เตะแหลกแล้วแหกค่าย

(เปลี่ยนทางจาก Escape to Victory)

Escape to Victory หรือ Victory เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับฟุตบอล และสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2524 ฉายในประเทศไทยใช้ชื่อว่า เตะแหลกแล้วแหกค่าย กำกับโดยจอห์น ฮุสตัน นำแสดงโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ไมเคิล เคน และนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลกอีกหลายคน เช่น บอบบี มัวร์ กัปตันทีมชาติอังกฤษ, เปเล่ นักฟุตบอลทีมชาติบราซิล, ออสวัลโด อาร์ดิเลส นักฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา และคาซิมีร์ซ เดย์นา นักฟุตบอลทีมชาติโปแลนด์ ร่วมกับนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงอีกหลายคน จากสโมสรฟุตบอลอิปสวิชทาวน์ ซึ่งเป็นรองแชมป์ดิวิชั่น 1 ของอังกฤษ (ปัจจุบันคือ เอฟเอพรีเมียร์ลีก) ในปีที่มีการถ่ายทำ

เตะแหลกแล้วแหกค่าย
กำกับจอห์น ฮุสตัน
นักแสดงนำซิลเวสเตอร์ สตอลโลน
ไมเคิล เคน
แมกซ์ ฟอน ซีโดว์
เปเล่
กำกับภาพเจอร์รี ฟิชเชอร์
ดนตรีประกอบบิล คอนติ
ผู้จัดจำหน่ายพาราเมาท์พิกเจอร์
วันฉาย30 กรกฎาคม ค.ศ. 1981
ความยาว110 นาที
ภาษาภาษาอังกฤษ
ข้อมูลจาก All Movie Guide
ข้อมูลจาก IMDb

ภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยนำมาออกอากาศฉายทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ เป็นหนังเก่าปี 2524 ในชวงรายการหนัง "บิ๊กซีนีม่า โปรแกรมเพชรหนังพันล้าน" ตอนเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืน วันเสาร์

เรื่องย่อ แก้

ภาพยนตร์กล่าวถึงการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร ระหว่างทีมเยอรมัน กับทีมรวมนักฟุตบอลชาติยุโรป ที่ตกเป็นเชลยอยู่ในค่ายกักกัน ในตินแดนยึดครองของนาซีเยอรมัน โดยระหว่างการแข่งขันฝ่ายเยอรมันได้เปรียบฝ่ายพันธมิตรอย่างมาก ทั้งจากการเล่นตุกติก และจากความช่วยเหลือของกรรมการ จนทำให้มีคะแนนนำในครึ่งแรกถึง 4-1

ในระหว่างพักครึ่ง โดยความช่วยเหลือจากสายลับ ที่วางแผนล่วงหน้าโดยการขุดอุโมงค์ใต้ดินจนมาถึงห้องพักนักกีฬา นักฟุตบอลทั้งทีมมีโอกาสที่จะหลบหนี แต่แล้วทั้งทีมก็ตัดสินใจที่จะลงไปเล่นต่อในครึ่งหลัง เพื่อที่จะลงไปเล่นต่อให้จบเกมอย่างสมศักดิ์ศรี แทนที่จะหนีไปโดยที่ผลคะแนนในเกมเป็นฝ่ายแพ้อยู่

ก่อนจะหมดเวลา เปเล่ได้ขอลงเล่นทั้งที่มีอาการบาดเจ็บ และยิงประตูตีเสมอ 4-4 ให้กับทีมรวมนักฟุตบอลได้ และยิงประตูชัยชนะ 4-5 ด้วยท่าจักรยานอากาศ แต่ผู้ตัดสินประกาศให้เป็นลูกล้ำหน้า ท่ามกลางเสียงโห่ร้องคัดค้านของผู้ชมทั้งสนาม

ช่วงสุดท้ายของเกม ทีมเยอรมันมีโอกาสได้ชัยชนะจากการยิงลูกโทษ แต่ผู้รักษาประตูรับไว้ได้ ผลการเล่นเสมอกัน 4-4 แต่ผู้ชมทั้งสนามโห่ร้องด้วยความยินดี (เนื่องจากถือว่า ประตูที่กรรมการตัดสินไม่ให้ประตูนั้น เป็นลูกที่ได้ประตู และถือว่า เยอรมันเป็นฝ่ายแพ้ 4-5) ผู้ชมวิ่งฮือลงไปจนเต็มสนาม และอาศัยความชุลมุนช่วยกันพรางตัว ให้นักฟุตบอลทีมรวม เปลี่ยนเสื้อผ้าและหลบหนีไปได้ในที่สุด

โครงเรื่อง แก้

บทภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ฮังการี ที่ออกฉายในปี ค.ศ. 1962 เรื่อง Két félidő a pokolban ("Two half-times in Hell") ซึ่งดัดแปลงมาจากเรื่องจริงที่เกิดกับทีมฟุตบอล ดินาโมเคียฟ ทีมอันดับหนึ่งของยูเครน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง กับการแข่งขันนัดที่เรียกว่า "นัดแห่งความตาย" (The Death Match) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1942 [1] ขณะนั้นนาซีเยอรมันยึดครองรัสเซีย และจัดการแข่งขันโดยสั่งให้ทีมดินาโมเคียฟยอมแพ้แก่ทีมเยอรมัน แต่นักฟุตบอลเลือกที่จะสู้อย่างเต็มที่ จนชนะ 5-3 และชนะ 8-0 ในการแข่งขันซ้ำในสัปดาห์ถัดมา

หลังการแข่งขัน นักฟุตบอลทีมดินาโมเคียฟถูกส่งเข้าค่ายกักกัน และทรมานจนเสียชีวิตเกือบทั้งทีม [2]

การตอบรับ แก้

ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เนื่องจากออกฉายในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก 1982 ที่ประเทศสเปน ซึ่งจัดการแข่งขันในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม พ.ศ. 2525 โดยนักเตะที่ร่วมแสดงในเรื่อง มี่ 3 คนที่เคยร่วมทีมชาติที่ได้แชมป์โลก คือ บอบบี มัวร์ (อังกฤษ, แชมป์ฟุตบอลโลก 1966), เปเล่ (บราซิล, แชมป์ฟุตบอลโลก 1958, 1962, 1970) และ ออสวัลโด อาร์ดิเลส (อาร์เจนตินา แชมป์ฟุตบอลโลก 1978) นอกจากนี้ยังมี คาซิมีร์ซ เดย์นา (โปแลนด์, ที่ 3 ฟุตบอลโลก 1974)

อ้างอิง แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้