สแกมหลอกให้รัก (อังกฤษ: romance scam) เป็นกลหลอกลวงชนิดหนึ่ง ที่ผู้ร้ายแสร้งแสดงความรักกับเหยื่อเพื่อให้เหยื่อหลงรัก แล้วใช้ความรู้สึกนั้นเพื่อให้เหยื่อส่งเงินไปให้โดยอาศัยเหตุการณ์หลอกลวงต่างๆ หรือใช้ฉ้อฉลเหยื่อโดยวิธีอื่นๆ การฉ้อฉลอาจจะเกี่ยวกับเงิน บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต หนังสือเดินทาง บัญชีอีเมล หรือบัตรประชาชนของเหยื่อ หรือหลอกให้เหยื่อโกงเงินเพื่อประโยชน์แก่ "คนรัก"[2][3]

พาสปอร์ตอเมริกันปลอมนี้ได้ใช้จริงๆ ในสแกมหลอกให้รัก การหลอกลวงอาจจะชัดเจนสำหรับคนอื่นๆ เช่น รูปภาพในหนังสือเดินทางนี้ ไม่ตรงกับระเบียบในเรื่องขนาดหรือท่าทาง แต่เหยื่อก็มักจะมองข้ามสัญญาณเตือนต่างๆ เหล่านี้[1]

แสกมเช่นนี้มักจะทำเป็นกลุ่มโดยแก๊งผู้ร้าย ผู้ทำงานร่วมกันเพื่อจะหลอกเอาเงินจากเหยื่อหลายคนพร้อมๆ กัน[4] ความเสียหายจากสแกมนี้ มากยิ่งกว่าสแกมทางอินเทอร์เน็ตอื่นๆ ที่คล้ายกัน เช่น สแกมช่างคอมพิวเตอร์ (technical support scam)[4]

ในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (สง.ก.ตร.) ระบุว่าเป็นการหลอกให้รักโดยปลอมแปลง PROFILE เป็นบุคคลหน้าตาดี เข้ามาตีสนิทจากแอปหาคู่ หรือจากบัญชีออนไลน์ แล้วหลอกให้ลงทุนในแอปหรือโปรแกรมลงทุนปลอม เช่น เทรดหุ้นปลอม เงินดิจิทัลปลอม สกุลเงินปลอม ทองคำทิพย์ เป็นต้น หรือให้โอนเงินให้ หรือให้ยืมเงิน ทำทีจะส่งทรัพย์สินมาให้จากต่างประเทศ แต่สุดท้าย ลวงเอาเงินค่าธรรรมเนียมต่าง ๆ หรือหลอกให้โอนเงินโดยอ้างว่าจะคืนให้หลายเท่าตัว[5]

รูปภาพที่ถูกขโมย แก้

ผู้ร้ายสแกมนี้จะตั้งหน้าเว็บส่วนตัว โดยใช้รูปภาพที่ขโมยมาจากคนหน้าตาดี เพื่อล่อให้คนติดต่อตน วิธีการนี้ เป็นเช่นเดียวกับสแกมที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า catfishing รูปมักจะเป็นของดาราหรือของนาย/นางแบบที่ยังไม่ค่อยรู้จัก เพื่อใช้หลอกเหยื่อว่า กำลังคุยกับบุคคลนั้นจริงๆ บางครั้งก็อาจจะปลอมตัวเป็นทหาร ซึ่งใช้เป็นข้อแก้ตัวได้ว่า ทำไมจึงไม่มาพบกับเหยื่อ

เพราะผู้ร้ายจะดูไม่เหมือนรูปภาพที่ใช้โดยประการทั้งปวง ปกติจึงจะไม่มาเจอกับเหยื่อตัวต่อตัว หรือแม้แต่คุยกันทางวิดีโอ โดยอาจใช้ข้อแก้ตัวที่พอฟังได้ว่า ทำไมจึงให้เห็นหน้าไม่ได้ เช่น เพราะกำลังเดินทางอยู่ หรือว่ากล้องที่มีเสีย[4]

การหลอกเหยื่อ แก้

ผู้ร้ายจะชำนาญในวิธีต่างๆ ที่จะหลอกให้เหยื่อเชื่อ เช่น ส่งกลอนรัก ส่งข้อความหมิ่นเหม่ทางเพศไปทางอีเมล สร้างความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนกับความรัก โดยให้สัญญาว่า "วันหนึ่งเราจะมาแต่งงานกัน"

