ซุนเซียง
ซุนเซียง มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า ซุน อี้ (ป. ค.ศ. 184–204) ชื่อรอง ชูปี้ เป็นขุนพลและขุนนางที่เป็นน้องชายของซุนกวนจักรพรรดิผู้ก่อตั้งง่อก๊กในยุคสามก๊กของจีน[2] เขาเป็นสามีของสฺวีชื่อ
ซุนเซียง | |
---|---|
孫翊 | |
เจ้าเมืองตานหยาง (丹楊太守) (ภายใต้ซุนกวน) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 204 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
ก่อนหน้า | งอเก๋ง |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ป. ค.ศ. 184 |
เสียชีวิต | ค.ศ. 204 (20 ปี) |
คู่สมรส | สฺวีชื่อ |
บุตร | ซุน ซง |
บุพการี | |
ความสัมพันธ์ | ดูพงศาวลีง่อก๊ก |
อาชีพ | ขุนพล, ขุนนาง |
ชื่อรอง | ชูปี้ (叔弼) |
ชื่ออื่น | ซุน เหยี่ยน (孫儼)[1] |
ชีวิต
แก้ซุนเซียงเป็นบุตรชายคนที่สามของซุนเกี๋ยน ซึ่งเกิดจากนางงอฮูหยิน เป็นน้องชายของซุนกวน[3] เป็นสามีของนางชีฮูหยิน ซุนเซียงเป็นคนองอาจ ห้าวหาญ มีฝีมือการรบรุนแรง เด็ดขาดทัดเทียมกับซุนเซ็ก อีกทั้งยังมีสติปัญญาความรู้ความสามารถมาก ทำให้จูตีหนึ่งในที่ปรึกษาของซุนเซ็กยอมรับนับถือเป็นอย่างมาก และเสนอให้ซุนเซ็กแต่งตั้งเขาเป็น เซียวเหลียน (孝廉,ตำแหน่งข้าราชการระดับสูง) และดำรงตำแหน่งซือคง[4] หลังซุนเกี๋ยนถูกสังหารขณะสู้รบในยุทธการที่ซงหยงเมื่อ ค.ศ. 191 ซุนเซ็กดำรงตำแหน่งต่อจากเขา และเข้าคุมกองพล ในช่วง ค.ศ. 194 ถึง 199 ซุนเซ็กนำทัพไปพิชิตกังตั๋ง และสถานปนาฐานอำนาจของตนที่นั่น ใน ค.ศ. 200 เมื่อซุนเซ็กได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างออกล่าสัตว์ ที่ปรึกษาของเขานำโดยเตียวเจียวกับคณะเชื่อว่าเขาจะแต่งตั้งซุนเซียงเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำของแผ่นดินกังตั๋ง แต่ซุนเซ็กเลือกที่จะแต่งตั้งซุนกวนน้องชายคนรองแทน[1]
ค.ศ.202 ซุนกวนปราบปรามหัวเมืองง่อได้สำเร็จ แต่ขุนนางแดนเมืองง่อหลายคนหนีเข้าป่าไป จึงมอบหมายให้ งอเก๋ง ผู้มีศักดิ์เป็นลุงขึ้นเป็นเจ้าเมืองตันเอี๋ยงปกครองชายแดนเมืองง่อ
เสียชีวิต
แก้ปี ค.ศ.203 งอเก๋งเสียชีวิต ซุนเซียงจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองแทน ซุนเซียงมีความตั้งใจจะให้กลุ่มขุนนางเก่า ๆ เข้ามารับราชการตามเดิม จึงเรียกอิหลำกับไต้อ้วน ที่หนีเข้าป่ากลับเข้ารับราชการ แต่อิหลำ ไต้อ้วนยังคงมีความแค้นฝังใจอยู่ จึงคิดก่อการกบฎ โดยคบคิดกับเปียนหอง คนสนิทของซุนเซียงให้ทรยศฆ่านาย
วันหนึ่งซุนเซียงแต่งโต๊ะเลี้ยงขุนนางที่ศาลากลาง นางชีฮูหยินผู้เป็นภรรยาได้ร้องทักว่า"อย่าได้ไปเลย จะมีเคราะห์หนักรออยู่"แต่ซุนเซียงไม่เชื่อ หลังงานเลี้ยง ซุนเซียงจะกลับเข้าในจวน เปียนหองซึ่งเดินตามมาจึงใช้กระบี่ฟันซุนเซียงตาย ด้วยวัยเพียง 19 ปี
