วนอาวุธประกอบไปด้วย มือซ้ายที่มีพลังกระแสไฟฟ้าขั้นสูง[12][11], มือขวามีอาวุธกรงเล็บสว่าน[11]และสามารถใช้คลื่นกระแทกที่ปล่อยออกมาจากร่างกายทั้งหมด[13][11] อย่างไรก็ตาม มีพลังการต่อสู้เหมือนป้อมปราการเนื่องจากร่างกายที่ขนาดใหญ่มหึมาและมีเกราะที่แข็งแกร่ง
ในศึกสุดท้ายระหว่างโกบัสเตอร์สและเมซไซอา โกบัสเตอร์สใช้บูสบัสเตอร์ซอร์ดของโกบัสเตอร์ไลโอแทงทะลุที่หน้าอกโดยโกบัสเตอร์สมาชิกหลักทั้ง 3 คนและบัดดี้รอยด์คู่หูทั้ง 3 ได้ใช้ท่าไม้ตายอิกนิกชันทอร์นาโดที่รวมพลังจากวัคซีนโปรแกรม เพื่อทำลายเมซไซอา จนทำให้ระเบิดและเมซไซอาได้ถูกทำลายไปอย่างสมบูรณ์

อวตาร์ แก้

เอ็นเทอร์ (エンター)
รับบทโดย จินไน โช (陳内 将)
อวาตาร์ของวาร์กราส ทำหน้าที่ในการตรวจสอบ, เอเยนต์จัดหาหุ่นยนต์ และหาข่าวให้กับวาร์กราสบนโลกมนุษย์ สามารถเดินทางระหว่างโลกมนุษย์และวาร์กราส เรียก เมสไซอา ว่า มาเจสตี้ (Majesty) มีลักษณะเด่นคือ มักใช้คำศัพท์จากภาษาฝรั่งเศสในการพูดประโยคในรูปแบบต่างๆ สามารถปลอมตัวได้แต่มีเอกลักษณ์เด่นคือสวมใส่แว่นก็อกเกิล รวมทั้งพกใช้แล็ปท็อปในการสร้างเมต้ารอยด์ คอยประชุมแผนกับเมซไซอาก่อนเริ่มภารกิจ คอยรวบรวมพลังงานเอเนอร์ทรอนที่รั่วไหลมาใส่กระเป๋าที่เป็นถังเก็บบรรจุพลังงาน เพื่อนำแล็ปท็อปกับเมต้าไวรัสการ์ดไปเชื่อมกับวัตถุเพื่อสร้างเมต้ารอยด์ในภารกิจต่างๆ โดยแผนการณ์ของเอ็นเตอร์นั้นจะเน้นเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อถ่วงเวลาโกบัสเตอร์ส และดำเนินในแผนหลักต่ออีกที โดยรวบรวมแผนการณ์ที่ผิดพลาดต่างๆ มาต่อยอดในแผนการณ์ใหม่ ในภารกิจร่วมกับเอสเคปมักจะไม่ถูกกันและขัดคำสั่ง ในการต่อสู้นั้นเอ็นเทอร์จะเน้นใช้ดาบและสายเคเบิลออกมาจากแขนเสื้อ
หลังจากโกบัสเตอร์กำจัดเมซไซอาในมิติย่อย เอ็นเทอร์ได้ทำแบ็คอัพข้อมูลของเมสไซอาทำให้กลายเป็นเมสไซอาการ์ดจำนวน 13 ใบ ส่งกระจัดกระจาย โดยแอบนำการ์ดหมายเลข 04 ฝังใส่ตัวแล้วใช้แปลงร่างเป็นยูไนท์ และเก็บข้อมูลการเติบโตของเมซไซอารอยด์รวมถึงเฝ้าดูพฤติกรรมของฮิโรมุเพื่อนำมาเพิ่มพลังให้ตัวเอง ในช่วงที่เมซไซอาคืนชีพอีกครั้งเอ็นเทอร์ที่หมดประโยชน์ถูกกำจัด แต่ก่อนที่ถูกทำลาย ได้ใช้การ์ดหมายเลข 7 มาทำการแบ็คอัพข้อมูลและเพิ่มพลัง และมีเป้าหมายเป็นเมซไซอาองค์ใหม่ที่เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ
ต้นแบบของเอ็นเทอร์มาจากข้อมูลเหล่านักวิทยาศาสตร์ชายทั้งหมดในศูนย์วิจัยที่ถูกวาร์ปไปมิติย่อยเมื่อ 13 ปีก่อน โดยรวมกับนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสเข้ามารวมอยู่ด้วย
เอ็นเทอร์ ยูไนท์ (エンター・ユナイト)
  • ความสูง: 186 ซม.
  • น้ำหนัก: 162 กก.
ร่างต่อสู้ของเอ็นเทอร์ ที่นำเมซไซอาการ์ดหมายเลข 4 มาเพิ่มพลัง มีลักษณะเด่นเพิ่มเติมคือมีผ้าคลุมที่ด้านหลัง ตัวชุดเป็นชุดเกราะ แต่ยังมีแว่นก็อกเกิลไว้บนหัว หลังจากนำการ์ดหมายเลข 7 มาใส่ร่างตนเองทำการแบ็คอัพข้อมูลและเพิ่มพลัง จนมีพลังในการสร้างเมตารอยด์จากสิ่งมีชีวิตหรืออินทรียวัตถุได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องใช้แล็ปท็อปกับเมตาไวรัสการ์ด
ดาร์คบัสเตอร์ (ダークバスター)
  • ความสูง: 183 ซม.
  • น้ำหนัก: 160 กก.
