จังหวัดเชจู หรือชื่ออย่างเป็นทางการ จังหวัดปกครองตนเองพิเศษเชจู[2] (เกาหลี제주특별자치도) เป็นหนึ่งในเก้าจังหวัดของประเทศเกาหลีใต้ มีพื้นใหญ่ส่วนใหญ่ครอบคลุมเกาะเชจู ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบเกาหลี อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ใต้ของจังหวัดช็อลลาใต้ จังหวัดเชจูเคยเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดช็อลลาใต้ ก่อนที่จะแยกออกมามีฐานะเป็นจังหวัดเมื่อปี พ.ศ. 2489 โดยมีเมืองเอกอยู่ที่นครเชจู

จังหวัดปกครองตนเองพิเศษเชจู

제주특별자치도
การถอดเสียงภาษาเกาหลี
 • ฮันกึล
 • ฮันจา
 • แมกคูน-ไรซ์ชาวเออร์Cheju T'ŭkpyŏl Chach'ido
 • อักษรโรมันฉบับปรับปรุงJeju Teukbyeoljachi-do
สถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดเชจู
สถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดเชจู
ธงของจังหวัดปกครองตนเองพิเศษเชจู
ธง
ตราอย่างเป็นทางการของจังหวัดปกครองตนเองพิเศษเชจู
ตรา
ที่ตั้งของจังหวัดเชจูในประเทศเกาหลีใต้
ที่ตั้งของจังหวัดเชจูในประเทศเกาหลีใต้
ประเทศเกาหลีใต้
ภูมิภาคเชจู
เมืองเอกนครเชจู
เขตการปกครองย่อย2 นคร
การปกครอง
 • ผู้ว่าราชการว็อน ฮี-รยง (นักการเมืองอิสระ)
 • ฝ่ายนิติบัญญัติสภาจังหวัดเชจู
พื้นที่
 • ทั้งหมด1,849 ตร.กม. (714 ตร.ไมล์)
อันดับพื้นที่อันดับที่ 9
ประชากร
 (ตุลาคม ค.ศ. 2014)
 • ทั้งหมด604,771 คน
 • อันดับอันดับที่ 9
 • ความหนาแน่น327.1 คน/ตร.กม. (847 คน/ตร.ไมล์)
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
 • ดอกไม้กุหลาบพันปี
 • ต้นไม้การบูร
 • นกนกหัวขวาน
รหัสพื้นที่+82-64-7xx
ภาษาถิ่นภาษาเชจู
HDI (ค.ศ. 2017)0.888[1] (สูงมาก)
เว็บไซต์เว็บไซต์ทางการ (อังกฤษ)

เกาะเชจูนี้จัดเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในประเทศเกาหลีใต้[3] และในจังหวัดเชจูนั้นมีมรดกโลก คือ เกาะภูเขาไฟเชจูและอุโมงค์ลาวา[4] เกาะเชจูนั้นมีอากาศอบอุ่นแม้กระทั่งในฤดูหนาว อุณหภูมิแทบจะไม่ต่ำไปกว่าจุดเยือกแข็ง

การแบ่งเขตการปกครอง แก้

แผนที่ หมายเลข ชื่อ ฮันกึล ฮันจา ประชากร (ค.ศ. 2013) เขตการปกครองย่อย
 
นครบริหาร
1 เชจู 제주시 濟州市 445,457 4 เมือง, 3 ตำบล, 19 แขวงบริหาร
2 ซอกวีโพ 서귀포시 西歸浦市 159,213 3 เมือง, 2 ตำบล, 12 แขวงบริหาร

ดูเพิ่ม แก้

อ้างอิง แก้

  1. "Sub-national HDI - Area Database - Global Data Lab". hdi.globaldatalab.org (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2018-09-13.
  2. "Jeju Special Self-Governing Province". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 June 2012. สืบค้นเมื่อ 25 January 2020.
  3. "ลม หิน ผู้หญิง สามสิ่งที่เป็น "เชจู"". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-02. สืบค้นเมื่อ 2021-11-14.
  4. "Unesco names World Heritage sites". BBC News. June 28, 2007. สืบค้นเมื่อ May 6, 2010.