การล้างแค้นของภรรยา
แก้เมื่อซุนเซียงตายแล้ว อิหลำและไต้อ้วนจับตัวเปียนหองฆ่าเสียเพื่อปกปิดความผิด อิหลำคิดจะเอานางชีฮูหยิน ภรรยาของซุนเซียงเป็นภรรยา แต่ด้วยไหวพริบสติปัญญาของนางซีฮูหยิน จึงแสร้งตกลงแล้วขอเลื่อนไปอีกหนึ่งเดือนตามประเพณีที่ภรรยาม่ายยังไม่ควรรีบแต่งงานใหม่ จึงสามารถรวบรวมกำลังพลที่จงรักภักดีต่อตระกูลซุน จับอิหลำกับไต้อ้วน ตัดศีรษะไปเซ่นไหว้ที่หลุมศพซุนเซียงได้ในที่สุด
ครอบครัวและลูกหลาน
แก้ซุน ซง (孫松) บุตรซุนเซียง ดำรงตำแหน่งนายกองพลเกาทัณฑ์ฝึกหัด (射聲校尉) และได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิเป็นตูเซียงโหว (都鄉侯)[5] ซุน ซงเป็นที่รู้จักว่าเป็นคนเข้ากับคนง่ายและมีน้ำใจ และเป็นคนใกล้ชิดกับซุนกวนที่สุดในบรรดาญาติผู้ชายที่อายุน้อยกว่าของซุนกวน เมื่อซุน ซงประจจำการที่ปาชิว (巴丘) เขามักจะถูกตำหนิจากลกซุน เนื่องจากหน่วยของซุน ซงไม่รักษาระเบียบวินัยที่ดีและปล่อยให้ลูกน้องทำสิ่งที่ไม่สมควร ครั้งหนึ่ง ลกซุนลงโทษลูกน้องของซุน ซงด้วยการสั่งให้โกนหัว[6][7] ซุน ซงเสียชีวิตใน ค.ศ. 231[8]
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 (典略曰:翊名儼,性似策。策臨卒,張昭等謂策當以兵屬儼,而策呼權,佩以印綬。) อรรถาธิบาย Dianlue ในสามก๊กจี่ เล่มที่ึ 51.
- ↑ de Crespigny (2007), p. 778.
- ↑ ไม่ทราบว่าซุนเซียงแก่กว่าหรือเด็กกว่าซุนฮูหยิน
- ↑ (孫翊字叔弼,權弟也,驍悍果烈,有兄策風。太守朱治舉孝廉,司空辟。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 51.
- ↑ (子松為射聲校尉、都鄉侯。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 51.
- ↑ (射聲校尉松於公子中最親,戲兵不整,遜對之髠其職吏。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 58.
- ↑ (吳錄曰:松善與人交,輕財好施。鎮巴丘,數咨陸遜以得失。嘗有小過,遜面責松,松意色不平,遜觀其少釋,謂曰:「君過聽不以其鄙,數見訪及,是以承來意進盡言,便變色,何也?」松笑曰:「屬亦自忿行事有此,豈有望邪!」) อรรถาธิบาย Wu Lu ในสามก๊กจี่ เล่มที่ 51.
- ↑ (黃龍三年卒。蜀丞相諸葛亮與兄瑾書曰:「旣受東朝厚遇,依依於子弟。又子喬良器,為之惻愴。見其所與亮器物,感用流涕。」其悼松如此,由亮養子喬咨述故云。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 51.
- ตันซิ่ว (คริสต์ศตวรรษที่ 3). สามก๊กจี่ (ซานกั๋วจื้อ).
- de Crespigny, Rafe (2007). A Biographical Dictionary of Later Han to the Three Kingdoms 23-220 AD. Leiden: Brill. ISBN 9789004156050.
- de Crespigny, Rafe (2004) [1990]. Generals of the South (internet ed.). Canberra: Faculty of Asian Studies, Australian National University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-06-07.
- เผย์ ซงจือ (คริสต์ศตวรรษที่ 5). อรรถาธิบายสามก๊กจี่ (ซานกั๋วจื้อจู้).