เอ็นเทอร์ที่ได้คัดลอกข้อมูลของฮิโรมุที่มีการ์ดหมายเลข 13 มีลักษณะคล้ายเรดบัสเตอร์ พาวเวิร์ดคัสตอม แต่มีจุดแตกต่างตรงตัวชุดที่มีสีแดงโทนเข้ม สามารถใช้พลังความสามารถของเรดบัสเตอร์ได้ทั้งหมดรวมถึงรู้ข้อมูลการต่อสู้ของโกบัสเตอร์สทุกคนจากความทรงจำของฮิโรมุ นำมาประยุกต์ใช้แก้ไขจุดอ่อนจากข้อมูลที่ถูกคัดลอก ถึงร่างถูกทำลาย แต่ถ้าฮิโรมุสัมผัสกับโลหะ เอ็นเทอร์จะคืนชีพและแข็งแกร่งกว่าเดิมตราบใดที่ฮิโรมุยังมีชีวิตอยู่และการ์ดหมายเลข 13 อยู่ในร่างกาย
เอสเคป (エスケイプ)
รับบทโดย มิซากิ อายาเมะ (水崎 綾女)
อวาตาร์หญิงของวาร์กราส ทำหน้าที่เดียวกับเอ็นเทอร์ ใช้แอปเมต้าไวรัสในแทบเล็ตสร้างเมตารอยด์ แต่ไม่ถูกกับเอ็นเทอร์ จะเรียกเมซไซอาว่าป๊ะป๋า มีอาวุธประจำตัวคือปืนคู่ที่มีชื่อว่าก็อกและมาก็อก ที่มีลักษณะเป็นปืนที่ติดพวกกุญแจหัวสุนัขห้อยที่ด้ามปืน ถูกเมซไซอาสร้างขึ้นมาหลังจากที่เอ็นเทอร์ทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง เพื่อร่วมทำภารกิจต่างๆ โดยจะเน้นภารกิจโดยตรงซึ่งแตกต่างกับเอ็นเทอร์ที่วางแผนโดยรอบคอบไว้ก่อน โดยตอนทำภารกิจเอสเคปจะชอบต่อสู้กับคนเก่งเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเก่งที่สุดซึ่งมาตกอยู่ที่บลูบัสเตอร์ทำให้กลายเป็นคู่ปรับในเวลาต่อมา แต่เอสเคปถูกหลอมรวมเป็นส่วนของเมซไซอา รีบูท
ต้นแบบของเอสเคปมาจากข้อมูลเหล่านักวิทยาศาสตร์หญิงทั้งหมดในศูนย์วิจัยที่ถูกดึงตัวไปในมิติย่อยเมื่อ 13 ปีก่อน
เอสเคป เอโวล์บ (エスケイプ・エボルブ)
  • ความสูง: 165 ซม.
  • น้ำหนัก: 144 กก.
ร่างต่อสู้ของเอสเคป เกิดจากการนำแท็บเล็ตในการสร้างเมตารอยด์มาเชื่อมกับตัวเองเพื่อสร้างร่างพัฒนาขึ้นมาให้เหนือกว่าเอ็นเทอร์และโกบัสเตอร์ส มีความสามารถพิเศษคือ ก็อกและมาก็อก แปรสภาพจากปืนคู่เป็นแส้ มีพลังเทียบเทียมกับโกบัสเตอร์ส พาวเวิร์ดคัสตอม แต่มีข้อเสียงคือร่างที่ใช้นั้นยังไม่เสถียรเนื่องจากการพัฒนาที่เร็วและไม่สามารถคงสภาพได้นาน
เอสเคป เอโวล์บ (ร่างผสานดอกไม้) (エスケイプ・エボルブ(花融合態))
  • ความสูง: 165 ซม.
  • น้ำหนัก: 158 กก.
เอสเคปที่ถูกคืนชีพโดยเอ็นเตอร์มีพลังของเมซไซอาการ์ดหมายเลข 4 และหมายเลข 7 พร้อมสัมผัสกับหลอมรวมกับอินทรียวัตถุซึ่งนั่นก็คือดอกไม้
เอสเคป เอโวล์บ (ร่างผสานสัตว์ป่า) (エスケイプ・エボルブ(獣融合態))
  • ความสูง: 174 ซม.
  • น้ำหนัก: 169 กก.
เอสเคปที่ถูกคืนชีพอีกครั้ง เพื่อพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้น แต่ไม่เสถียรและไม่มีความทรงจำในอดีตเนื่องจากถูกใส่ข้อมูลอารมณ์มนุษย์ของเมซไซอาการ์ด เอ็นเตอร์ที่เห็นว่าหมดประโยชน์จึงทิ้งไป เอสเคปจึงไปหลอมรวมร่างกับสัตว์ต่างๆ ทั้งสุนัขและอีกา มาพัฒนาร่างให้แข็งแกร่ง แต่ด้วยพลังที่ควบคุมไม่ได้ทำให้เริ่มกลายสภาพเป็น เอสเคปเซต้า ไปในที่สุด
เอสเคป ζ (エスケイプζ, เอสเคปเซต้า)
  • ความสูง: 44.5 เมตร
  • น้ำหนัก: 1770 ตัน
เอสเคปที่ควบคุมพลังงานไม่ได้ ได้ไปหลอมรวมเข้ากับตึกอาคารโดยรอบ จนกลายร่างขยายยักษ์ มีลักษณะคล้ายกับเมกาซอร์ดไทป์ ζ ซึ่งเป็นเมกาซอร์ดประจำตัวของเอสเคป
ตัวหุ่นมีลักษณะเด่นคือปีกอีกาขนาดใหญ่บนหัว, เขี้ยวงูแหลมที่บริเวณหน้าอก, แขนขวามีส่วนผสมของสุนัขและกรงเล็บอีกา เรียกว่า ก็อกอาร์ม สัตว์ป่า (ゴクアーム・獣) และแชนซ้ายมีรูปร่างคล้ายกลีบดอกไม้ซึ่งสามารถยิงลูกไฟที่รุนแรงคล้ายกับเอโวล์บ เรียกว่า มาก็อกอาร์ม ดอกไม้ (マゴクアーム・花)

