ตลับ ยมราช

เป็นสตรีชนชั้นสูงชาวไทย เป็นภรรยาเอกของมหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)

ท่านผู้หญิงตลับ ยมราช (20 มกราคม พ.ศ. 2412 – 2 กันยายน พ.ศ. 2474)[2][3] เป็นสตรีชนชั้นสูงชาวไทย เป็นภรรยาเอกของมหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)

ท่านผู้หญิง[1]

ตลับ ยมราช
ท่านผู้หญิงตลับและเจ้าพระยายมราช เมื่อครั้งยังเป็นพระวิจิตรวรสาส์น
เกิดตลับ
20 มกราคม พ.ศ. 2412
จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม
เสียชีวิต2 กันยายน พ.ศ. 2474 (62 ปี)
คู่สมรสเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)
บุตร10 คน
บิดามารดาพระยาไชยวิชิตสิทธิสาตรา (นาค)
คุณหญิงนวน ไชยวิชิตสิทธิสาตรา

ประวัติ

แก้

ท่านผู้หญิงตลับเกิดเมื่อวันพุธ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 ปีมะโรง สัมฤทธิศก จุลศักราช 1230 ตรงกับวันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2411 (แบบสากลคือ พ.ศ. 2412) ในช่วงต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นบุตรสาวของพระยาชัยวิชิตสิทธิศักดา มหานคราภิบาล (นาค) ผู้รักษาพระนครศรีอยุธยา กับคุณหญิงนวน เป็นพี่สาวต่างมารดาของพระยาชัยวิชิตวิศิษฏ์ธรรมธาดา (ขำ ณ ป้อมเพชร์) อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และมีศักดิ์เป็นป้าของท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ เข้าเรียนที่โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง (ปัจจุบันคือโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย) แต่ก็ออกมาปรนิบัติบิดาและดูแลงานบ้านเพราะคุณหญิงนวนผู้เป็นมารดาถึงแก่กรรม

ด้านชีวิตครอบครัว ท่านสมรสกับมหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) อดีตเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ อดีตเสนาบดีกระทรวงนครบาล และอดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เมื่อปี 2431 ขณะที่เจ้าพระยายมราชมีบรรดาศักดิ์เป็น ขุนวิจิตรวรสาสน์ โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และเจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ 4 ผู้เป็นพระมารดาทำหน้าที่เป็นเถ้าแก่สู่ขอ มีบุตรธิดาด้วยกันทั้งสิ้น 10 คนแต่ที่มีชีวิตเติบโตเป็นผู้ใหญ่จำนวน 7 คน

ท่านผู้หญิงตลับ สุขุมถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2474[4]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. พระราชทานเครื่องยศ
  2. หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ[ลิงก์เสีย]
  3. "ท่านผู้หญิงยมราช(ตลับ สุขุม)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-10-24. สืบค้นเมื่อ 2023-09-12.
  4. ข่าวตาย (หน้า 2096)
  5. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า, เล่ม ๓๖ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๔๐๙, ๒๓ พฤศจิกายน ๒๔๖๒
  6. "พระราชทานเข็มข้าหลวงเดิมสำหรับสัตรี" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 22 สิงหาคม 1920.
  7. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ฝ่ายใน, เล่ม ๓๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๑๓๒, ๓๐ ตุลาคม ๒๔๖๔