สุขาวดีอเวจี
สุขาวดีอเวจี (ญี่ปุ่น: 地獄楽; โรมาจิ: Jigokuraku) เป็นซีรีส์มังงะญี่ปุ่น แต่งเรื่องและวาดภาพโดยยูจิ คากุ เรื่องราวในยุคเอโดะของญี่ปุ่น เกี่ยวกับนินจาชื่อกาบิมารุและเพชฌฆาตชื่อยามาดะ อาซาเอมอน ซางิริในการตามหายาอมตะ เผยแพร่ฟรีเป็นรายสัปดาห์ในแอปพลเคลันและเว็บไซต์โชเน็งจัมป์+ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ถึงมกราคม พ.ศ. 2564 สำนักพิมพ์ชูเอชะรวบรวมตีพิมพ์เป็นหนังสือมังงะรวมเล่ม (ทังโกบง) ทั้งหมด 13 เล่ม มังงะมีลิขสิทธิ์ในประเทศไทยโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ซีรีส์อนิเมะโทรทัศน์ผลิตโดยสตูดิโอแมปปา ออกอากาศตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกรกฎาคม พ.ศ. 2566 ฤดูกาลที่ 2 มีการประกาศสร้าง
สุขาวดีอเวจี | |
หน้าปกของมังงะ สุขาวดีอเวจี เล่ม 1 ในฉบับภาษาไทย | |
地獄楽 (Jigokuraku) | |
---|---|
ชื่อภาษาอังกฤษ | Hell's Paradise: Jigokuraku |
แนว | |
มังงะ | |
เขียนโดย | ยูจิ คากุ |
สำนักพิมพ์ | ชูเอชะ |
สำนักพิมพ์ภาคภาษาไทย | สยามอินเตอร์คอมิกส์ |
ในเครือ | จัมป์คอมิกส์+ |
นิตยสาร | โชเน็งจัมป์+ |
นิตยสารภาษาไทย | มังงะพลัส |
กลุ่มเป้าหมาย | โชเน็ง |
วางจำหน่ายตั้งแต่ | 22 มกราคม พ.ศ. 2561 – 25 มกราคม พ.ศ. 2564 |
จำนวนเล่ม | 13 |
อนิเมะโทรทัศน์ | |
กำกับโดย | คาโอริ มากิตะ |
เขียนบทโดย | อากิระ คินดาอิจิ |
ดนตรีโดย | โยชิอากิ เดวะ |
สตูดิโอ | แมปปา |
ถือสิทธิ์โดย | เน็ตฟลิกซ์ |
เครือข่าย | ทีวีโตเกียว |
ฉาย | 1 เมษายน พ.ศ. 2566 – 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2566 |
ตอน | 13 |
เนื้อเรื่อง
แก้กาบิมารุ ผู้ว่างเปล่า นินจาผู้แข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวที่สุด อยู่มาวันหนึ่งเขาถูกทางการจับกุมตัวไประหว่างปฏิบัติภารกิจลอบสังหาร และถูกตัดสินให้ประหารชีวิต แต่ดูเหมือนไม่มีอะไรจะฆ่าเขาได้เนื่องจากร่างกายที่เหนือมนุษย์ของเขา ยามาดะ อาซาเอมอน ซากิริ นักตัดเศียรเชื่อว่าความรักที่เขามีต่อภรรยาทำให้เขามีชีวิตอยู่โดยไม่รู้ตัว เสนอโอกาสให้เขาได้รับการอภัยโทษจากอาชญากรรมทั้งหมดจากโชกุน หากเขาพบ "ยาอมตะ" ในแดนสุขาวดี ดินแดนในตำนานที่เพิ่งถูกค้นพบทางตะวันตกเฉียงใต้ของอาณาจักรริวกิว หลังจากสูญเสียทีมสำรวจ 5 คนที่ถูกส่งไปที่เกาะ ครั้งนี้รัฐบาลโชกุนส่งนักโทษประหารกลุ่มหนึ่ง นักโทษแต่ละคนจะเดินทางไปพร้อมกับพร้อมกับตระกูลนักตัดเศียร “ยามาดะอาซาเอมอน” การเดินทางสู่ดินแดนที่ไม่มีผู้ใดรอดชีวิตกลับมาได้
ตัวละคร
แก้ตัวละครหลัก
แก้- กาบิมารุ (画眉丸 Gabimaru)
- ให้เสียงโดย: ชิอากิ โคบายาชิ[4]