อื่นๆ แก้

เมตารอยด์ (メタロイド)
หุ่นยนต์ที่ถูกสร้างโดยอวตาร์ของวาร์กลาส ซึ่งวิธีสร้างคือนำเมตาไวรัสการ์ดหรือแอปมารวมกับวัตถุเพื่อติดตั้ง ยิ่งมีเอเนอร์ทรอนมากในการสร้างเท่าไหร่ ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น ทำหน้าที่ในปฏิบัติภารกิจต่างๆ ตามคำสั่ง
เมซไซอารอยด์ (メサイアロイド)
เมต้ารอยด์ระดับสูงที่ทรงพลัง เกิดจากเมซไซอาการ์ดไปรวมกับวัตถุแล้วดูดพลังงานในรอบบริเวณที่มีเอเนอร์ตรอนจนเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นมา ยิ่งมีชีวิตอยู่นานเท่าไหร่ยิ่งมีจิตใจใกล้เคียงความเป็นมนุษย์จนวิวัฒนาการจนเกิดใหม่เป็นเมซไซอาเร็วขึ้น ถ้านำเมซไซอาการ์ดทั้งหมด 13 ใบมาสร้างเมซไซอารอยด์ 1 ตัวถึงจะคืนชีพเมซไซอาได้ในรวดเร็วสุดจะเป็นความเสี่ยงที่จะไร้ความเสถียร แต่ในทางกลับกันถ้านำการ์ดหลายใบที่รวบรวมข้อมูลอารมณ์ของมนุษย์ไว้เต็มที่มารวมกันจะคืนชีพและมีความเสถียรมาก
เมกาซอร์ดรอยด์ (メガゾードロイド)
หุ่นยนต์เมกาซอร์ดที่ได้รับข้อมูลจากเมตาไวรัสการ์ด / เมซไซอาการ์ด ทำให้มีข้อมูลและร่างกายที่มาจากเมตารอยด์ / เมสไซอารอยด์ ที่ถูกใช้ แล้วส่งโอนถ่ายไปยังโลก
บั๊กเลอร์ (バグラー)
หุ่นยนต์ระดับล่างของวาร์กราส มีความสามารถในการแฝงตัวสอดแนมโดยจำลองร่างมนุษย์ขึ้นมา

