การโจมตีซับเวย์โตเกียวด้วยซาริน (อังกฤษ: Tokyo subway sarin attack; ญี่ปุ่น: 地下鉄サリン事件) เป็นการก่อการร้ายภายในซึ่งเกิดขึ้น ณ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1995 ผู้ก่อการ คือ สมาชิกลัทธิโอมชินริเกียวซึ่งนัดหมายกันโจมตีห้าจุดในชั่วโมงเร่งด่วน ด้วยการปล่อยสารซารินในรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทรสามขบวนที่เคลื่อนผ่านคาซูมิงาเซกิกับนางาตาโจอันเป็นที่ทำการรัฐสภาญี่ปุ่น ส่งผลให้มีผู้ตาย 13 คน[1][2][3][4] บาดเจ็บอีก 5,500 คน และสูญเสียการมองเห็นชั่วคราวอีกเกือบ 1,000 คน[5][6]

การโจมตีโตเกียวเมโทรด้วยซาริน
地下鉄サリン事件
การทำงานของเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินขณะเกิดเหตุการณ์
สถานที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
วันที่20 มีนาคม ค.ศ. 1995 (1995-03-20)
7:00–8:10 นาฬิกา (UTC+9)
เป้าหมายโตเกียวเมโทร
ประเภทการก่อการร้ายด้วยสารเคมี
อาวุธซาริน
ตาย12 ราย (ในเหตุการณ์)[1]
1 ราย (หลังการรักษาตัว)[2]
เจ็บราว 6,252  a
ผู้ก่อเหตุโอมชินริเกียว
จำนวนก่อเหตุ10
a 17 สาหัส (บางส่วนเสียชีวิตในเวลาต่อมา), 37 สาหัส, 984 ปัญหาด้านการมองเห็นชั่วคราว[1]

ลัทธิโอมชินริเกียว ซึ่งมีผู้นำคือ โชโก อาซาฮาระ เคยใช้ซารินลอบฆ่าและโจมตีบุคคลมาแล้วหลายครั้ง ในจำนวนนี้รวมถึงการโจมตีมัตสึโมโตะด้วยซารินเมื่อเก้าเดือนก่อน ลัทธิดังกล่าวยังผลิตสารหลายอย่างที่ส่งผลต่อประสาท เช่น VX และพยายามจะผลิตพิษโบทูลินัมเพื่อใช้ก่อการร้าย ลัทธิโอมชินริเกียวยังได้ลองก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพแต่ล้มเหลว ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้เนื่องจากอาซาฮาระทราบว่า ตำรวจจะบุกตรวจลัทธิของตนในวันที่ 22 มีนาคม จึงชิงโจมตีโตเกียวเมโทรในวันที่ 20 มีนาคม เพื่อเบนความสนใจของตำรวจ และอาจเพื่อเป็นชนวนไปสู่วันสิ้นโลก (apocalypse) ดังที่พวกตนเชื่อถือ ตัวอาซาฮาระเองยังประสงค์จะก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สามด้วย

หลังเกิดเหตุ ตำรวจบุกจับสมาชิกหลักของลัทธิได้หลายคน ตำรวจยังดำเนินการต่อมาตลอดฤดูร้อน ซึ่งนำไปสู่การจับกุมสมาชิกลัทธินี้กว่า 200 คน รวมถึงอาซาฮาระ ภายหลัง สมาชิกหลัก 13 คน อันรวมถึงอาซาฮาระนั้น ถูกประหารชีวิต ส่วนที่เหลืออีกหลายคนถูกจำคุกตลอดชีวิต การโจมตีครั้งนี้ยังคงเป็นเหตุก่อการร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

การโจมตี แก้

รถไฟใต้ดินสายชิโยดะ แก้

 
แผนที่แสดงการโจมตีใน Yoyogi-Uehara bound ของสายชิโยดะ

ทีมของ นพ. อิกูโอะ ฮายาชิ และ โทโมมิตสึ นีมิ ได้ก่อการปล่อยซารินในรถไฟสายชิโยดะ โดยระหว่างทางไปสถานีเซ็นดางิ นีมิได้ซื้อหนังสือพิมพ์เพื่อห่อขวดซาริน

ต่อมา นพ. ฮายาชิได้สวมหน้ากากอนามัย และโดยสารขึ้นรถไฟไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสายชิโยดะในขบวนแรก เวลา 07:48 น. รถหมายเลข A725K ทันทีที่รถเข้าจอดที่สถานีชิน-โอจาโนมิซุ ในย่านเศรษฐกิจใจกลางชิโยดะ เขาได้เจาะรูขวดซาริน และหลบหนีออกทางสถานีดังกล่าว นพ. ฮายาชิ ตัดสินใจเลือกเจาะขวดซารินในสถานีชิน-โอจาโนมิซุ แทนที่จะก่อการที่สถานีเซ็นดางิ เนื่องจากกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานีเซ็นดางิซึ่งมีผู้คนจำนวนมากกว่า จึงตัดสินใจก่อการที่สถานีชิน-โอจาโนมิซุ ซึ่งมีผู้คนเบาบาง นอกจากนี้เขายังเจาะขวดซารินเพียงขวดเดียวจากสองขวด ทั้ง นพ. ฮายาชิ และ นีมิ เป็นเพียงผู้ก่อการสองคนที่ไม่ได้เดินทางกลับศูนย์ลัทธิ ต่างจากผู้ก่อการที่เหลือทั้งหมด

