เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด

เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด (ญี่ปุ่น: ザ・ハウス・オブ・ザ・デッドシリーズ; อังกฤษ: The House of the Dead) เป็นแฟรนไชส์วิดีโอเกมประเภทเกมยิงที่ไม่ต้องเดินแนวสยองขวัญที่สร้างโดยเซกาในปี ค.ศ. 1996 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในระบบอาร์เคดโดยใช้ไลต์กันกับแพลตฟอร์ม แต่สามารถเล่นด้วยคอนโทรลเลอร์มาตรฐานกับเครื่องเกมคอนโซล และเมาส์หรือคีย์บอร์ดกับคอมพิวเตอร์ที่บ้านได้ สำหรับภาค III และ 4 ของเพลย์สเตชัน เน็ตเวิร์ก นั้น สามารถเล่นได้โดยใช้คอนโทรลเลอร์เพลย์สเตชัน มูฟ

เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด
โลโก้ของเกมภาคแรกและเกมภาคสอง รวมถึงการปรากฏตัวในเกมอื่น ๆ ส่วนภาคต่อมามีโลโก้และสไตล์ของตัวเอง
ประเภทเกมยิงที่ไม่ต้องเดิน
ไลต์กันชูตเตอร์
ผู้พัฒนาเซกา
วาวเอนเตอร์เทนเมนต์
ผู้จัดจำหน่ายเซกา
ระบบปฏิบัติการอาร์เคด, แซทเทิร์น, ไมโครซอฟท์ วินโดวส์, ดรีมแคสต์, เพลย์สเตชัน 2, เกมบอยอัดวานซ์, เอกซ์บอกซ์, นินเท็นโด ดีเอส, วี, เพลย์สเตชัน 3, โทรศัพท์เคลื่อนที่, สตีม, แอนดรอยด์, ไอโอเอส, นินเท็นโด สวิตช์
วางจำหน่ายครั้งแรกเดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด
ค.ศ. 1996
จำหน่ายครั้งล่าสุดเฮาส์ออฟเดอะเดด: สการ์เล็ตดอว์น
ค.ศ. 2018

จนถึงปี ค.ศ. 2018 มีเกมเดอะเฮาส์ออฟเดอะเดดในรูปแบบเกมยิงที่ไม่ต้องเดินมุมมองบุคคลที่หนึ่งมาแล้วหกเกม ซีรีส์หลักทั้งหมดมีพื้นฐานร่วมกันของสายลับคู่หนึ่งที่ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับฝูงอันเดดที่ถูกดัดแปลงทางชีววิทยา (เรียกว่า 'มนุษย์กลายพันธุ์' ในภาคโอเวอร์คิล) เกมจะแบ่งออกเป็นแต่ละตอน ซึ่งแต่ละบทจะจบลงด้วยการต่อสู้กับบอสที่มักจะเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่น่ากลัว บอสในสี่เกมแรกและเกมที่หกล้วนตั้งชื่อตามไพ่ชุดใหญ่ของไพ่ทาโรต์ลึกลับ

องค์ประกอบการเล่นเกมแตกต่างกันไปตามภาคต่าง ๆ ในซีรีส์ โดยแต่ละภาคมีตัวละคร, อาวุธปืน และประเภทของศัตรูที่แตกต่างกัน ในหลาย ๆ เกมมีเส้นทางที่แตกแขนง (กำหนดโดยการกระทำของคน ๆ หนึ่ง) และโบนัสที่ปลดล็อกได้ พร้อมกับตอนจบที่แตกต่างกันตามการกระทำของคน ๆ หนึ่ง

นอกจากนี้ ยังมีการสร้างภาคแยกไปยังโครงเรื่องหลักอีกหลายเรื่อง (รวมถึงเกมพินบอลเสมือนจริง, บทช่วยสอนภาษาอังกฤษ และแบบฝึกหัดการพิมพ์ดีด) รวมถึงภาพยนตร์สองเรื่อง นอกจากนี้ ตัวละครศัตรูที่ได้คัดเลือกที่ปรากฏในสองภาคแรกได้รับการดัดแปลงให้เป็นแอ็กชันฟิกเกอร์โดยแพลิเซดทอยส์ แต่ก็ได้ยกเลิกไลน์ของเล่นที่สองก่อนเปิดตัวทางหลักเนื่องจากผลตอบแทนที่จำกัดจากซีรีส์แรก

เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด พร้อมด้วยเรซิเดนต์อีวิลได้เครดิตกับวิดีโอเกมซอมบีที่ได้รับความนิยม เช่นเดียวกับการทำให้ซอมบีเป็นที่นิยมอีกครั้งในวัฒนธรรมกระแสหลักตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา ซึ่งนำไปสู่ความสนใจในภาพยนตร์ซอมบีที่ได้เริ่มใหม่ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 2000 นอกจากนี้ เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดดยังได้รับเครดิตจากการนำเสนอซอมบีที่วิ่งเร็ว ซึ่งได้รับความนิยมในภาพยนตร์และวิดีโอเกมซอมบีในช่วงคริสต์ทศวรรษ 2000

รูปแบบการเล่น แก้

รูปแบบการเล่นหลักเป็นกลไกแบบเกมยิงที่ไม่ต้องเดิน ผู้เล่นจะต้องเคลียร์แอเรียของศัตรูก่อนที่จะก้าวไปยังแอเรียถัดไป สองภาคแรกใช้ปืนพก, ภาคสามใช้ปืนลูกซอง, ภาคสี่และภาคสการ์เล็ตดอว์นใช้ปืนกลมือ ส่วนภาคโอเวอร์คิลมีอาวุธปืนที่แตกต่างกันซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้เล่น ซึ่งคำแนะนำบนตู้เกมระบุว่าการยิงหัวเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการฆ่าซอมบี