ผู้ร้ายจะติดต่อแลกเปลี่ยนข้อความกับเหยื่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกว่า มีความสัมพันธ์ดีพอที่จะขอเงิน โดยถือเอาประโยชน์จากความรู้สึกของเหยื่อว่ามีความสัมพันธ์กันเมื่อหลอกให้ส่งเงินไปให้ หรืออาจจะขอค่าน้ำมัน หรือว่าค่ารถ หรือว่าค่าเครื่องบิน เพื่อที่จะไปเยี่ยมเหยื่อ หรือขอค่าไปหาหมอ หรือค่าเทอร์ม โดยปกติจะสัญญาว่า วันหนึ่งจะมาอยู่กับเหยื่อ

บางรายอาจจะชวนเหยื่อให้ไปเยี่ยมประเทศของตน ในบางกรณี เหยื่ออาจจะไปเยี่ยมโดยมี "ของขวัญเป็นเงิน" สำหรับ "สมาชิกครอบครัวของคนรัก" หรือว่ามีสินบนเพื่อจะให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่เหยื่อกลับถูกทำร้าย หรือว่าถูกปล้น หรือแม้แต่ถูกฆ่า[6] สแกมจะยุติก็ต่อเมื่อเหยื่อเข้าใจว่ากำลังถูกหลอก หรือว่าไม่ส่งเงินไปให้ผู้ร้ายอีกต่อไป

แก๊งอาชญากร แก้

แก๊งอาชญากรมักจะหลอกคนที่เหงาทั่วโลกโดยหลอกลวงว่า นี่เป็นความรักและความห่วงใย[7] ผู้ร้ายจะโพสต์หน้าเว็บในเว็บไซต์หาคู่ หรือในบัญชีสื่อสังคม หรือในเว็บโฆษณา หรือแม้แต่ฟอรัมออนไลน์ เพื่อเสาะหาเหยื่อ[8][4] ผู้ร้ายปกติจะพยายามขอติดต่อด้วยวิธีการสื่อสารอื่นที่เป็นส่วนตัวมากกว่า เช่น อีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์ ในการสร้างความเชื่อใจกับเหยื่อ[9][4] เพราะผู้ร้ายทำงานเป็นแก๊ง ก็จะมีสมาชิกแก๊งที่อยู่ออนไลน์ตลอดเวลาเพื่อคอยส่งข้อความต่างๆ ให้แก่เหยื่อ[4] การสลับกันทำการเช่นนี้โดยทำเป็นเหมือนคนเดียวกัน เป็นสิ่งที่เห็นได้ยากในข้อความเขียน เทียบกับถ้ามาเจอกันตัวต่อตัว หรือคุยกันทางวิดีโอ หรือคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นคนละคน

ความเสียหาย แก้

ในปี 2016 สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐรายงานว่า เหยื่อได้เสียเงินเกินกว่า 220 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,700 ล้านบาท) เนื่องกับสแกมนี้[10] ซึ่งมากกว่าสแกมฟิชชิงถึง 7 เท่าและมากกว่าสแกมเรียกค่าไถ่ข้อมูลถึงร้อยเท่า[10] โดยความเสียหายได้เพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ อย่างน่าตกใจ ในสหรัฐ การเสียเงินเช่นนี้เพิ่มจาก 211 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,200 ล้านบาท) เป็น 475 ล้านเหรียญ (ประมาณ 14,700 ล้านบาท) ระหว่างปี 2017-2019[11][12] กรณีที่แจ้งความก็เพิ่มขึ้นจาก 15,372 กรณีเป็น 19,473 กรณี

รัฐบาลออสเตรเลียก็รายงานคดีที่เพิ่มขึ้นในประเทศเช่นกัน[13] โดยความเสียหายเพิ่มขึ้นจาก 20.5 ล้านเหรียญออสเตรเลียเป็น 28.6 ล้านเหรียญระหว่างปี 2017-2019

เหยื่อที่เป็นเป้า แก้

 
สถิติประชากรโดยเพศและอายุของสแกมหลอกให้รักในปี 2011

ผู้ร้ายมักจะเลือกเหยื่อที่มีอายุมากกว่า เพราะมีทรัพย์มากกว่า เช่น เงินเกษียณ หรือเป็นเจ้าของบ้าน ที่สามารถโกงเอาได้[4] ตามงานศึกษาของสมาคมจิตวิทยาบริติช คนที่อ่อนไหวง่ายอาจถูกหลอกลวงได้ง่ายกว่า ตามงานศึกษา คนที่อ่อนไหวง่ายและคนที่เข้าใจความรู้สึกของตนและผู้อื่นได้น้อยกว่า จะตกเป็นเหยื่อของสแกมนี้ได้ง่ายกว่า[14][15]

