เกีย โซเรนโต

เกีย โซเรนโต (อังกฤษ: Kia Sorento) เป็นรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดกลาง (Mid-Size SUV) ที่ผลิตโดยบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ เกีย มอเตอร์ส

เกีย โซเรนโต
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิต	เกีย มอเตอร์ส
เริ่มผลิตเมื่อ	2545–ปัจจุบัน
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภท	รถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดกลาง (รุ่นปี 2003–2010) รถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงประเภทครอสโอเวอร์ขนาดกลาง (รุ่นปี 2010–ปัจจุบัน)
รูปแบบตัวถัง	รถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูง 5 ประตู
โครงสร้าง	เครื่องวางหน้า, ขับเคลื่อนล้อหลัง (เฉพาะรุ่นแรก) เครื่องวางหน้า, ขับเคลื่อนล้อหน้า (ตั้งแต่รุ่นที่ 2) เครื่องวางหน้า, ขับเคลื่อนสี่ล้อ

รุ่นที่ 1 (BL) (พ.ศ. 2545-2552)

เกีย โซเรนโต รุ่นที่ 1

เกีย โซเรนโต รุ่นที่ 1 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2545 ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับฮุนได เทอร์ราแคน โดยเป็นโครงสร้างแบบ Body-on-frame มีฐานการประกอบที่ประเทศเกาหลีใต้ ,รัสเซียและฟิลิปปินส์ ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มีรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 Sirius II I4 ,2.5 A I4 ,3.3 Lambda ,3.5 Sigma และ 3.8 ลิตร V6 โดยเครื่องยนต์นั้นใช้เทคโนโลยีจากฮุนได ใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 และ 5 สปีด ระยะฐานล้อ 2,710 มม. ความยาว 4,570-4,590 มม. ความกว้าง 1,865-1,885 มม. ความสูง 1,435-1,515 มม.

ในประเทศไทย โซเรนโตรุ่นที่ 1 เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2545 โดยบริษัท ยนตรกิจ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (Official Import) เครื่องยนต์ของโซเรนโตเวอร์ชันไทยจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร A I Turbo CRDi I4 และเครื่องยนต์เบนซิน 3.5 ลิตร ฮุนได Σ V6 พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

เกีย โซเรนโต รุ่นที่ 1 (หลังปรับโฉม)

รุ่นที่สอง (XM) (พ.ศ. 2552–2558)

เกีย โซเรนโต รุ่นที่ 2

เกีย โซเรนโต รุ่นที่ 2 (ปรับโฉม)

เกีย โซเรนโต รุ่นที่ 2 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2552 รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่เป็น Crossover SUV อย่างเต็มตัว และรุ่นที่ 2 เริ่มเปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าแล้ว แต่ยังมีการผลิตรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้ออยู่เหมือนเดิม ส่วนแพลตฟอร์มนั้นเปลี่ยนมาใช้ร่วมกับฮุนได ซานตาเฟ่ มีเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ,2.7 และ 3.5 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ใช้เกียร์ธรรมดา 5 และ 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 5 และ 6 สปีด ระยะฐานล้อ 2,700 มม. ความยาว 4,685 มม. ความกว้าง 1,885 มม. ความสูง 1,710 มม. มีฐานการประกอบอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ,สหรัฐอเมริกาและคาซัคสถาน

ในประเทศไทย บริษัท ยนตรกิจ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้นำโซเรนโตรุ่นที่ 2 มาเปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2555 ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนสองล้อหน้า เท่านั้น ตั้งราคาขายอยู่ที่ 1.8 ล้านบาท

หลังจากปี พ.ศ. 2557 ได้มีการนำเข้ารุ่นปรับแต่งหน้าตาเข้ามาขายอีกประมาณ 110 คัน ตั้งราคาขายอยู่ที่ 1.69 ล้านบาท

มีข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมดังนี้

• Emission Standard : มอก. 2550-2554
• อัตราการปล่อยก๊าซ CO2 : 196  กรัม/กม.
• อัตราการใช้พลังงานรวม(Combined) : 7.4  ลิตร/100 กม.
• อัตราการใช้พลังงานนอกเมือง(Extra-Urban) : 5.8  ลิตร/100 กม.
• อัตราการใช้พลังงานในเมือง(Urban) : 10.2  ลิตร/100 กม.

