จักรพรรดิฮันเซ
จักรพรรดิฮันเซ (ญี่ปุ่น: 反正天皇; โรมาจิ: Hanzei-tennō) มีอีกพระนามว่า จักรพรรดิฮันโชะ เป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นองค์ที่ 18 ตามลำดับการสืบราชบัลลังก์แบบบดั้งเดิม[7][8] ทั้งโคจิกิและนิฮงโชกิ (เรียกรวมกันเป็น คิกิ) บันทึกเหตุการณ์ที่อ้างว่าเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของฮันเซ แม้ว่าไม่สามารถระบุวันที่แน่นอนเกี่ยวกับพระชนมชีพหรือรัชสมัยของจักรพรรดิพระองค์นี้ได้ แต่โดยทั่วไปถือว่าพระองค์ครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. 406 ถึง 410[9] บรรดานักประวัติศาสตร์ระบุว่า แม้ไม่มีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นในรัชสมัยอันสั้นของฮันเซ แต่พระองค์มีพระสนมตามยศศักดิ์ ซึ่งเป็นประเพณีที่นำเข้าจากจีน
จักรพรรดิฮันเซ 反正天皇 | |||||
---|---|---|---|---|---|
จักรพรรดิญี่ปุ่น | |||||
ครองราชย์ | ค.ศ. 406 – 410 (ตามธรรมเนียม)[1] | ||||
ก่อนหน้า | ริจู | ||||
ถัดไป | อิงเงียว | ||||
ประสูติ | ค.ศ. 352[2][3] | ||||
สวรรคต | 410 (อายุ 59–60)[a] | ||||
ฝังพระศพ | โมซุ โนะ มิมิฮาระ โนะ คิตะ โนะ มิซาซางิ (ญี่ปุ่น: 百舌鳥耳原北陵; โรมาจิ: Mozu no Mimihara no Kita no misasagi; โอซากะ) | ||||
พระราชบุตร |
| ||||
| |||||
ราชสกุล | ราชวงศ์ญี่ปุ่น | ||||
พระราชบิดา | จักรพรรดินินโตกุ | ||||
พระราชมารดา | อิวาโนะ-ฮิเมะ[6] | ||||
ศาสนา | ชินโต |
ฮันเซสวรรคตในช่วง ค.ศ. 410 โดยไม่ได้แต่งตั้งรัชทายาท ทำให้บรรดาเสนาบดีต้องแต่งตั้งผู้สืบทอดตำแหน่ง นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่ให้ข้อสรุปว่าตำแหน่ง "จักรพรรดิ" กับพระนาม "ฮันเซ" เป็นพระนามที่คนรุ่นหลังตั้งให้เพื่ออธิบายถึงพระองค์ และยังมีความเห็นพ้องกันทั่วไปเกี่ยวกับการมีตัวตนตามข้อเท็จจริงของฮันเซ[b]
เรื่องราวยุคกึ่งก่อนประวัติศาสตร์
แก้ในคิกิบันทึกไว้ว่าฮันเซเสด็จพระราชสมภพจากเจ้าหญิงอิวะ (ญี่ปุ่น: 磐之媛命; โรมาจิ: Iwa no hime no Mikoto) ในช่วง ค.ศ. 352 และได้รับพระราชทานนามว่า มิซูฮาวาเกะ (ญี่ปุ่น: 瑞歯別; โรมาจิ: Mizuhawake)[4][6] โดยเป็นพระราชโอรสองค์ที่สามในจักรพรรดินินโตกุ และพระอนุชาในจักรพรรดิริจู วลี มิซุ ฮะ ในพระนาม มิซูฮาวาเกะ แปลว่า พระทนต์งาม เนื่องจากกล่าวกันว่าพระองค์มี "พระทนต์ใหญ่พิเศษ" ที่สวยงาม "ดั่งกระดูกชิ้นเดียว" และมีขนาดเท่ากันหมด[4] ข้อมูลจากโคจิกิแห่งเดียวอ้างความสูงเต็มที่ของจักรพรรดิฮันเซที่ 9 ft 2.5 in (2.81 m)[5][9] หลังนินโตกุสวรรคตไม่นาน เจ้าชายซูมิโนเอะ โนะ นากัตสึ (ญี่ปุ่น: 住吉仲皇子) พระเชษฐา พยายามลอบปลงพระชนม์ เจ้าชายโอเอโนอิซาโฮวาเกะ (ญี่ปุ่น: 大兄去来穂別尊; ริจู) พระเชษฐาองค์โต มิซูฮาวาเกะสามารถติดสินบนบริวารคนหนึ่งของนากัตสึให้สังหารตัวนากัตสึเพื่อพิสูจน์ความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิในอนาคต
นิฮงโชกิรายงานว่า ริจูข้ามพระราชโอรสธิดาของตัวพระองค์เองเพื่อให้มิซูฮาวาเกะ พระอนุชาของพระองค์ เป็นมกุฎราชกุมารใน ค.ศ. 401[4][9] โดยให้เหตุผลว่าดอกทาจิฮิร่วงลงในบ่อที่ให้พระนามมิซูฮาวาเกะเป็นรัชทายาทองค์ถัดไป[4] มิซูฮาวาเกะประกาศตนเป็น "จักรพรรดิฮันเซ" หลังริจูสวรรคตใน ค.ศ. 405 และขึ้นครองราชบัลลังก์ในช่วงปีถัดมา[4] หลังขึ้นครองราชย์ไม่นาน ฮันเซให้สึโนะ-ฮิเมะ (ญี่ปุ่น: 津野媛; โรมาจิ: Tsuno-hime) เป็น "พระสนมเอก" และ โอโตะ-ฮิเมะ (ญี่ปุ่น: 弟媛; โรมาจิ: Oto-hime) พระกนิษฐภคินี เป็นพระมเหสี[4] จักรพรรดินีสองพระนางให้กำเนิดพระราชโอรสธิดารวม 4 พระองค์ แบ่งเป็นพระราชโอรส 2 พระองค์ และพระราชธิดา 2 พระองค์[10] ในรัชสมัยจักรพรรดิฮันเซ พระองคฺปกครองจากพระราชวังชิบางากิ โนะ มิยะที่ทาจิฮิในแคว้นคาวาจิ (ปัจจุบันอยู่ที่มัตสึบาระ จังหวัดโอซากะ)[10] ในช่วง 5 ปีพบเจอแต่ความสงบ[4] จนกระทั่งจักรพรรดิฮันเซสวรรคตอย่างสงบในพระราชวังช่วง ค.ศ. 410 โดยไม่ได้แต่งตั้งรัชทายาท (มกุฎราชกุมาร)[4] บรรดาเสนาบดีแก้ปัญหานี้ในภายหลังด้วยการเลือกอิงเงียว พระราชโอรสองค์เล็กสุดของจักรพรรดินินโตกุ ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ถัดไป[9][11]
การประเมินทางประวัติศาสตร์