การเคลียร์สำเร็จจะทำให้เกิดการต่อสู้กับบอส โดยก่อนการต่อสู้ส่วนใหญ่ เกมจะแสดงให้เห็นว่าจุดอ่อนของบอสคืออะไร ส่วนบอสสุดท้ายไม่มีจุดอ่อนที่สามารถระบุได้ หากบอสถูกยิงหลายครั้งมากพอมันก็จะหดตัว มิฉะนั้นมันจะพรากหนึ่งในชีวิตของผู้เล่นไป ในเกมส่วนใหญ่ บอสจะถูกตั้งชื่อตามไพ่ชุดใหญ่ นอกจากนี้ พวกมันยังถูกจำแนกตาม 'ประเภท' ซึ่งแสดงเป็นตัวเลขหรือตัวอักษรกรีก

นอกจากนั้น ยังมีเส้นทางแยกย่อยที่แตกต่างกันในเกม ซึ่งโดยปกติจะเข้าถึงได้โดยการยิงประตู หรือสิ่งของ และบางครั้งเมื่อพลเรือนถูกสังหาร

เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดดสองภาคแรกให้ความสำคัญกับพลเรือน หากผู้เล่นช่วยชีวิตพลเรือนจากซอมบีได้สำเร็จ บางครั้งพลเรือนจะให้รางวัลแก่ผู้เล่นด้วยชีวิตที่เพิ่มขึ้น ส่วนภาคที่สี่ไม่มีพลเรือน ในขณะที่ภาคสามบางครั้งคู่หูของผู้เล่นจะประสบปัญหา และผู้เล่นจะได้รับรางวัลหากเขาหรือเธอช่วยชีวิตคู่หู ผู้เล่นยังสามารถได้รับชีวิตพิเศษโดยการยิงกล่อง, ลัง, แจกัน และทิวทัศน์ที่ทำลายล้างได้ ส่วนภาคสการ์เล็ตดอว์นได้นำเสนอพลเรือนจากสองภาคแรกอีกครั้ง ควบคู่ไปกับกลไกการช่วยเหลือพันธมิตรจากภาคสาม ตลอดจนควบคู่ไปกับกลไกใหม่ ๆ เช่น การสลับอาวุธ และเหตุการณ์ในเวลาอันรวดเร็ว

เกมหลักทั้งหมดมีฉากจบหลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นทำได้ดีเพียงใดในแง่ของการช่วยเหลือพลเรือน, เปอร์เซ็นต์การยิง, คะแนน และชีวิตที่เหลืออยู่ เกมหลักทุกเกมยกเว้นเกมสุดท้ายมีฉากจบที่ "ไม่ดี" ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับตัวละครตัวใดตัวหนึ่งที่กลายร่างเป็นซอมบี โดยในภาค 1 มีการเปลี่ยนตัวละครคือโซฟี ริชาดส์, ภาค 2 คือโกลด์แมน, ภาค III คือแดเนียล คิวเรียน และภาค 4 คือโกลด์แมนอีกครั้ง

ซีรีส์หลัก แก้

เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด (ค.ศ. 1996) แก้

ในวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 1998[1] ดร. คิวเรียน ผู้บ้าคลั่งและไม่แยแสได้วางแผนที่จะระดมกองทัพอันเดตของเขาเพื่อปะทะกับประชาชนที่ไม่เกิดความสงสัย เหล่าสายลับเอเอ็มเอส โธมัส โรแกน และ "จี" ถูกส่งไปที่คฤหาสน์ของเขาเพื่อหยุดยั้งแผนชั่วร้ายของคิวเรียน และช่วยเหลือโซฟี ริชาดส์ ผู้เป็นภรรยาในอนาคตของโรแกน

ใน ค.ศ. 2021 มีการประกาศรีเมกจากกเกมภาคแรกที่ชื่อเดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด: รีเมก โดยฟอร์เอเวอร์เอนเตอร์เทนเมนต์สำหรับนินเท็นโด สวิตช์[2][3] โดยในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2021 ได้มีการประกาศว่าเกมจะเลื่อนออกไปเป็นฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 2022[4]

เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด 2 (ค.ศ. 1998) แก้

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000[1] เคเลบ โกลด์แมน ผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักธุรกิจเจ้าสัวได้เปิดเผยตัวว่าเป็นผู้บงการคดีคฤหาสน์คิวเรียนใน ค.ศ. 1994 และอ้างสิทธิความรับผิดชอบ โกลด์แมนประเดิมการระบาดของอันเดดในเมืองที่ไม่มีชื่อในประเทศอิตาลี ในขณะที่โครงการ "จักรพรรดิ" ของเขากำลังพัฒนา สายลับเอเอ็มเอสสองนายที่ชื่อเจมส์ เทเลอร์ และแกรี สจวร์ต ได้ถูกส่งไปเพื่อหยุดโกลด์แมน

เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด III (ค.ศ. 2002) แก้

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 "| Sega | ザ ハウス オブ ザ デッド 2&3 リターン公式サイト |". hod.sega.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 24, 2007. สืบค้นเมื่อ November 18, 2022.
  2. "The House of the Dead: Remake announced for Nintendo Switch". SEGAbits (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). April 14, 2021. สืบค้นเมื่อ April 15, 2021.
  3. "The House of the Dead: Remake Revealed for Nintendo Switch in 2021". The Escapist (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). April 14, 2021. สืบค้นเมื่อ April 15, 2021.
  4. Classic Steve (December 3, 2021). "The House of the Dead: Remake For Nintendo Switch Delayed To 2022". The Gamebutler (ภาษาอังกฤษแบบแคนาดา). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-27. สืบค้นเมื่อ February 18, 2022.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้