พลังต่อสู้ของวาร์กราส แก้

เมกาซอร์ด (メガゾード)
หุ่นขนาดยักษ์รูปแบบผลิตจำนวนมาก เมื่อได้รับข้อมูลจากเมต้าไวรัสการ์ดและเมต้ารอยด์เมกาซอร์ด จะทำการอัพเกรดข้อมูลอย่างรวดเร็วภายในโรงงานลับของวาร์กราส
ในอดีตเมกาซอร์ดทั้ง 3 ไทป์ ได้ถูกผลิตขึ้นมาพร้อมกับบัสเตอร์แมชชีนของโกบัสเตอร์สเพื่อใช้งานในการซ่อมแซมงานอาคารและงานสาธารณประโยชน์อื่นๆ แต่ด้วยการปรากฏตัวของวาร์กราส ทำให้แบบแปลนและหุ่นบางส่วนได้ถูกขโมยไป
เมื่อถูกใช้งานจะถูกส่งจากโรงงานลับในวาร์กราส และใช้เวลา 3 - 8 นาที ในการเดินทางจากวาร์กราสมายังโลกมนุษย์ต่อ 1 ตัว แต่ถ้ามากกว่า 1 ตัว พร้อมๆ กัน หรือเรียกแค่ 1 ตัวโดยมีไทป์ δ อยู่ข้างใน จะต้องใช้เวลามากกว่าเดิม โดยภารกิจคือบุกแทงค์ที่บรรจุเอเนอร์ทรอนหรือบุกแหล่งพลังงานเอเนอร์ตรอนในสถานที่อื่นๆ เพื่อดูดพลังงานเอเนอร์ทรอนออกมา ตัวของเมกาซอร์ดเครื่องวาร์ปมวลพลังงานเอเนอร์ทรอนนำไปกับส่งไปฐานวาร์กราสในมิติย่อยเพื่อต่อยอดแผนใหม่ต่อ
เมกาซอร์ดหลัก
เมกาซอร์ด α (メガゾードα, เมกาซอร์ดอัลฟ่า)
  • ความสูง: 50.5 เมตร
  • น้ำหนัก: 1400 ตัน
เมกาซอร์ดที่มีรูปแบบการต่อสู้ที่เน้นในด้านความเร็วเป็นหลัก
เมกาซอร์ด β (メガゾードβ, เมกาซอร์ดเบต้า)
  • ความสูง: 43.0 เมตร
  • น้ำหนัก: 2300 ตัน
เมกาซอร์ดที่มีรูปแบบการต่อสู้ที่เน้นด้านพละกำลังเป็นหลัก
เมกาซอร์ด γ (メガゾードγ, เมกาซอร์ดแกมม่า)
  • ความสูง: 44.5 เมตร
  • น้ำหนัก: 1600 ตัน
เมกาซอร์ดที่มีรูปแบบการต่อสู้ที่รวบรวมด้านพละกำลังและความเร็วเข้าไว้ด้วยกัน มีรูปแบบการต่อสู้ใกล้เคียงกับมนุษย์ มีความสามารถในการปล่อยฟิงเกอร์มิซไซล์ที่มือ ปืนวัลคันที่มือขวา และ สามารถกางบาเรียที่มือ
เมกาซอร์ด δ (メガゾードδ, เมกาซอร์ดเดลต้า)
  • ความสูง: 48.0 เมตร
  • น้ำหนัก: 2100 ตัน
เมกาซอร์ดที่มีรูปแบบการต่อสู้ที่รวบรวมรูปแบบของเมกาซอร์ดทั้ง 3 ประเภทเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้มีพลังมากกว่ารุ่นก่อน ถูกสร้างมาจากแบบแปลนเดียวกับ BC-04 มีรูปร่างคล้ายกับโกบัสเตอร์บีทแต่มีจุดต่างที่รูปร่างสีขาวและสีเทา โดยปกติจะถูกเก็บไว้ในเมกาซอร์ดทั้ง 3 รุ่น เมื่อใช้งานปล่อยออกมาจากส่วนหลังของเมกาซอร์ดในแต่ละรุ่นที่ฝังไว้ โดยการเรียกมีลักษณะคล้ายกับการลอกคราบของแมลง
เมกาซอร์ดของอวตาร์
เมกาซอร์ด ε (メガゾードε, เมกาซอร์ดเอปซิลอน)
เมกาซอร์ดระดับสูงของเอ็นเตอร์ มักถูกเอ็นเทอร์นำใช้งานในการขัดขวางโกบัสเตอร์ส เน้นการต่อสู้กับโกบัสเตอร์เอชโดยเฉพาะ
เมกาซอร์ด ζ (メガゾードζ, เมกาซอร์ดเซต้า)[14]
  • ความสูง: 44.5 เมตร
  • น้ำหนัก: 1600 ตัน
เมกาซอร์ดระดับสูงของเอสเคป เกิดจากข้อมูลที่มาจาก เมกาซอร์ด δ ที่ฝังอยู่กับ เมกาซอร์ดรอยด์ (เด็นฉะซอร์ด 2) ที่ลอกคราบแล้วหลอมรวมข้อมูลของเมซไซอาการ์ดหมายเลข 06 จนเกิดเมกาซอร์ดชนิดใหม่ขึ้นมา ทำหน้าที่ในการขัดขวางโกบัสเตอร์ส มีลักษณะเด่นคือส่วนลำตัวมีใบหน้าคล้ายเมซไซอา
เมกาซอร์ด ω (メガゾードω, เมกาซอร์ดโอเมกา)[b]
  • ความสูง: 65 เมตร
  • น้ำหนัก: 2500 ตัน
เมกาซอร์ดขั้นสุดยอดของเอ็นเทอร์ ดัดแปลงมาจาก เมกาซอร์ด ε โดยติดตั้งอาวุธประเภทปืนลำแสงไว้รอบตัว ทำให้สามารถโจมตีด้วยปืนลำแสงได้ทุกทิศทาง มีอาวุธติดตั้งคือปืนลำแสงที่หัวไหล่ ข้างละ 3 กระบอก, จรวดขนาดเล็กที่แขนแบบยิงอัตโนมัติ ข้างละ 3000 ลูก, ปืนวัลคันขนาดใหญ่ที่ต้นขา, ปืนลำแสงขนาดเล็กรอบตัว สามารถยิงด้วยระบบอัติโนมัติและไม่จำนวนจำกัดการยิง
บั๊กซอร์ด (バグゾード)
หุ่นยนต์เมกาซอร์ดของบั๊กเลอร์ มีลักษณะคล้ายกับไทป์ α แต่มีแบ็คแพ็คติดอยู่ด้านหลัง มักจะปรากฏเป็นกลุ่มฝูง

