เรือดำน้ำญี่ปุ่น อิ-58 (ค.ศ. 1943)
อิ-58 (อังกฤษ: I-58) เป็นเรือดำน้ำลาดตระเวน[2] แบบบี3 ของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น ความสำเร็จที่สำคัญในช่วงสงครามเพียงอย่างเดียวของเรือคือการโจมตีด้วยตอร์ปิโดต่อ ยูเอสเอส อินเดียแนโพลิส เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 เรือได้รับการดัดแปลงให้บรรทุกตอร์ปิโดที่มีคนขับ ไคเต็น ทำการโจมตีหลายครั้งซึ่งสร้างความเสียหายเล็กน้อย เรือดำน้ำลำดังกล่าวยอมจำนนในเดือนกันยายน ค.ศ. 1945 และในเวลาต่อมาได้ถูกทําการจมโดยกองทัพเรือสหรัฐ[3]
![]() อิ-58 ในปี ค.ศ. 1944
| |
ประวัติ | |
---|---|
![]() | |
ชื่อ | อิ-58 |
อู่เรือ | อู่ทหารเรือโยโกซูกะ |
ปล่อยเรือ | 26 ธันวาคม ค.ศ. 1942 |
เดินเรือแรก | 9 ตุลาคม ค.ศ. 1943 |
สร้างเสร็จ | 7 กันยายน ค.ศ. 1944 |
ความเป็นไป | ถูกทําการจมในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1946 |
ลักษณะเฉพาะ [1] | |
ชั้น: | เรือดำน้ำแบบบี3 |
ขนาด (ระวางขับน้ำ): |
|
ความยาว: | 108.7 เมตร |
ความกว้าง: | 9.3 เมตร |
กินน้ำลึก: | 5.18 เมตร |
ระบบขับเคลื่อน: |
|
ความเร็ว: |
|
พิสัยเชื้อเพลิง: |
|
ทดสอบความลึก: | 100 เมตร |
จำนวนเรือและอากาศยาน: | ตอร์ปิโดมนุษย์ ไคเต็น 6 ลำ[2] |
อัตราเต็มที่: | 94 นาย |
ยุทโธปกรณ์: |
|
อากาศยาน: | เครื่องบินทุ่นลอยน้ำ 1 ลำ |
อุปกรณ์สนับสนุนการบิน: | โรงเก็บเครื่องบินและเครื่องปล่อยตัวสำหรับเครื่องบินทุ่นลอยน้ำ |
การออกปฏิบัติการ
แก้ปฏิบัติการเท็งโง
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การจมเรืออินเดียแนโพลิส
แก้วันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 เรือดำน้ำญี่ปุ่น อิ-58 ได้ยิงตอร์ปิโดใส่ ยูเอสเอส อินเดียแนโพลิส ส่งผลให้เรืออินเดียแนโพลิสจมลงใน 12 นาที ด้วยจำนวนลูกเรือกว่า 1,196 คน และประมาณ 300 คน จมลงพร้อมไปกับเรือ ในขณะที่ลูกเรือ 900 คนที่รอดชีวิตต้องเผชิญหน้ากับสภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำเกินไป การขาดน้ำ การถูกพิษจากน้ำเค็ม และการโจมตีจากฉลาม ขณะที่กำลังลอยด้วยเรือชูชีพและเกือบจะไม่มีอาหารและน้ำ ทหารเรือเรียนรู้การใช้ชีวิตหลังจากการจมจนกระทั่งพวกเขาถูกช่วยชีวิตใน 4 วันต่อมาโดยลูกเรือของเครื่องบินรบเวนทูรา (PV-1 Ventura) ในระหว่างการตรวจตราในหน้าที่ มีเพียงทหารเรือ 317 คน ที่รอดชีวิต
โจมตีกองเรือกลุ่ม 75.19
แก้วันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เรือดำน้ำญี่ปุ่น อิ-58 ได้ปะทะกับหน่วยล่าเรือดำน้ำนำโดยเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส ซาลามาอัว และเรือพิฆาตคุ้มกัน ยูเอสเอส จอห์นนีฮัทชินส์ ที่บรรทุกทุ่นระเบิดสำหรับกำจัดเรือดำน้ำ โดย อิ-58 ได้ปล่อยไคเต็นเบอร์ 4 และ ไคเต็นเบอร์ 5 ทั้งคู่ได้ถูกปืนของจอห์นนีฮัทชินส์ ยิงจนไคเต็นเบอร์ 5 ระเบิด แต่หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง ไคเต็นเบอร์ 4 ได้โผล่มาทำการพุ่งโจมตีอย่างจังส่งผลให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ฮาชิโมโตะกล่าวว่า เรือพิฆาตที่สังเกตเห็นก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว เขาจึงมุ่งหน้าไปทางเหนือเพื่อหลบหนีการไล่ล่า ต่อมาลูกเรือของเรือจอห์นนีฮัทชินส์ได้รับรางวัลชมเชย
โจมตีเรือโอ๊ค ฮิลล์ และ เรือโทมัส เอฟ. นิกเกิล
แก้วันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เรือดำน้ำญี่ปุ่น อิ-58 ได้ตรวจพบเรือยกพลขึ้นบกโอ๊ค ฮิลล์ และเรือคุ้มกัน โทมัส เอฟ. นิกเกิล โดยเรือโอ๊ค ฮิลล์ ได้ตรวจพบ อิ-58 ก่อน จึงทำให้มีการต่อสู้กันโดยที่เรือโอ๊ค ฮิลล์ ก็โดนไคเต็นเล่นงานไปจนเสียหาย แต่ทาง อิ-58 ก็โดนเรือ โทมัส เอฟ. นิกเกิล เล่นงานกลับอย่างดุเดือด ซึ่งผลสุดท้ายคือไม่มีฝ่ายไหนจม
จุดสิ้นสุดของสงคราม
แก้วันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เรือดำน้ำญี่ปุ่น อิ-58 ได้กลับไปที่ญี่ปุ่น ต่อมาวันที่ 2 กันยายน ญี่ปุ่นยอมแพ้ หลังจากนั้นในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1946 อิ-58 ได้ถูกทําการจมลงสู่ก้นทะเล
การค้นพบซากเรือ
แก้วันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 ได้มีการค้นพบซากเรือดำน้ำยาว 60 เมตร ใต้ทะเลลึก 200 เมตร[4] และได้รับการยืนยันว่าเป็น อิ-58 ในวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2017[5]
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ Polmar & Carpenter 1986, p. 108
- ↑ 2.0 2.1 Jentschura 1977, p. 176
- ↑ Bob Hackett and Sander Kingsepp (2008). "Submarine I-58 : Tabular Record of Movement". combinedfleet.com. สืบค้นเมื่อ 18 September 2010.
- ↑ "Wartime sub stands tall on seabed off Nagasaki:The Asahi Shimbun". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 April 2018. สืบค้นเมื่อ 15 April 2018.
- ↑ "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-09. สืบค้นเมื่อ 2017-09-08.
{{cite web}}
: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)