กระดูกเสี่ยงทาย
กระดูกเสี่ยงทาย (จีน: 甲骨; พินอิน: jiǎgǔ) เป็นชิ้นส่วนกระดูกสะบักวัวและกระดองท้องเต่าที่ใช้ในการทำนายด้วยไฟ สมัยราชวงศ์ชางของจีน ประมาณ 1600–1046 ปีก่อนคริสตกาล
กระดูกเสี่ยงทาย | |||||||||||||||||||||||||||||||
กระดูกเสี่ยงทายสมัยราชวงศ์ชาง ที่พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ | |||||||||||||||||||||||||||||||
ภาษาจีน | 甲骨 | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ความหมายตามตัวอักษร | กระดองและกระดูก | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
แม้กระดูกเสี่ยงทายมีที่มาจากราชวงศ์ชาง แต่มีการขุดพบกระดองเต่าที่มีตัวหนังสือภาพจากยุคหินใหม่ที่แหล่งโบราณคดีเจียหู มณฑลเหอหนาน อายุราว 6600–6200 ปีก่อนคริสตกาล[1] ตัวหนังสือภาพเหล่านี้มีลักษณะคล้ายอักษรจีนยุคหลัง และเชื่อว่าพัฒนาต่อมาเป็นการทำนายอันซับซ้อนในปลายราชวงศ์ชาง (1250–1046 ปีก่อนคริสตกาล) กระดูกและกระดองที่ใช้ในการทำนายจะถูกเตรียมด้วยการเลื่อยเป็นชิ้นและขัดให้ผิวเรียบ[2] ผู้ทำนายจะตั้งคำถามต่อเทพเจ้าเกี่ยวกับสภาพอากาศในอนาคต การเพาะปลูก ชะตาพระราชวงศ์ ปฏิบัติการทางทหาร และอื่น ๆ[3] โดยคำถามเหล่านี้จะถูกจารเป็นอักษรกระดูกเสี่ยงทายบนกระดูกและกระดองด้วยโลหะแหลม ก่อนนำไปเผาไฟจนกระทั่งกระดูกและกระดองแตก จากนั้นผู้ทำนายจะตีความรูปแบบการแตกแล้วเขียนคำทำนายลงบนชิ้นส่วน[4] การบันทึกข้อความบนกระดูกเสี่ยงทายมี 4 ขั้นตอน ได้แก่ ส่วนนำ (วันที่ ชื่อผู้ทำนาย และชื่อผู้ตั้งคำถาม), คำถาม (หัวข้อของคำถาม และคำถามเฉพาะ), คำทำนายที่ได้จากการตีความรอยแตก และการยืนยัน (การบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังการทำนาย)[5] อย่างไรก็ตามกระดูกที่มีบันทึกครบทั้ง 4 ขั้นตอนพบได้ยาก กระดูกส่วนใหญ่ที่พบมักมีเพียงส่วนนำ คำถาม และคำทำนาย[6] การทำนายโดยใช้กระดูกเผาไฟสืบทอดต่อมาในราชวงศ์โจว แต่การจารึกคำถามและคำทำนายถูกแทนที่ด้วยการวาดด้วยพู่กันและหมึกซินนาบาร์ ทำให้ข้อความลบเลือนเมื่อเวลาผ่านไป
กระดูกเสี่ยงทายเป็นคลังข้อมูลสำคัญแรกสุดของการเขียนภาษาจีนด้วยอักษรจีนยุคแรก ข้อความบนกระดูกเสี่ยงทายมีตัวอักษรที่แตกต่างกันราว 5,000 ตัวอักษร[7] แม้จะมีเพียง 1,200 ตัวอักษรที่ได้รับการจำแนกอย่างชัดเจน[8] กระดูกเสี่ยงทายให้ข้อมูลสำคัญช่วงปลายราชวงศ์ชาง และนักวิชาการจำลองลำดับราชวงศ์ชางจากข้อความบนกระดูกเหล่านี้[9] มีการขุดพบกระดูกเสี่ยงทายจากราชวงศ์ชางเป็นระยะ ๆ มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถัง และอาจพบครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ฮั่น[10] ล่วงถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 หวัง อี้หรง ประธานสถาบันกัวจื่อเจี้ยนเป็นบุคคลแรกที่พบว่าอักษรกระดูกเสี่ยงทายเป็นรูปแบบการเขียนภาษาจีนยุคแรก[11] ต่อมาในคริสต์ทศวรรษ 1910 เจมส์ เมลลอน เมนซีส์ มิชชันนารีชาวแคนาดาทำการถอดความหมาย และสรุปว่ากระดูกเสี่ยงทายเป็นบันทึกคำทำนายในสมัยราชวงศ์ชาง[12][13] การค้นพบและการถอดความหมายกระดูกเสี่ยงทายช่วยยืนยันการมีอยู่ของราชวงศ์ชาง ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นข้อถกเถียงในวงวิชาการ
อ้างอิง
แก้- ↑ Hirst, K. Kris (26 กรกฎาคม 2018). "Oracle Bones: Predicting the Future in Shang, China". ThoughtCo. สืบค้นเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2021.