คำหลอกลวงต่างๆ แก้

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างคำหลอกลวงเอาเงินจากเหยื่อในแสกมนี้

  • หลอกว่า เจ้านายได้จ่ายเงินให้แก่ตนด้วยธนาณัติของไปรษณีย์ แล้วขอให้เหยื่อเข้าเงินธนาณัติปลอมนั้นในธนาคารแล้วโอนเงินไปให้ตน ในที่สุด ธนาคารก็จะเอาเงินคืน แต่จะไม่ยกเลิกการโอนเงิน[16]
  • หลอกให้เหยื่อส่งเงินไปให้เพื่อจ่ายค่าหนังสือเดินทาง[16]
  • หลอกให้เหยื่อส่งค่าเครื่องบินไปให้เพื่อจะมาเยี่ยมเหยื่อ โดยอ้างว่าถูกกีดขวางโดยสมาชิกครอบครัวหรือคู่ครอง[17] ในทุกๆ กรณี ผู้ร้ายจะไม่เดินทางมาจริงๆ โดยใช้ข้ออ้างต่างๆ รวมทั้ง ถูกจับตัวโดยเจ้าหน้าที่ด่านเข้าเมืองผู้ขู่จะเอาสินบน[18]
  • บอกว่า มีทองแท่งหรือของมีค่าอื่นๆ ที่กงสุลยึดไว้โดยจะต้องจ่ายภาษีก่อนจะได้คืนมาแล้วมาหาเหยื่อ[19]
  • หลอกว่า ต้องการเงินเพื่อมาพบเหยื่อ[6][19]
  • หลอกว่าถูกจับตัวไว้เพราะไม่สามารถจ่ายหนี้ได้[6][17]
  • หลอกว่าต้องการเงินเพื่อจ่ายค่าโรงพยาบาล[6][17]
  • หลอกว่าต้องการเงินมาจ่ายค่าโทรศัพท์เพื่อจะติดต่อกับเหยื่อต่อไป
  • หลอกว่าต้องการเงินเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่เร่งด่วนสำหรับพ่อแม่ของตน[6]
  • บอกว่าเป็นพนักงานโดยตรงหรือโดยอ้อมของเว็บไซต์ และค่าธรรมเนียมที่เหยื่อจ่ายเพื่อเป็นสมาชิกหรือเพื่อใช้บริการ ส่วนหนึ่งตนจะได้[20]

แบล็คเมล์ แก้

ผู้ร้ายหลอกให้รักบางพวก จะสืบหาเหยื่อที่มีความปรารถนาทางเพศแปลกๆ แล้วหลอกเหยื่อว่าถ้าจ่ายค่าเครื่องบินให้ ก็จะได้อยู่กับตนตามความปรารถนา

ผู้ร้ายบางพวกจะชวนเหยื่อให้แสดงกิจกรรมทางเพศต่อหน้าเว็บแคม โดยผู้ร้ายจะอัดวิดีโอไว้ แสดงให้เหยื่อดู แล้วแบล็คเมล์ให้ส่งเงินให้ เพื่อไม่ให้ส่งสิ่งที่อัดไว้ไปให้เพื่อน ครอบครัว หรือนายจ้าง โดยข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนเป็นต้น จะได้มาจากสื่อสังคมเช่นเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์[3]

เดตราคาแพง แก้

วิธีนี้ต่างกับสแกมหลอกให้รักอื่นๆ คือจะมีการมาเดตกันจริงๆ ในประเทศของผู้ร้าย แต่จุดประสงค์ก็เพื่อให้เหยื่อใช้จ่ายเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะได้ในระยะเวลาอันสั้นๆ โดยแทบจะไม่ได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนเลย ปกติจะมีผู้สมรู้ร่วมคิดกันหลายคน เช่น คนแปลภาษา หรือคนขับแท็กซี่ ซึ่งเหยื่อจะต้องจ่ายค่าบริการในราคาแพง บริการทุกอย่างผู้ร้ายจะจัดหาให้ โดยเหยื่อจะต้องจ่ายในราคาสูง เช่น จะนัดไปเจอกันในที่ที่ไม่ใช่ร้านกาแฟธรรมดา แต่เป็นร้านอาหารราคาโหด ซึ่งปกติคนในพื้นที่จะไม่มีทางจ่าย แล้วหลอกให้ซื้อของราคาแพงต่างๆ รวมทั้งของขวัญสำหรับผู้ร้าย เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเสื้อขนสัตว์[21]

