โอม มณี ปัทเม หูม
โอม มณิ ปัทเม หูม (Oṃ maṇi padme hūṃ;[1] สันสกฤต: ॐ मणि पद्मे हूँ, สัทอักษรสากล: [õːː mɐɳɪ pɐdmeː ɦũː], ทิเบต: ཨོཾ་མ་ཎི་པདྨེ་ཧཱུྃ, ไวลี: oM ma Ni pad+me hU~M, จีน: 唵嘛呢叭咪吽; พินอิน: Ōng mā nī bēi mēi hōng) หรือในเอกสารไทยนิยมใช้ โอม มณี ปัทเม หูม[2] หรือ โอม มา นี แปะ หมี่ ฮง ตามการอ่านทับศัพท์ภาษาจีนแต้จิ๋ว เป็นมนตร์หกพยางค์ในภาษาสันสกฤต ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นพิเศษกับพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา พระษฑักษรี ปางสี่กร ปรากฏการใช้ครั้งแรกในคัมภีร์ของมหายาน การัณฑวยูหสูตร ซึ่งเรียกมนตร์นี้ในชื่อ ษฑกฺษร ("หกพยางค์") และ บรมหฤทัย ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร[3] ในคัมภีร์นี้มองว่ามนตร์นี้เป็นเหมือนรูปย่นย่อของคำสอนทั้งปวงในพุทธศาสนา[4]



คำแปลแท้จริงและความสำคัญของมนตร์นี้ยังเป็นที่พูดถึงโดยมากในบรรดานักวิชาการพุทธศาสนา คำแปลตรงตัวในภาษาอังกฤษมีแปลไว้ว่า "ขอบูชาแด่แก้วมณีในดอกบัว"[5] หรือในรูปกล่าวประกาศที่อาจแปลว่า "ข้าพเจ้าในแก้วมณี-ดอกบัว"[6] ในขณะที่ในภาษาไทยมีการแปลไว้ว่า "โอม แก้วมณีในดอกบัว"[2] มนตร์นี้ประกอบด้วยคำว่า ปัทม แปลว่าดอกบัวอินเดีย (Nelumbo nucifera) กับ มณี ซึ่งในศาสนาพุทธนิยมใช้เรียกมณีทางจิตวิญญาณหรือจินตมณี[7] ส่วนคำนำว่า โอม เป็นพยางค์ศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาอินเดีย และ หูม ใช้แทนดวงวิญญาณแห่งการตรัสรู้[8]
ในศาสนาพุทธแบบทิเบต มนตร์นี้เป็นมนตร์ที่มีสวดกันทั่วไปที่สุด ทั้งในฆราวาสและสงฆ์ นอกจากนี้ยังปรากฏในฐานะส่วนหนึ่งของทิวทัศน์ที่พบได้ในทิเบต ในรูปของหินมณี หรือใสธงมนตร์กับกงล้อมนตร์[9]
นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ซึ่งมีการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างชาวพุทธในจีน ทิเบต และมองโกเลียมากขึ้น มนตร์นี้ได้เข้ามาสู่ศาสนาพุทธแบบจีน[10] รวมถึงถูกนำไปประยุกต์ใช้ในลัทธิเต๋าของจีน[11]
อ้างอิง
แก้- ↑ Pronunciation of the mantra as chanted by a Tibetan: Wave Format เก็บถาวร 2015-09-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน and Real Audio Format เก็บถาวร 2013-09-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.[ลิงก์เสีย]
- ↑ 2.0 2.1 ถอดความจาก คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง (2022-05-08). "แก้วมณีแห่งความกรุณาในใจ: เพราะเราทุกคนคืออวโลกิเตศวร". วัชรสิทธา.
- ↑ Studholme (2002), p. 67.
- ↑ Studholme (2002), p. 72.
- ↑ Grossman, Carrie
- ↑ Alexander Studholme, The Origins of Om Manipadme Hum: A Study of the Karandavyuha Sutra, SUNY, 2002, p. 117
- ↑ Essential Buddhism, A Complete Guide to Beliefs and Practices, p. 126, Jack Maguire, 2013
- ↑ "Mantras associated with Avalokiteshvara (aka Quan Yin, Chenrezig) in Siddham, Tibetan (Uchen), Ranajana (Lantsa), Elvish, and Klingon". สืบค้นเมื่อ 13 October 2015.
- ↑ Studholme (2002), p. 2.
- ↑ Orzech et al. (2011), p. 527.
- ↑ Jackowicz, Steve, Om Mani Padme Hum in Daoist Revision, Journal of Daoist Studies, University of Hawai'i Press, Volume 6, 2013 pp. 203-210 10.1353/dao.2013.0009
บรรณานุกรม
แก้- Teachings from the Mani retreat, Chenrezig Institute, December 2000 (2001) by Lama Zopa Rinpoche, ISBN 978-1-891868-10-8, Lama Yeshe Wisdom Archive downloadable
- Bucknell, Roderick & Stuart-Fox, Martin (1986). The Twilight Language: Explorations in Buddhist Meditation and Symbolism. Curzon Press: London. ISBN 0-312-82540-4
- Lopez, Donald (1998). Prisoners of Shangri-La: Tibetan Buddhism and the West. University of Chicago Press: Chicago. ISBN 0-226-49311-3.