ขวดดังกล่าวถูกนำไปกำจัดหลังรถไฟเดินรถไปได้ 4 สถานี ที่สถานีคาซูมิงาเซกิ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำไปกำจัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเสียชีวิตในเวลาต่อมาสองราย หลังรถออกจากสถานีคาซูมิงาเซกิ รถได้ไปจอดในสถานีถัดไปเพื่อทำความสะอาด และอพยพผู้โดยสารไปยังที่ปลอดภัย

ในปัจจุบัน อดีต นพ. ฮายาชิ เป็นผู้ก่อการคนเดียวที่ไม่ถูกโทษประหารชีวิต โดยได้ลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิตเพราะให้การป็นประโยชน์ต่อการจับกุมสมาชิกของลัทธิหลังเหตุการณ์สงบ

รถไฟใต้ดินสายมารุโนชิ แก้

รถไฟใต้ดินสายฮิบิยะ แก้

โทรุ โทยาดะ และ คัตสึยะ ทากาฮาชิ คือผู้ก่อการในรถไฟใต้ดินสายฮิบิยะ

โทยาดะเดินทางถึงสถานีนากาเมงูโระ และโดยสารขึ้นรถขบวนแรกเมื่อเวลา 07:59 น. บนรถหมายเลข B711T เขาเลือกนั่งที่นั่งติดประตู และกระทำการเจาะขวดซารินเมื่อรถเข้าจอดที่สถานีรถไฟเอบิซุ รวมเวลาที่เขาอยู่บนรถทั้งหมดเพียงสองนาที ถือเป็นการโจมตีที่เร็วที่สุดในบรรดาเหตุการณ์ทั้งหมด

หลังรถวิ่งไปได้สองสถานี ที่สถานีรถไฟรปปงงิ ผู้โดยสารในขบวนแรกเริ่มรู้สึกถึงพิษซาริน จึงเริ่มเปิดหน้าต่างรถออก จนเมื่อถึงสถานีถัดมา ที่สถานีคามิยะโจ ผู้โดยสารในรถขบวนแรกเริ่มเกิดอาการแพนิก เจ้าหน้าที่จึงได้อพยพผู้โดยสารในขบวนแรกและส่งตัวไปยังโรงพยาบาล ก่อนจะมีการอพยพทั้งขบวนเมื่อจอดที่สถานีถัดไป ที่สถานีคาซูมิงาเซกิ สรุปส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 532 ราย

ยาซูโอะ ฮายาชิ และ ชิเงโอะ ซูกิโมโตะ กลุ่มสุดท้าย ผู้ซึ่งมีสารซารินจำนวนสามขวด ได้โจมตีสายฮิบิยะอีกช่วงหนึ่ง โดยโดยมีเป้าหมายคือสถานีคิตะเซ็นจู ไปยังสถานีนากะ-เมกูโระ

ซูกิโมโตะโดยสารรถจากสถานีรถไฟอูเอโนะ ขบวนที่สามของวัน หมายเลข A7205 ในเวลา 07:43 น. และเจาะรูขวดซารินทันทีที่รถจอดที่สถานีอากิฮาบาระ สองสถานีถัดจากอูเอโนะ และหลบหนีออกไป

เมื่อรถออกจากสถานีอากิฮาบาระและจอดที่สถานีถัดไป ผู้โดยสารเริ่มสังเกตเห็นขวดชุ่มซารินบนพื้นของรถ ทำให้มีผู้โดยสารคนหนึ่งตัดสินใจเตะขวดซารินออกไปจากรถที่สถานีโคเด็นมะโจ ส่งผลให้ผู้เสียชีวิต 4 รายในสถานีดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ยังมีซารินบางส่วนนองเจิ่งอยู่บนพื้นขบวนรถ และรถก็เดินทางต่อไปตามปกติ จนเวลาราว 8:10 น. หลังออกจากสถานีฮัตโจโบริ มีผู้โดยสารกดกริ่งฉุกเฉิน รถได้เปลี่ยนทิศการเดินรถและจอดยังสถานีรถไฟสึกิจิ ทันใดที่ผู้โดยสารออกจากขบวนรถ ส่วนหนึ่งได้ล้มลงบนพื้นสถานี และรถหยุดให้บริการทันใด

ในตอนแรกสื่อรายงานว่าเป็นเหตุระเบิดในสถานีรถไฟ หรือการวางระเบิดในขบวนรถไฟ และเจ้าหน้าที่ได้ประกาศให้สายฮิบิยะหยุดให้บริการทั้งสายในเวลา 8:35 น. และอพยพผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ออกจากทุกสถานีในสายฮิบิยะทั้งหมด รวมระยะทาง 5 สถานีที่ซารินถูกปล่อยออกมา มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บสาหัส 275 ราย

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 Amy E. Smithson and Leslie-Anne Levy (October 2000). "Chapter 3 – Rethinking the Lessons of Tokyo". Ataxia: The Chemical and Biological Terrorism Threat and the US Response (Report). Henry L. Stimson Centre. pp. 91–95, 100. Report No. 35. Retrieved 15 December 2014.
  2. 2.0 2.1 Ramesh C. Gupta (2015). Handbook of Toxicology of Chemical Warfare Agents. Academic Press. p. 27. ISBN 9780128004944. สืบค้นเมื่อ 28 July 2018.
  3. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ victimsurvey
  4. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Sachiko
  5. Pletcher, Kenneth. "Tokyo subway attack of 1995". Britannica.
  6. "Tokyo marks 15th anniversary of subway gas attack".