ปกติคนขายก็จะมีส่วนร่วมด้วย คือหลังจากเหยื่อกลับไปแล้ว ก็จะคืนของที่ซื้อมาไปให้แก่คนขาย แล้วแบ่งเงินที่ได้กัน เพราะได้เงินด้วยปฏิบัติการเช่นนี้ ผู้ร้ายก็จะพยายามมีเดตกับคนรวยๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้[22]

ความสัมพันธ์ดังว่า จะไม่งอกงามยิ่งกว่านี้ มีแต่จะขอเงินจากเหยื่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้หลังจากที่กลับบ้านไปแล้ว[23] นี่ไม่เหมือนกับคนที่แต่งงานเพื่อเงิน เพราะผู้ร้ายในสแกมนี้จริงๆ อาจจะไม่ใช่คนโสด หรือไม่สามารถแต่งงานกับคนอื่นได้

สแกม 419 แก้

สแกมหลอกให้รักอีกอย่างหนึ่งก็คือผู้ร้ายจะบอกว่าจะต้องแต่งงาน เพื่อที่จะรับมรดกเป็นเงินล้านๆ เหรียญสหรัฐ หรือมรดกเป็นทอง จากลุง จากพ่อ หรือจากปู่ย่าตายาย ผู้หญิงก็จะติดต่อเหยื่อผู้ชาย แล้วบอกถึงปัญหาของตน เช่นไม่สามารถเอาทองออกจากประเทศเพราะไม่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียม หรือภาษีการแต่งงาน ผู้หญิงจะไม่สามารถรับมรดกจนกระทั่งแต่งงาน โดยเป็นข้อแม้พินัยกรรมของพ่อ ของลุง หรือของปู่ย่าตายาย

ผู้ร้ายจะทำให้เหยื่อเชื่อว่าจริงใจ จนกระทั่งเหยื่อเชื่อใจจนสามารถขอเงินได้เป็นพันๆ เหรียญ เพื่อจะนำทองเข้าไปในประเทศของเหยื่อ ผู้ร้ายอาจเสนอว่า จะบินไปประเทศของเหยื่อเพื่อพิสูจน์ว่ามีตัวตนจริงๆ และเพื่อเหยื่อจะได้ส่งค่าเครื่องบินไปให้ แต่ผู้ร้ายจริงๆ ก็จะไม่ไป เมื่อเหยื่อติดต่อไปและถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ร้ายก็จะยกข้ออ้างต่างๆ เช่น ไม่สามารถได้วีซ่าขาออก หรือประสบความเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือของสมาชิกครอบครัว

การปลอมตัวเป็นทหาร แก้

เทคนิคที่ผู้ร้ายใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็คือการปลอมตัวเป็นทหารอเมริกัน ผู้ร้ายมักชอบใช้รูปภาพ ชื่อ และหน้าเว็บของทหาร เพราะจะทำให้เหยื่อเชื่อใจ มั่นใจ และนิยมชมชอบ[24] เพราะฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทหาร มักจะโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับทหารโดยไม่กล่าวถึงครอบครัวหรือชีวิตส่วนตัว ดังนั้น แก๊งอาชญากรอินเทอร์เน็ต บ่อยครั้งจากไนจีเรียหรือกานา ก็จะขโมยรูปภาพจากเว็บไซต์เช่นนั้น

ผู้ร้ายอาจบอกเหยื่อว่ากำลังสนับสนุนสถานเด็กกำพร้าด้วยเงินของตนเอง หรือจำเป็นต้องได้เงินช่วยเหลือเพราะไม่สามารถเอาเงินของตัวเองออกมาได้จากบริเวณที่รบกันอยู่ โดยจะให้ส่งเงินไปให้แก่บุคคลที่ 3 ผู้ที่ผู้ร้ายจะไปรับเอามาได้ บางครั้งบุคคลที่ 3 ก็มีจริงแต่บางครั้งก็ไม่มี เงินที่ส่งไปทาง Western Union หรือ MoneyGram เวลารับจะไม่ต้องแสดงบัตรประจำตัวเมื่อผู้ส่งส่งโดยระบุคำถามคำตอบที่รู้กันสองคน โดยสามารถรับเงินที่ไหนก็ได้ในโลก ผู้ร้ายบางพวกอาจจะขอบิตคอยน์แทนเงินสด[6][25]