- ↑ Xu 2002, p. 24.
- ↑ Keightley 1978a, pp. 33–35.
- ↑ Keightley 1978a, pp. 40–42.
- ↑ Mark, Emily (26 กุมภาพันธ์ 2016). "Oracle Bones". World History Encyclopedia. สืบค้นเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2021.
- ↑ Xu 2002, p. 30.
- ↑ Qiu 2000, p. 49.
- ↑ Wilkinson 2013, p. 684.
- ↑ Keightley 1978a, pp. xiii, 185–187.
- ↑ Chou 1976, p. 1, citing Wei, Juxian (1939). "Qín-Hàn shi fāxiàn jiǎgǔwén shuō". in Shuōwén Yuè Kān. 1 (4) และ He, Tianxing (1940). "Jiǎgǔwén yi xianyu gǔdài shuō". in Xueshu (Shànghǎi). no. 1.
- ↑ Wilkinson, Endymion (2000). Chinese history: a manual (2nd ed.). Harvard Univ Asia Center. p. 391. ISBN 978-0-674-00249-4.
- ↑ Wu, Paul (22 สิงหาคม 2019). "Missionary James Mellon Menzies, First Western Researcher of Oracle Bone Inscriptions". The China Christian Daily. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2021. สืบค้นเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2021.
- ↑ Menzies 1917, p. 2.
บรรณานุกรม
แก้- Chou, Hung-hsiang 周鴻翔 (1976). Oracle Bone Collections in the United States. University of California Press. ISBN 0-520-09534-0.
- Keightley, David N. (1978a). Sources of Shang history : the oracle-bone inscriptions of Bronze Age China. Berkeley: University of California Press. ISBN 0-520-02969-0.
- Menzies, James M. (1917). Oracle Records from the Waste of Yin (microform). Shanghai: Kelly & Walsh. ISBN 0-659-90806-9.
- Qiu, Xigui (2000). Chinese writing (Wenzixue gaiyao). Transl. by Gilbert L. Mattos and Jerry Norman. Berkeley: Society for the Study of Early China. ISBN 1-55729-071-7.
- Wilkinson, Endymion (2013). Chinese History: A New Manual (4th ed.). Cambridge, MA: Harvard University Asia Center. ISBN 978-0-674-06715-8.
- Xu, Yahui (許雅惠 Hsu Ya-huei) (2002). Ancient Chinese Writing, Oracle Bone Inscriptions from the Ruins of Yin. English translation by Mark Caltonhill and Jeff Moser. Taipei: National Palace Museum. ISBN 978-957-562-420-0.
Illustrated guide to the Special Exhibition of Oracle Bone Inscriptions from the Institute of History and Philology, Academia Sinica. Govt. Publ. No. 1009100250
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Oracle bones, United College Library, Chinese University of Hong Kong. รวมชิ้นส่วนจารึก 45 ชิ้น
- Oracle Bone Collection เก็บถาวร 2017-06-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Institute of History and Philology, Taipei City.
- High-resolution digital images of oracle bones, Cambridge Digital Library.
- Couling-Chalfant oracle bone collection 甲骨 เก็บถาวร 2023-05-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (Or 7694/1506–2125), British Library.
- Yīnxū shūqì 殷虛書契 โดย Luo Zhenyu – สิ่งสะสมของสำเนาหรือชิ้นส่วนกระดูกเสี่ยงทาย
- Guījiǎ shòugǔ wénzì 龜甲獸骨文字 โดย Hayashi Taisuke – สิ่งสะสมของสำเนาอื่น
- 四方风 or Winds of the Four Directions World Digital Library. National Library of China.
- Katherine Brunson, Zhipeng Li, Rowan Flad (4 เมษายน 2016). "Oracle Bones in East Asia". Open Context. doi:10.6078/M74B2Z7J.