หม่อมราชวงศ์จันทร์แรมศิริโชค จันทรทัต

หม่อมราชวงศ์จันทร์แรมศิริโชค จันทรทัต (21 กรกฎาคม พ.ศ. 2473 - 25 มกราคม พ.ศ. 2553) เป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนที่ 7 ดำรงตำแหน่งระหว่าง พ.ศ. 2528 - พ.ศ. 2533[1]

หม่อมราชวงศ์จันทร์แรมศิริโชค
จันทรทัต
เกิด21 กรกฎาคม พ.ศ. 2473
เสียชีวิต25 มกราคม พ.ศ. 2553 (79 ปี)
มีชื่อเสียงจากผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
คู่สมรสโอนอ่อน จันทรทัต ณ อยุธยา
บุตร2 คน
บิดามารดาหม่อมเจ้าจันทรศิริปริวัตร จันทรทัต
หม่อมจรูญ จันทรทัต ณ อยุธยา

ประวัติ

แก้

หม่อมราชวงศ์จันทร์แรมศิริโชค จันทรทัต เป็นโอรสของหม่อมเจ้าจันทรศิริปริวัตร จันทรทัตกับหม่อมจรูญ จันทรทัต ณ อยุธยา เกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2473 ในวัยเด็กท่านอยู่กับคุณตาคุณยายที่กรุงเทพฯ เรียนโรงเรียนประจำ มีโอกาสสอบชิงทุนได้ไปเรียนที่อังกฤษ[2]

การทำงาน

แก้

หม่อมราชวงศ์จันทร์แรมศิริโชค จันทรทัต เริ่มรับราชการที่กระทรวงการคลัง ประจำกองเงินตราต่างประเทศ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2498[3] และรับราชการมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2503 ได้เลื่อนเป็นหัวหน้าแผนกรัฐวิสาหกิจ กองควบคุมรายได้ ในปี พ.ศ. 2528 ได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนที่ 7 ดำรงตำแหน่งระหว่าง พ.ศ. 2528 - พ.ศ. 2533 ต่อจากนายดุษฎี สวัสดิ์–ชูโต

ครอบครัว

แก้

หม่อมราชวงศ์จันทร์แรมศิริโชค จันทรทัต สมรสกับ โอนอ่อน จันทรทัต ณ อยุธยา (สกุลเดิม:ศิริวรรณ)

  • หม่อมหลวงจันทรจุฑา จันทรทัต สมรสกับ ศกลวรรณ ค้าเจริญ
    • ปิ่นจันทรา จันทรทัต ณ อยุธยา
  • หม่อมหลวงจันทรขจร จันทรทัต

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

ลำดับสาแหรก

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. พิพิธภัณฑ์ธนาคารออมสิน เก็บถาวร 2015-05-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากเว็บไซต์ gsb.or.th สืบค้นเมื่อ 17-04-57.
  2. หม่อมราชวงศ์ จันทรแรมศิริโชค – หม่อมหลวง จันทรจุฑา จันทรทัต จากเว็บไซต์ hiclasssociety.com สืบค้นเมื่อ 17-04-57.
  3. หม่อมหลวงจันทรจุฑา จันทรทัต. อนุสรณ์ หม่อมราชวงศ์จันทร์แรมศิริโชค จันทรทัต. กรุงเทพฯ : [ม.ป.พ.], พ.ศ. 2554. 280 หน้า. ISBN 978-974-312-022-0
  4. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๘๘ ตอนที่ ๙๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๐, ๒๖ สิงหาคม ๒๕๑๔
  5. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๙๗ ตอนที่ ๑๘๘ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๔๐๒, ๕ ธันวาคม ๒๕๒๓