eWhoring แก้

ในรูปแบบที่ฝรั่งเรียกว่า eWhoring[26] ผู้ร้ายจะส่งรูปเปลือยรูปโป๊โดยปลอมตัวเป็นบุคคลนั้นเพื่อขายรูปและวิดีโอให้แก่เหยื่อ ชักชวนเหยื่อให้ส่งเงินไปให้แก่ผู้ร้ายเพื่อจะออกเดต เพื่อเปิดช่องดูวิดีโอ หรือเพื่อเจอกันตัวต่อตัว หรือเพื่อจะส่งลิงก์ฟิชชิง[27] รูปแรกๆ อาจจะเป็นรูปที่บุคคลจริงได้แชร์กับผู้อื่น หรืออาจจะเป็นรูปหรือวิดีโอโป๊ ที่คนจริงไม่ได้อาสาแชร์ ไม่ว่าจะเป็นรูปจาก revenge porn รูปที่ถูกแฮ็ก หรือถูกขโมย เหมือนกับสแกมหลอกให้รักอย่างอื่นๆ คดี eWhoring ก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงโรคโควิดระบาด[28]

การปลอมตัวมีหลายระดับเริ่มตั้งแต่เป็นการปลอมตัวหลอกลวงล้วนๆ หรือว่าเป็นอะไรที่ซับซ้อนกว่า เช่น คนในรูปอาจจะจ้างกลุ่มคนที่ 3 หรือว่าทีมแช็ตเพื่อปลอมเป็นตนในการส่งข้อความและส่งรูปไปให้แฟนคลับ[29] เพราะกลัวเรื่องการปลอมตัว เหยื่ออาจขอดูรูปภาพโดยเฉพาะๆ เพื่อพิสูจน์ว่ามีตัวตนจริงๆ เช่นให้ถือวัตถุอย่างหนึ่ง หรือเขียนข้อความโดยเฉพาะข้อความหนึ่งในกระดาษ ในเดือนพฤษภาคม 2023 เว็บไซต์สื่อโป๊ My.Club ได้ออกนโยบาย "No Fake Creators" (ห้ามคนทำปลอม) โดยบังคับให้ทุกคนที่ใช้แพลตฟอร์มในการขายรูป ขายวิดีโอ หรือขายการพูดคุย ต้องผ่านการพิสูจน์ตัวจริงรวมทั้งการสแกนใบหน้าทุกครั้งที่ลงชื่อเข้าใช้[30]

ในสื่อ แก้

  • ภาพยนตร์สวีเดน Raskenstam (1983) ซึ่งเป็นภาพยนตร์รักตลกที่มาจากเรื่องจริงของนายธนาคารชาวสวีเดน Gustaf Raskenstam[31] ผู้หลอกหญิงเกินกว่าร้อยให้รัก แล้วหลอกให้สนับสนุนโปรเจ็กต์ต่างๆ ของตนทางการเงิน[32] เขามักจะใช้โฆษณาทางหนังสือพิมพ์[ต้องการอ้างอิง]
  • มีภาพยนตร์ (เช่น คู่ฆ่า...อำมหิต) หลายเรื่องและรายการทีวีตอนหลายตอนที่แสดงเรื่องของ Raymond Fernandez และ Martha Beck ผู้เป็นคู่ฆาตกรฆ่าต่อเนื่องที่มีชื่อว่า "The Lonely Hearts Killers" (ฆาตกรคนเหงาใจ) ผู้เชื่อว่า ได้ฆ่าหญิง 20 คนในระหว่างปี 1947-1949 โดยพบกับเหยื่อผ่านโฆษณาทางหนังสือพิมพ์[ต้องการอ้างอิง]