ข้อมูลอื่นๆ แก้

เอเนอร์ตรอน (エネトロン)
สุดยอดพลังงานใหม่ที่ถูกใช้ในยุคศักราชใหม่ ถูกใช้งานเป็นพลังงานในรูปแบบต่างๆ ประกอบไปด้วยไฟฟ้า, ก๊าซ และ น้ำมัน เป็นเป้าหมายหลักที่วาร์กลาสต้องการพลังงานเพื่อสร้างกองทัพเมกาซฮร์ดและฟื้นพลังชีวิตของเมซไซอา
ศูนย์จัดการพลังงาน (エネルギー管理局)
องค์กรลับที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อปกป้องเอเนอร์ทรอนขึ้นมาให้รอดพ้นจากการโจมตีของวาร์กราส โดยทำการรวบรวมผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในปี 1999 ขึ้นมา ศูนย์บัญชาการจะอยู่ในชั้นใต้ดินระดับลึกของเมือง มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับจังหวัด เมื่อได้รับสัญญาณเตือนถึงการอาละวาดของวาร์กราส ศูนย์จัดการพลังงานจะส่งโกบัสเตอร์สผ่านช่องทางต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับฐานทัพ เช่น ช่องแอร์, ตู้เก็บถังดับเพลิง ฯลฯ เพื่อให้งานปฏิบัติการณ์รวดเร็วและเสียหายต่อประชาชนให้น้อยที่สุด
มิติย่อย (亜空間)
มิติย่อยเทียม (疑似亜空間)
สถาบันวิจัยเคลื่อนย้ายมิติ (転送研究センター)
ศูนย์วิจัยที่ถูกย้ายไปช่องว่างมิติ เมื่อปี ค.ศ. 1999 ในช่วงที่วาร์กราสได้ยึดศูนย์วิจัยครั้งแรก และเป็นที่ตั้งฐานหลักต่างมิติของวาร์กราส
เมตาไวรัสการ์ด (メタウイルスカード)
การ์ดไวรัสที่เอ็นเตอร์ใช้ร่วมกับแลปทอปสร้างเมตารอยด์
เมตาไวรัส (メタウイルス)
เมซไซอาการ์ด (メサイアカード)
ไวรัสการ์ดที่มีข้อมูลสำเนาของเมซไซอา ที่เอนเตอร์แอบคัดลอกมาก่อนที่เมซไซอาถูกทำลายในมิติย่อย มีพลังประสิทธิภาพสูงในการสร้างเมต้ารอยด์ทำให้มีพลังมากกว่าเมตาไวรัสการ์ดหลายเท่า เมื่อถูกใช้งานจะทำให้เพิ่มพลังการโจมตีเฉพาะส่วน มีจำนวนทั้งหมด 13 ใบ โดยมีลักษณะเด่นคือตัวการ์ดมีหมายเลขกำกับไว้ (อย่างเช่นการ์ดหมายเลข 1 กำกับเลข "01", การ์ดหมายเลข 3 กำกับเลข "03") การ์ดสามารถเลือกต้นแบบและหลอมรวมกับวัตถุสารอนินทรีย์สูบเอเนอร์ตรอนในบริเวณใกล้ๆ เพื่อวิฒนาการกลายเป็นเมซไซอารอยด์ หลังจากที่สร้างเสร็จ ก็เริ่มดัดแปลงหุ่นยนต์เมกาซอร์ดแล้วโอนถ่ายมายังโลก
ทั้งนี้มีลักษณะที่ต่างกับเมตารอยด์ โดยทำหน้าที่ดูดซับข้อมูลอารมณ์พฤติกรรมและนิสัยของมนุษย์เป็นส่วนประกอบเพื่อพัฒนาเมซไซอาตามแผนการณ์ที่เอ็นเทอร์ทำไว้ ทำให้เมซไซอารอยด์มีความคิดใกล้เคียงกับมนุษย์ เมื่อรวบรวมข้อมูลได้มากพอทำให้คืนชีพเมซไซอาได้ ยิ่งมีหลายใบรวมกันในที่เดียวยิ่งคืนชีพเร็วขึ้นรวมทั้งแข็งแกร่งกว่าเดิม
เมกาซอร์ด (メガゾード)
ชื่อหุ่นยนต์ที่โกบัสเตอร์สและวาร์กลาสใช้งาน
วัคซีนโปรแกรม (ワクチンプログラム)
วัคซีนแอนตี้เมตาไวรัส ที่ฝังอยู่ในร่างกายของสมาชิกหลักของโกบัสเตอร์สทั้ง 3 คน โดยวัคซีนที่ที่อยู่ในร่างกายของเขานั้นเป็นเพียงโปรแกรมต้นแบบที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่เนื่องด้วยการโจมตีของวาร์กราสเมื่อปี ค.ศ. 1999 ทำให้โปรแกรมเสร็จสมบูรณ์เพียงจำนวนจำกัด มีจุดอ่อนที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้ใช้จึงเป็นเหตุให้พวกเขาต้องเสี่ยงอันตรายทุกครั้งเมื่อได้รับผลกระทบจากโปรแกรมดังกล่าว และเมื่อไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้ในทันที

เพลงประกอบ แก้

เพลงเปิดเรื่อง
ร้องโดย ทาคาฮาชิ ฮิเดยูกิ
ร้องโดย ทาคาฮาชิ ฮิเดยูกิ
เพลงปิดเรื่อง
ร้องโดย นาโซะ โนะ ชินยูนิต STA☆MEN

