เจ้าหญิงซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม สุลต่าน

เจ้าหญิงซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม สุลต่าน (ภาษาอังกฤษ: Sabiha Fazila Hanım Sultan; ประสูติ; 8 สิงหาคม พ.ศ. 2484เนยยี-ซูร์-แซน ประเทศฝรั่งเศส) ทรงเป็นเจ้าหญิงแห่งอียิปต์และเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิออตโตมัน เป็นพระปทินัดดาในกาหลิบองค์สุดท้ายแห่งจักรวรรดิออตโตมัน กาหลิบอับดุลเมซิดที่ 2 ผ่านทางพระสันตติวงศ์ของพระมารดา และยังทรงเคยเป็นพระคู่หมั้นในพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 แห่งอิรัก พระนางอาจจะได้เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งอิรักถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 ในอิรักเสียก่อนซึ่งเป็นผลให้พระราชวงศ์อิรักถูกปลงพระชนม์เกือบทั้งหมด

เจ้าหญิงซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม สุลต่าน

เจ้าหญิงซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม สุลต่าน แห่งอิรัก
พระคู่หมั้นในพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 แห่งอิรัก
ประสูติ8 สิงหาคม พ.ศ. 2484
เนยยี-ซูร์-แซน ประเทศฝรั่งเศส
(พระชนมายุ 71 พรรษา)
พระสวามีพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 แห่งอิรัก
เจ้าหญิงซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม สุลต่าน แห่งอิรัก
พระนามเต็ม
ซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม
พระปรมาภิไธย
เจ้าหญิงซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม สุลต่าน แห่งอิรัก
พระบุตรอะลี อ็อกลู
ซะลีม อ็อกลู
ราชวงศ์มูฮัมหมัดอาลี (ประสูติ)
ออตโตมัน (ทางพระมารดา)
พระบิดาเจ้าชายมุฮัมหมัด อะลี อิบราฮิม เบเยเฟนดิ
พระมารดาเจ้าหญิงซะห์ระ ฮันซะดี สุลต่าน

พระราชประวัติ

แก้

เจ้าหญิงซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม สุลต่าน ประสูติในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2484 ณ เนยยี-ซูร์-แซน ประเทศฝรั่งเศส เป็นพระราชธิดาพระองค์โตในเจ้าชายมุฮัมหมัด อะลี อิบราฮิม เบเยเฟนดิแห่งอียิปต์กับเจ้าหญิงซะห์ระ ฮันซะดี สุลต่าน พระมารดาของเจ้าหญิงเป็นพระปนัดดาในกาหลิบองค์สุดท้ายแห่งจักรวรรดิออตโตมัน กาหลิบอับดุลเมซิดที่ 2 และเป็นพระขนิษฐาในเจ้าหญิงฟัตมา เนสลีชาห์ เจ้าหญิงซาบิฮามีพระอนุชา 1 พระองค์คือ เจ้าชายสุลต่านซาเด อาห์มัด ริฟัต อิบราฮิม เบเยเฟนดิ

เจ้าหญิงซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม สุลต่านทรงหมั้นกับพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 แห่งอิรัก และในขณะนั้นเจ้าหญิงจึงเป็นพระคู่หมั้นและเป็นว่าที่สมเด็จพระราชินีแห่งอิรัก จนกระทั่งพ.ศ. 2501 ได้เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติ 14 กรกฎาคมในอิรัก นำโดยทหารของพลเอกอิบด์ อัล-คะริม กอซิมได้มุ่งหน้าไปยังพระราชวังอัล-ราฮับในกรุงแบกแดด

 
พระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 แห่งอิรัก(ซ้าย)กับเจ้าหญิงซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม สุลต่าน พระคู่หมั้น(ขวา)

ในเวลา 8.00 น. หัวหน้ากองทหาร อับดุล ซัททาร์ ซะบาอะ อัล-อิโบซี ได้นำกองทัพปฏิวัติเข้าทำร้ายข้าราชสำนักในพระราชวัง มีคำสั่งกราบทูลพระบรมวงศานุวงศ์ได้แก่ พระเจ้าฟัยศ็อล, มกุฎราชกุมารอับดัลอิละฮ์, เจ้าหญิงฮิยาม (พระชายาในมกุฎราชกุมารและเป็นพระมาตุจฉาในกษัตริย์), สมเด็จพระราชินีนาฟิสซา บินต์ อัลอิละฮ์ (พระมารดาในสมเด็จพระราชชนนีอะลียะฮ์และมกุฎราชกุมารอับดัลอิละฮ์ และเป็นพระอัยยิกาในกษัตริย์), เจ้าหญิงคะดิยะห์ อับดิยะห์ (พระเชษฐภคินีในสมเด็จพระราชชนนีอะลียะฮ์และมกุฎราชกุมารอับดัลอิละฮ์ และเป็นพระมาตุจฉาในกษัตริย์) และข้าราชบริพารจำนวนหนึ่งให้เสด็จลงมายังลานสนามในพระราชวังพร้อมๆกัน จากนั้นมีคำสั่งให้ทุกพระองค์หันพระองค์เข้ากับกำแพง ที่ซึ่งทุกพระองค์ถูกกราดยิงด้วยปืนกลในทันที ร่างของทั้งห้าพระองค์ร่วงลงพื้นสนามพร้อมกับร่างของข้าราชบริพาร พระเจ้าฟัยศ็อลยังไม่สวรรคตในทันทีหลังการระดมยิงครั้งแรก ทรงถูกนำพระองค์ส่งโรงพยาบาลโดยผู้จงรักภักดีแต่ก็เสด็จสวรรคตระหว่างทาง สิริพระชนมายุ 23 พรรษา เจ้าหญิงฮิยามทรงรอดพระชนม์ชีพจากการปลงพระชนม์หมู่มาได้แต่ก็ทรงพระประชวรอย่างสาหัสจากการระดมยิงและทรงถูกผู้จงรักภักดีพาพระองค์เสด็จออกนอกประเทศ พระศพของมกุฎราชกุมารอับดัลอิละฮ์ถูกลากไปตามถนนและถูกตัดเป็นชิ้นๆ ข่าวการปลงพระชนม์หมู่เกี่ยวกับมกุฎราชกุมารอับดัลอิละฮ์ได้มีการรายงานว่า "ประชาชนนักปฏิวัติโยนพระศพของมกุฎราชกุมารอับดัลอิละฮ์ลงบนถนนดั่งเช่นสุนัขและฉีกพระศพออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นพวกเขาก็ทำการเผาพระศพ"[1] ถือเป็นจุดสิ้นสุดระบอบกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์อิรักและเป็นโศกนาฏกรรมของระบอบกษัตริย์ 37 ปีในอิรัก และทำให้พระนางทรงพลาดหวังการเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งอิรัก

ในเวลาไม่กี่ปีต่อมา เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับด็อกเตอร์ คีรี อ็อกลู (Dr. Kheri Oglu) สามัญชน ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 2 คน ได้แก่

  • อะลี อ็อกลู
  • ซะลีม อ็อกลู

ปัจจุบันเจ้าหญิงซาบิฮา ฟาซิละ ฮานิม, นางอ็อกลู ทรงพำนักอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส

ดูเพิ่ม

แก้

เชิงอรรถ

แก้
  1. "Revolt in Baghdad". Time Magazine. 21 July 1958. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-12-25. สืบค้นเมื่อ 27 July 2009.

เว็บไซต์อ้างอิง

แก้

หนังสืออ้างอิง

แก้
  • Morris, James. The Hashemite Kings. London, 1959.