ชาลส์ เทรเวเลียน บารอเนตที่ 1
ชาลส์ เทรเวเลียน บารอเนตที่ 1 (อังกฤษ: ’’Charles Trevelyan, 1st Baronet’’; 2 เมษายน ค.ศ. 1807 - 19 มิถุนายน ค.ศ. 1886) ชาลส์ เทรเวเลียนข้าราชการชาวอังกฤษและข้าหลวงแห่งมัทราส
ชาลส์ เทรเวเลียน บารอเนตที่ 1 Charles Trevelyan, 1st Baronet | |
---|---|
ชาลส์ เทรเวเลียน ราวคริสต์ทศวรรษ 1840 | |
เกิด | 2 เมษายน ค.ศ. 1807 |
อสัญกรรม | 19 มิถุนายน ค.ศ. 1886 |
บรรดาศักดิ์ | ขุนนางอังกฤษ |
ขุนนางอังกฤษ - กษัตริย์อังกฤษ - ชาวอังกฤษ |
เทรเวเลียนผู้ที่ถือกำเนิดที่ทอนทันในมณฑลซัมเมอร์เซ็ทเป็นบุตรของจอร์จ เทรเวเลียนอาร์คดีคอนแห่งทอนทัน และ ภรรยาแฮร์เรียต ในคริสต์ทศวรรษ 1830 เทรเวเลียนทำงานที่โกลกาตาในบริติชราชและมีบทบาทในด้านการศึกษา
ระหว่างปี ค.ศ. 1840 ถึงปี ค.ศ. 1859 เทรเวเลียนมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ระหว่างทั้งวิกฤติการณ์ความอดอยากครั้งใหญ่ในไอร์แลนด์ และ ความอดอยากมันฝรั่งในสกอตแลนด์ ที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1846 ถึงปี ค.ศ. 1857 ในไอร์แลนด์เทรเวเลียนมีความรับผิดชอบในการบริหารโครงการบรรเทาภาวะการขาดแคลนอาหาร ส่วนในสกอตแลนด์เทรเวเลียนมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับงานของคณะกรรมการกลางเพื่อการบรรเทาทุกข์ในสกอตแลนด์ ความขาดประสิทธิภาพและทัศนคติส่วนตัวของเทรเวเลียนที่มีต่อชาวไอร์แลนด์เชื่อกันว่าเป็นสาเหตุที่ส่งผลให้ปัญหาที่เกิดขึ้นร้ายแรงกว่าที่ควรจะเป็น[1] ในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีเทรเวเลียนมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการบริหารโครงการบรรเทาทุกข์ของรัฐบาลเพื่อผู้ประสบความยากเข็ญระหว่างภาวะความอดอยากของคริสต์ทศวรรษ 1840 ระหว่างวิกฤติการณ์เทรเวเลียนตีพิมพ์บทความที่แสดงถึงทัศนคติของตนต่อเหตุการณ์ที่มีต่อเกิดขึ้น เทรเวเลียนมีความเห็นว่าความอดอยากเป็น “เครื่องมือในการลดจำนวนประชากรที่เกินไปจากปกติ” และบรรยายภาวะดังกล่าวว่าเป็น “การตัดสินของพระเจ้าในการส่งความภัยพิบัติลงมาเพื่อสั่งสอนชาวไอริชให้ได้รับบทเรียน …ตัวปัญหาที่แท้จริงที่เราจะต้องแก้มิใช่ความเลวร้ายของความอดอยาก แต่เป็นความเลวร้ายทางจริยธรรมของลักษณะของประชาชนที่เห็นแก่ตัว, นอกลู่นอกทาง และขาดความสงบ”[2] ในจดหมายอีกฉบับหนึ่งลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1846 เทรเวเลียนกล่าวว่า “การแก้ปัญหาของรัฐบาลต้องดำเนินต่อไปโดยให้มีผลกระทบกระเทือนต่อกิจการธุรกิจอันเป็นปกติของเอกชนให้น้อยที่สุด ที่ควรจะเป็นวิธีหารายได้หลักในการดำรงชีวิตของประชาชน แต่จะอย่างไรก็ตามประชาชนจะไม่ต้องถูกทอดทิ้งให้อดตาย[3] เมื่อจะอดตายก็ควรจะสร้างความยุ่งยากให้แก่การค้าขายของเอกชนให้น้อยที่สุด”
อ้างอิง
แก้- ↑ Cecil Woodham-Smith, 1962. The Great Hunger
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-18. สืบค้นเมื่อ 2010-05-22.
- ↑ Austin Bourke's "Apologia for a dead civil servant, from The Irish Times 5-6 May 1977.
- http://www.bbc.co.uk/history/historic_figures/trevelyan_charles.shtml - BBC History profile
- http://www.irelandforvisitors.com/articles/black_47.htm เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Article on the Irish famine
- http://multitext.ucc.ie/d/Charles_Edward_Trevelyan เก็บถาวร 2014-05-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Cork Multitext Project article on Trevelyan
- Chambers Biographical Dictionary, 1990, ISBN 0-550-16040-X
- แม่แบบ:Rayment-b
- This article incorporates text from a publication now in the public domain: Dictionary of National Biography (ภาษาอังกฤษ). London: Smith, Elder & Co. 1885–1900.
{{cite encyclopedia}}
:|title=
ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)