ดูเพิ่ม แก้

เชิงอรรถและอ้างอิง แก้

  1. "Internet Dating and Romance Scams". Travel.state.gov. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-08.
  2. "Looking for Love? Beware of Online Dating Scams".
  3. 3.0 3.1 Hickey, Shane (2015-08-14). "Scammers target lonely hearts on dating sites". TheGuardian.com.
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 Span, Paula (2020-03-27). "When Romance Is a Scam". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2020-11-13.
  5. "18 กลโกงมิจฉาชีพ ใช้หลอกลวงเหยื่อบนโลกออนไลน์". สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (สง.ก.ตร.). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-15.
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 6.5 "Online daters, be warned! 1 in 10 profiles are scams, report reveals". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-20. สืบค้นเมื่อ 2017-09-11.
  7. "How A Billion-Dollar Internet Scam Is Breaking Hearts And Bank Accounts". HuffPost (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2017-07-20. สืบค้นเมื่อ 2018-11-05.
  8. "Love is lies". gimletmedia.com. Gimlet Media. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-20. สืบค้นเมื่อ 2015-02-20.
  9. Evans, Dennis. "Kansas City News, Weather and Sports". KMBC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-07. สืบค้นเมื่อ 2023-11-20.
  10. 10.0 10.1 Monroe, Rachel. "The Perfect Man Who Wasn't". The Atlantic (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2018-04-01.
  11. "2017 Internet Crime Report" (PDF). FBI. 2017. สืบค้นเมื่อ 2020-10-06.
  12. "2019 Internet Crime Report" (PDF). FBI. สืบค้นเมื่อ 2020-10-06.
  13. "Scam statistics". www.scamwatch.gov.au (ภาษาอังกฤษ). 2016-03-11. สืบค้นเมื่อ 2020-10-06.
  14. "Sensitive people more vulnerable to online dating scams". EurekAlert!. สืบค้นเมื่อ 2016-04-30.
  15. PerfectReputations (2016-04-29). "New Study Shows Who Are Likely To Be Scammed". Romance Scams Now™ Official Dating Scams Website - Ghana & Nigerian Scammer Photos (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2016-04-30.
  16. 16.0 16.1 Sullivan, Bob (2005-07-28). "Seduced into scams: Online lovers often duped". NBC News. สืบค้นเมื่อ 2023-11-20.
  17. 17.0 17.1 17.2 "International Financial Scams - Internet Dating, Inheritance, Work Permits, Overpayment, and Money-Laundering" (PDF). United States Department of State. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-10-21.
  18. "U.S. Embassy Accra, Ghana". web.archive.org. 2008-09-26. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-26. สืบค้นเมื่อ 2023-11-20.
  19. 19.0 19.1 Sullivan, Bob (2005-07-28). "Singles seduced into scams: Online lovers often duped". NBC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-12. สืบค้นเมื่อ 2020-10-06.
  20. "The mail-order bride boom - Fortune Tech". Tech.fortune.cnn.com. 2013-04-09. สืบค้นเมื่อ 2014-01-01.
  21. "Nine Tips on How to Identify and Avoid Ukrainian Pro-Daters". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-11. สืบค้นเมื่อ 2023-11-21.
  22. "Romance Scam". Romancescam.
  23. "Tips how to recognize professional Asian pro-daters". 2021-02-22.
  24. Power, Julie (2014-12-06). "Love me don't: the West African online scam using US soldiers". The Sydney Morning Herald. สืบค้นเมื่อ 2014-12-06.
  25. "Romance Scam". Romancescam. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-30.
  26. "Measuring eWhoring". Association for Computing Machinary. 2021-10-21.
  27. Savin, Jennifer (2021-04-07). "Inside the world of eWhoring: where nudes are stolen, traded and sold for profit". Cosmopolitan. สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
  28. "Romance Scams". AARP.com. 2023-01-23.
  29. Hall, Jake. "The OnlyFans Stars Who Hire Assistants to Pretend to Be Them". MEL. สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
  30. "How Creators Verification Works on My.Club". My.Club. สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
  31. "10 Most Bizarre Scams (That Actually Worked)". PopCrunch. 2010-08-12.
  32. Mannika, Eleanor (2014). "The New York Times Movies: Rakenstam (1983)". Movies & TV Dept. The New York Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-07-14. สืบค้นเมื่อ 2014-07-11.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

  • Phishing ที่เว็บไซต์ Curlie
  • Catfished ที่ยูทูบ เป็นรายการยูทูบที่เหยื่อมาปรึกษาทีมผู้สอบสวนเพื่อตัดสินว่าคู่รักของเขาเป็นของจริง หรือเป็นนักหลอกลวง ผู้สอบสวนจะตรวจกำเนิดของรูปภาพที่ใช้ ตรวจสอบรายละเอียดทางภูมิศาสตร์และรายละเอียดอื่นๆ เพื่อให้เหยื่อได้ความกระจ่างใจ