แก้นักประวัติศาสตร์จัดให้ฮันเซเป็นผู้ปกครองในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 5 ที่โดยทั่วไปยอมรับถึงการมีตัวตนว่าเป็นข้อเท็จจริง[12] ฟรานซิส บริงก์ลีย์ นักวิชาการ จัดให้จักรพรรดิฮันเซอยู่ในกลุ่ม "กษัตริย์ในยุคกึ่งก่อนประวัติศาสตร์" แต่สังเกตว่ารัชสมัยอันสั้นของพระองค์ "ไม่มีความโดดเด่นในเรื่องใดเลย" ยกเว้นหลักฐานทางอ้อมที่แสดงว่าราชสำนักญี่ปุ่นเริ่มรับเอาธรรมเนียมจีนมาใช้[11]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
พระมเหสีและพระราชโอรสธิดา
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
พระราชพงศาวลี
แก้พงศาวลีของจักรพรรดิฮันเซ[13] | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
หมายเหตุ
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ "Genealogy of the Emperors of Japan" (PDF). Kunaicho.go.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ March 22, 2011. สืบค้นเมื่อ February 12, 2023.
- ↑ Kenneth Henshall (2013). Historical Dictionary of Japan to 1945. Scarecrow Press. p. 488. ISBN 9780810878723.
- ↑ Joseph Henry Longford (1923). List of Emperors: II. The Dawn of History and The great Reformers. Japan. Houghton Mifflin. p. 304.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 4.7 4.8 William George Aston (1896). "Boox XII - The Emperor Midzuhawake: (Hanzei Tenno or Hansho tenno)". Nihongi: Chronicles of Japan from the Earliest Times to A.D. 697. (Volume 1). London: Kegan Paul, Trench, Trubner. pp. 310–311.
- ↑ 5.0 5.1 Basil Hall Chamberlain (1882). "Sect. CXXXV — Emperor Han–zei". A translation of the "Kojiki" or Records of ancient matters. R. Meiklejohn and Co.
- ↑ 6.0 6.1 Ponsonby-Fane, Richard (1915). Table of Emperors Mothers. The Imperial Family of Japan. Ponsonby Memorial Society. p. xiii.
- ↑ "反正天皇 (18)". Imperial Household Agency (Kunaichō) (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ February 12, 2023.
- ↑ Titsingh, Isaac. (1834). Annales des empereurs du japon (ภาษาฝรั่งเศส). Royal Asiatic Society, Oriental Translation Fund of Great Britain and Ireland. p. 25.
- ↑ 9.0 9.1 9.2 9.3 Ponsonby-Fane, Richard (1915). Hansho (406–410). The Imperial Family of Japan. Ponsonby Memorial Society. p. 11.
- ↑ 10.0 10.1 Brown, Delmer M. and Ichirō Ishida (1979). (19) Emperor Hansho. A Translation and Study of the Gukanshō, an Interpretative History of Japan Written in 1219. University of California Press. p. 257. ISBN 9780520034600.
- ↑ 11.0 11.1 Francis Brinkley (1915). Chapter XII: The Protohistoric Sovereigns. A History of the Japanese People from the Earliest Times to the End of the Meiji Era. Encyclopædia Britannica. p. 110.
- ↑ Kelly, Charles F. "Kofun Culture". www.t-net.ne.jp. สืบค้นเมื่อ January 24, 2023.
- ↑ "Genealogy". Reichsarchiv (ภาษาญี่ปุ่น). 30 April 2010. สืบค้นเมื่อ 9 January 2021.
อ่านเพิ่ม
แก้- Aston, William George. (1896). Nihongi: Chronicles of Japan from the Earliest Times to A.D. 697. London: Kegan Paul, Trench, Trubner. OCLC 448337491
- Brown, Delmer M. and Ichirō Ishida, eds. (1979). Gukanshō: The Future and the Past. Berkeley: University of California Press. ISBN 978-0-520-03460-0; OCLC 251325323
- Ponsonby-Fane, Richard Arthur Brabazon. (1959). The Imperial House of Japan. Kyoto: Ponsonby Memorial Society. OCLC 194887
- Titsingh, Isaac. (1834). Nihon Ōdai Ichiran; ou, Annales des empereurs du Japon. Paris: Royal Asiatic Society, Oriental Translation Fund of Great Britain and Ireland. OCLC 5850691
- Varley, H. Paul. (1980). Jinnō Shōtōki: A Chronicle of Gods and Sovereigns. New York: Columbia University Press. ISBN 978-0-231-04940-5; OCLC 59145842