รุ่นที่สาม (UM) (พ.ศ. 2558–พ.ศ. 2564)

เกีย โซเรนโต รุ่นที่ 3

เกีย โซเรนโต รุ่นที่ 3 (ปรับโฉม)

เกีย มอเตอร์สเผยโฉมโซเรนโตรุ่นที่สามในประเทศเกาหลีใต้ในวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ต่อมาก็ได้เปิดตัวในงานแสดงรถยนต์ปารีสประจำปี ค.ศ. 2014 โซเรนโต้รุ่นที่สามใช้พื้นฐานร่วมกับเกีย คาร์นิวัล รุ่นปี 2015 และได้มีรุ่น 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง ความยาวของตัวรถได้ขยายยาวกว่ารุ่นที่แล้ว 95 มิลลิเมตรและลดความสูงลงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมให้ดีกว่ารุ่นที่แล้ว เกียได้รับรองว่าเพิ่มความแข็งของเหล็กขึ้น 14% และโซเรนโตได้รับคะแนนในระดับที่ดีในการทดสอบการชนของ IIHS ในประเทศสหรัฐอเมริกา โซเรนโตยังคงผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์ที่เมืองเวสต์พอยต์ รัฐจอร์เจีย

เครื่องยนต์ที่วางจำหน่ายประกอบไปด้วย เครื่องยนต์แลมบ์ด้า 3.3 ลิตร วี6 ให้กำลัง 290 แรงม้า, เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร หัวฉีดตรง 4 สูบ ให้กำลัง 190 แรงม้าและเครื่องยนต์ใหม่ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 240 แรงม้า สำหรับรุ่นดีเซล มาพร้อมกับเครื่องยนต์ CRDi 2.2 ลิตรพร้อมกับเทอร์โบแปรผัน

โซเรนโตรุ่นที่สามมาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนมีระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลัง โดยระบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น

เกีย โซเรนโต้ ที่จำหน่ายในไทยใช้เครื่องยนต์ R 2.2 VGT - CRDi ดีเซล คอมมอนแรล 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบแปรผัน 2,199 ซีซี 197 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 44.5 กิโลกรัมเมตร แบบต่อเนื่องที่รอบต่ำเพียง 1,800 - 2,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมดสปอร์ต ขับเคลื่อนล้อหน้า ล้อแม็ก 18 นิ้ว ยางขนาด 235/60R18 มีจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว คือ KIA SORENTO 2.2 VGT - CRDi ในราคา 1,694,000 บาท

รุ่นที่สี่ (MQ4) (พ.ศ. 2564–ปัจจุบัน)

Fourth generation (MQ4)
ภาพรวม
เริ่มผลิตเมื่อ	2020–present
แหล่งผลิต	เกาหลีใต้: Hwaseong (Hwaseong Plant) สหรัฐอเมริกา: West Point, Georgia (KMMG)
ตัวถังและช่วงล่าง
แพลตฟอร์ม	Hyundai-Kia N3
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์	1.6 L Smartstream G1.6 T-GDi I4 hybrid (petrol) 2.5 L Smartstream G2.5 GDi I4 (petrol) 2.5 L Smartstream G2.5 T-GDi I4 (petrol) 2.2 L Smartstream D2.2 CRDi I4 (diesel)
ระบบเกียร์	8-speed automatic 8-speed Smartstream DCT
มิติ
ระยะฐานล้อ	2,815 mm (110.8 in)
ความยาว	4,810 mm (189.4 in)
ความกว้าง	1,900 mm (74.8 in)
ความสูง	1,700 mm (66.9 in)

เกีย มอเตอร์สเผยโฉมโซเรนโตรุ่นที่สี่ในประเทศเกาหลีใต้ รถยนต์ SUV ขนาดกลางที่มาพร้อมเบาะ 3 แถว สัญชาติเกาหลีอย่าง Kia Sorento มีทายาทโฉมที่สี่ตามมาแล้ว โดยทางการได้เผยภาพพร้อมรายละเอียดสังเขป ก่อนถึงกำหนดการเปิดตัวเต็มรูปแบบในเดือนหน้า เบื้องต้นมีการระบุว่าพัฒนาหน้าตาและวัสดุให้ดีกว่าเดิม ทั้งยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่หลายรายการ เปิดตัวเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 และจะจัดขึ้นในงานแสดงรถยนต์ระดับโลกครั้งที่ 90 ที่จะจัดขึ้น ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 5-15 มีนาคมนี้ แต่ถูกประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการ เพื่อตอบสนองมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โควิด-19 ขุมพลังของ All NEW Kia Sorento จะมีขุมพลัง Hybrid และ ดีเซล ให้เลือกในตอนต้น ทั้งยังมีการระบุว่าจะส่งขุมพลัง Plug-in Hybrid ตามมาในช่วงปลายปี 2020 มีดังนี้ 1.6 T-GDi เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ Direct Injection พร้อมแบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 1.49 kWh และ มอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 44.2 kW กำลังสูงสุดทั้งระบบ 230 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และ 2.2 T-GDi เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 202 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DCT 8 จังหวะ เปลี่ยนวัสดุ Aluminum Block ลดน้ำหนักลงจากเครื่องยนต์ในรุ่นเก่าลงได้ 38.2 กิโลกรัม

อ้างอิง

1. http://car.go.th/new/compareCar?TranId=9cd110e60a494f259d849a13211ee376 เก็บถาวร 2023-07-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 2. http://www.kia.com/th/showroom/sorento.html