รายชื่อตอน แก้

ชื่อตอนของโกบัสเตอร์สจะถูกนับเป็น Mission ตามด้วยเลขจำนวนตอนยกเว้นตอนสุดท้ายที่เขียนว่า Final

ตอนที่ ชื่อตอน   ออกอากาศ   เผยแพร่
Cartoon Club
Mission 1 "ขบวนการจารชน รวมพล!"
(特命戦隊、集結せよ!) 
26 กุมภาพันธ์ 201223 ธันวาคม 2021
Mission 2 "สัญญาเมื่อ 13 ปีก่อน"
(13年前の約束) 
4 มีนาคม 201224 ธันวาคม 2021
Mission 3 "GT-02 แอนิมอล ออกรบ!"
(GT-02アニマル、出撃!) 
11 มีนาคม 201225 ธันวาคม 2021
Mission 4 "ภารกิจพิเศษกับการตัดสินใจ"
(特命と決意) 
18 มีนาคม 201226 ธันวาคม 2021
Mission 5 "วิกฤติหัวร้อนสุดอันตราย!"
(キケンな熱暴走!) 
25 มีนาคม 201230 ธันวาคม 2021
Mission 6 "รวมร่าง! โกบัสเตอร์โอ"
(合体!ゴーバスターオー) 
1 เมษายน 201231 ธันวาคม 2021
Mission 7 "เอซที่บำรุงรักษาผิดพลาด?!"
(エース整備不良?!) 
8 เมษายน 20121 มกราคม 2022
Mission 8 "ปกป้องแบบแปลนแมชชีนให้จนได้!"
(マシン設計図を守れ!) 
15 เมษายน 20122 มกราคม 2022
Mission 9 "แผนการนำตัวอุซาดะกลับมา!"
(ウサダ奪還作戦!) 
22 เมษายน 20126 มกราคม 2022
Mission 10 "เหตุผลที่ต่อสู้"
(戦う理由) 
29 เมษายน 20127 มกราคม 2022
Mission 11 "เป้าหมายครั้งนี้คือจุดอ่อน"
(ねらわれたウイークポイント) 
6 พฤษภาคม 20128 มกราคม 2022
Mission 12 "คุณชอบแต่งตัวมั้ย?"
(変装はお好き?) 
13 พฤษภาคม 20129 มกราคม 2022
Mission 13 "วันหยุดสุดเซอร์ไพรซ์"
(サプライズな休日) 
20 พฤษภาคม 201213 มกราคม 2022
Mission 14 "ซาว๊า? ปฏิบัติการช่วยเหลือ"
(サバ? 救出作戦) 
27 พฤษภาคม 201214 มกราคม 2022
Mission 15 "นักรบสีทองและบัดดี้สีเงิน"
(金の戦士と銀のバディ) 
3 มิถุนายน 201215 มกราคม 2022
Mission 16 "ชายผู้ที่มาจากมิติย่อย"
(亜空間から来た男) 
10 มิถุนายน 201216 มกราคม 2022
Mission 17 "และนามนั้นคือ โกบัสเตอร์บีท!"
(その名はゴーバスタービート!) 
17 มิถุนายน 201220 มกราคม 2022
Mission 18 "ปฏิบัติการใต้ดินลึก 3000 เมตร"
(地底3000メートルの共同作戦) 
24 มิถุนายน 201221 มกราคม 2022
Mission 19 "การรวมร่างของฉัน! บัสเตอร์เฮอร์คิวริส"
(俺の合体!バスターヘラクレス) 
1 กรกฎาคม 201222 มกราคม 2022
Mission 20 "รวมพล 5 คน! เกรทโกบัสเตอร์!"
(5体結集! グレートゴーバスター!) 
8 กรกฎาคม 201223 มกราคม 2022
Mission 21 "ลาก่อน บลูบัสเตอร์"
(さらば ブルーバスター) 
15 กรกฎาคม 201227 มกราคม 2022
Mission 22 "อวาตาร์สุดสวย เอสเคป"
(美しきアバター エスケイプ) 
22 กรกฎาคม 201228 มกราคม 2022
Mission 23 "ผู้ที่สืบทอดเจตนารมณ์"
(意志を継ぐ者) 
29 กรกฎาคม 201229 มกราคม 2022
Mission 24 "เทศกาลฤดูร้อนที่แสนจะเทรเบียง"
(トレビアンな夏祭り) 
5 สิงหาคม 201230 มกราคม 2022
Mission 25 "ตามติดความลักลับของอวาตาร์!"
(アバターの謎を追え!) 
12 สิงหาคม 20123 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 26 "ศัตรูตัวจิ๋วสุดแกร่ง! ห้องบัญชาการ SOS"
(小さな強敵! 司令室SOS) 
19 สิงหาคม 20124 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 27 "ออกจากเขาวงกตด้วยคู่หูสุดคลั่ง!"
(暴走コンビで迷宮脱出!) 
26 สิงหาคม 20125 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 28 "ระวังไก่ด้วยนะ!"
(ニワトリに注意せよ!) 
2 กันยายน 20126 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 29 "ทะยานเข้าสู่มิติย่อย!"
(亜空間への突入!) 
9 กันยายน 201210 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 30 "เมซไซอา ชัทดาวน์"
(メサイア シャットダウン) 
16 กันยายน 201211 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 31 "ตำรวจอวกาศเกียบัน มาแล้ว!"
(宇宙刑事ギャバン、現る!) 
23 กันยายน 201212 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 32 "ศึกแห่งมิตรภาพกับเกียบัน!"
(ギャバンとの友情タッグ!) 
30 กันยายน 201213 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 33 "มอร์ฟิน! พาวเวิร์ดคัสตอม"
(モーフィン! パワードカスタム) 
7 ตุลาคม 201217 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 34 "ศัตรูคือบีทบัสเตอร์?!"
(敵はビートバスター?!) 
14 ตุลาคม 201218 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 35 "ทาเทกามิไลโอ คำราม!"
(タテガミライオー 吼える!) 
21 ตุลาคม 201219 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 36 "โกบัสเตอร์ไลโอ ชะวิ้งงง!"
(ゴーバスターライオー ガギーン!) 
28 ตุลาคม 201220 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 37 "คุณเจ้าสาวขาวและดำ"
(黒と白の花嫁) 
4 พฤศจิกายน 201224 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 38 "ถ่ายทอดสด! เอซเดธแมทช์"
(実況! エースデスマッチ) 
11 พฤศจิกายน 201225 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 39 "ท่าไม้ตาย! กำปั้นแห่งเมซไซอา"
(必殺! メサイアの拳) 
18 พฤศจิกายน 201226 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 40 "เจผู้คุ้มกันกับเมซไซอารอยด์"
(カブるJとメサイアロイド) 
25 พฤศจิกายน 201227 กุมภาพันธ์ 2022
Mission 41 "จอมโจรพิงค์บัสเตอร์!"
(怪盗ピンクバスター!) 
2 ธันวาคม 20123 มีนาคม 2022
Mission 42 "ปฏิบัติการจู่โจม! เข้าสู่ตัวเมกาซอร์ด"
(突撃! メガゾードの中へ) 
9 ธันวาคม 20124 มีนาคม 2022
Mission 43 "คริสมาสต์แห่งการตัดสินใจ"
(決意のクリスマス) 
16 ธันวาคม 20125 มีนาคม 2022
Mission 44 "ค่ำคืนศักดิ์สิทธิ์ - เวลาของการจบภารกิจ"
(聖夜・使命果たすとき) 
23 ธันวาคม 20126 มีนาคม 2022
Mission 45 "สวัสดีปีใหม่ ศัตรูตัวจิ๋วสุดแข็งแกร่งกลับมาแล้ว"
(謹賀新年 小さな強敵、再び) 
6 มกราคม 201310 มีนาคม 2022
Mission 46 "การหลอมรวมครั้งใหม่กับหัวร้อนคลั่ง!"
(新たな融合と熱暴走!) 
13 มกราคม 201311 มีนาคม 2022
Mission 47 "รีเซ็ตแล้วก็แบ็คอัพ"
(リセットとバックアップ) 
20 มกราคม 201312 มีนาคม 2022
Mission 48 "กับดักที่ถูกติดตั้งเอาไว้"
(仕掛けられていた罠) 
27 มกราคม 201313 มีนาคม 2022
Mission 49 "ความมุ่งมั่นและการตัดสินใจ"
(覚悟と選択) 
3 กุมภาพันธ์ 201317 มีนาคม 2022
Final Mission "สายสัมพันธ์ชั่วนิรันดร์"
(永遠のキズナ) 
10 กุมภาพันธ์ 201318 มีนาคม 2022

ในสื่ออื่น แก้

ภาพยนตร์ แก้

ขบวนการโจรสลัด โกไคเจอร์ VS ตำรวจอวกาศ เกียบัน THE MOVIE (海賊戦隊ゴーカイジャーVS宇宙刑事ギャバン THE MOVIE)
มหาศึกรวมพลังฮีโร่: คาเมนไรเดอร์ ปะทะ ซุปเปอร์เซนไต (仮面ライダー×スーパー戦隊 スーパーヒーロー大戦)
ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส THE MOVIE ปฏิบัติการปกป้องโตเกียวเอเนอร์ทาวเวอร์! (特命戦隊ゴーバスターズ THE MOVIE 東京エネタワーを守れ!)
ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส VS ขบวนการโจรสลัด โกไคเจอร์ THE MOVIE (特命戦隊ゴーバスターズVS海賊戦隊ゴーカイジャー THE MOVIE)
คาเมนไรเดอร์ ปะทะ ซุปเปอร์เซนไต ปะทะ ตำรวจอวกาศ มหาศึกรวมพลังฮีโร่ Z (仮面ライダー×スーパー戦隊×宇宙刑事 スーパーヒーロー大戦Z)
ขบวนการผู้กล้าไดโนเสาร์ เคียวริวเจอร์ VS โกบัสเตอร์ส ศึกไดโนเสาร์ประจัญบาน! มิตรภาพนิตรนิรันดร์ (獣電戦隊キョウリュウジャーVSゴーバスターズ 恐竜大決戦! さらば永遠の友よ)
มาสค์ไรเดอร์ ปะทะ ซูเปอร์เซ็นไต อภิมหาศึกรวมพลซูเปอร์ฮีโร่! (仮面ライダー×スーパー戦隊 超スーパーヒーロー大戦)

ทีวีซีรีส์อื่น แก้

ขบวนการจ้าวสรรพสัตว์ จูโอเจอร์

ตอนพิเศษ DVD แก้

การกลับมาของ โทคุเมย์เซ็นไต โกบัสเตอร์ส VS โดบุทสึเซ็นไต โกบัสเตอร์ส (帰ってきた特命戦隊ゴーバスターズVS動物戦隊ゴーバスターズ)
โทคุเมย์เซ็นไต โกบัสเตอร์ส VS บีทบัสเตอร์ VS J (特命戦隊ゴーバスターズVSビートバスターVS J)
เป็น DVD ตอนพิเศษที่แถมกับนิตยาสารเทเลบิแม็กกาซีน เดือนตุลาคม ปี 2012

การออกอากาศ แก้

ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.30 น. - 8.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮิ

ในส่วนประเทศไทย ลิขสิทธิ์ในการจำหน่ายและออกอากาศเป็นของบริษัทโรส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอร์ปอเรชั่น โดยใช้ชื่อว่า ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์ส ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลช่อง BIG (ปัจจุบันคือจีเอ็มเอ็ม 25) เมื่อช่วงปี พ.ศ. 2556 ทุกวันเสาร์และอาทิตย์เวลา 8:30 น. - 9:00 น. แต่ออกอากาศไม่จบ และออกอากาศทางสถานีดาวเทียม แก๊งการ์ตูนแชนเนล เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ทุกเย็นวันศุกร์ 18.00 - 18.30 น. อย่างไรก็ตามเมื่อปี พ.ศ. 2564 การ์ตูนคลับมีเดียได้ซื้อลิขสิทธิ์ต่อจากโรส โดยเผยแพร่ผ่านทางช่องยูทูบ Cartoon Club Channel เผยแพร่ทุกวันพฤหัสบดี ถึง วันอาทิตย์ เวลา 16:00 น.

อ้างอิง แก้

หมายเหตุ แก้

  1. 特記のない限り数値はテレビ朝日公式サイトの記述に基づく[1]。バディロイド未搭乗時の数値は書籍『特命戦隊ゴーバスターズ超全集』による[2]
  2. テレビ朝日公式サイトや関連書籍での表記[15][16]。東映公式サイトではΩと表記。

ที่มา แก้

  1. "バスターマシン". สืบค้นเมื่อ 2016-02-24.
  2. 超全集 2013, p. 66.
  3. 3.00 3.01 3.02 3.03 3.04 3.05 3.06 3.07 3.08 3.09 3.10 3.11 3.12 3.13 3.14 3.15 3.16 3.17 3.18 3.19 3.20 宇宙船YB 2013, p. 13, 「メガゾード/バスターマシン」
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 4.7 4.8 超全集 2013, pp. 70–71, 「メガゾード」
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 5.6 5.7 5.8 21st 12 2017, p. 19, 「メガゾード」
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 6.5 超全集 2013, pp. 72–73, 「メガゾード」
  7. 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 7.5 21st 12 2017, p. 20, 「メガゾード」
  8. 8.0 8.1 8.2 8.3 8.4 8.5 超全集 2013, pp. 74–75, 「メガゾード」
  9. 9.0 9.1 9.2 9.3 9.4 9.5 21st 12 2017, p. 21, 「メガゾード」
  10. 10.0 10.1 宇宙船YB 2013, p. 18
  11. 11.0 11.1 11.2 11.3 11.4 11.5 11.6 11.7 21st 12 2017, p. 22, 「ヴァグラス」
  12. 12.0 12.1 12.2 宇宙船YB 2013, p. 20
  13. 13.0 13.1 13.2 13.3 13.4 13.5 13.6 超全集 2013, p. 79, 「ヴァグラス」
  14. http://www.tv-asahi.co.jp/go-bus/contents/Vaglass/0086/
  15. 超全集 2013, p. 81.
  16. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ 宇宙船YB1314

อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "escape" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "toei40" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "13yagory" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "seisyun" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "t1004" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "pamph" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "hyper%2520hobby%2520201202" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "H" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "ToeiHero.40" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "36LEGENDS16" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "百化" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB22" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB242a" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB242b" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB243" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB244" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB248" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB255" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB262" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB264" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB266" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB268" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB270" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB272" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "CB274" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集24" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集36" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集49" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集50" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集52" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集54" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集56" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集58" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集60" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集61" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集62a" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集62b" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集63" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集64" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集66" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集67" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集68" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集69" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集76" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集76b" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集80" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集82a" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集82b" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "超全集94" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "獣電福沢" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "獣電TOY" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "仮面俳優23" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "仮面俳優37" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "仮面俳優47" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "仮面俳優61" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "仮面俳優71" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "仮面俳優101" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21stvol1" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21stvol9" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21st5" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21st6" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21st8" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21st10" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21st12" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21st14" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21st18" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21st23" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "21st25" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "学研の図鑑30" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "学研の図鑑50" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "坂本浩一全仕事" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "UYB1312" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "UYB1314" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า

อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ชื่อ "U167" ซึ่งนิยามใน <references> ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า

แหล่งข้อมูลอื่น แก้