นินจาที่แข็งแกร่งที่สุดจากอิวะคางุเระ ที่ซึ่งเขาถูกหัวหน้าหมู่บ้านพรากจากพ่อแม่ตั้งแต่ยังเป็นเด็กและฝึกฝนให้เป็นนักฆ่า เขาเป็นที่รู้จักในชื่อ "กาบิมารุผู้ว่างเปล่า" (がらんの画眉丸 , Garan no Gabimaru ) เนื่องจากเขาไม่มีอารมณ์ในการทำงานที่น่าสยดสยอง อย่างไรก็ตาม เขารักภรรยาของเขามาก ลูกสาวผู้รักความสงบของหัวหน้าหมู่บ้านที่ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเมตตา เมื่อเขาต้องการตัดสัมพันธ์กับหมู่บ้านและใช้ชีวิตตามปกติกับภรรยา หัวหน้าจึงจัดการจับเขาและตัดสินประหารชีวิต
- ยามาดะ อาซาเอมอน ซางิริ (山田浅ェ門佐切 Yamada Asaemon Sagiri)
- ให้เสียงโดย: ยูมิริ ฮานาโมริ[4]
นักดาบหญิงระดับปรมาจารย์จากตระกูลเพชฌฆาต "ยามาดะ อาซาเอมอน" ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในเพชฌฆาตหญิงเพียงสองคนในกลุ่ม เธอชักชวนกาบิมารุให้ร่วมเดินทางหลังจากได้เห็นพรสวรรค์และความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ของเขา ซากิริอยู่ในอันดับที่ 12 ในลำดับชั้นของยามาดะ อาซาเอมอน
นักโทษประหาร
แก้อาชญากรที่รัฐบาลโชกุนเลือกที่จะออกเดินทางสู่ชินเซ็นเคียวและค้นหาน้ำอมฤตแห่งชีวิตพร้อมกับเพชฌฆาตที่ได้รับมอบหมายจากยามาดะ อาซาเอมอน
- ยุซุริฮะ (杠 Yuzuriha)
- ให้เสียงโดย: ริเอะ ทากาฮาชิ[4]
เป็นนินจาหญิงที่ได้รับสมญาว่า “เคชุโนะ ยุซุริฮะ” (傾主の杠) เธอค่อนข้างเป็นคนที่โหดเหี้ยมและเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก ด้วยความเจ้าเล่ห์ทำให้เธอรับรู้ได้ทันทีว่าใครกำลังโกหก ยุซุริฮะสามารถเผาผลาญยาที่ดื่มเข้าไป แล้วปล่อยออกมาให้เป็นเส้นด้ายที่มีความเหนียวคล้ายใยแมงมุมได้
- อะซา โจเบ (亜左 弔兵衛 Aza Chōbei)
- ให้เสียงโดย: คิมุระ เรียวเฮย์[4]
เป็นอาชญากรผู้ก่อตั้งหมู่บ้านโจรภูเขาขนาดใหญ่ในหุบเขาลึกของอิโยะ เขาได้รับสมญาว่า “ราชาโจรภูเขา” ด้วยบุคลิกที่โหดเหี้ยมกับความสามารถในการปรับตัวสูงของเขา ทำให้รอดพ้นจากการต่อสู้มาหลายครั้ง เป็นพี่ชายของโทมะ และถูกคุมตัวโดยน้องชายของเขา
- ทามิยะ กันเท็ตไซ (民谷 巌鉄斎 Tamiya Gantetsusai)
- ให้เสียงโดย: อินาดะ เท็ตสึ[4]
เป็นปรมาจารย์วิชาดาบ ผู้ได้รับการขนานนามว่า “ดาบมังกร ” (Blade Dragon: 剣龍) และ “หนึ่งในฮัชชู” เขาขัดเกลาวิชาดาบให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ปรารถนาในการทิ้งชื่อเอาไว้ให้เลื่องลือตราบนานเท่านาน กันเท็ตสึไซ สร้างวีรกรรมด้วยการฟันมังกรที่ประดับบนคฤหาสน์ขุนนาง
- นุรุไก (ヌルガイ Nurugai)
- ให้เสียงโดย: มาโกโตะ โคอิจิ[4]
เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของเผ่าโบราณ แต่การที่ชนเผ่าไม่ปฏิบัติตามแบบแผนของรัฐจึงโดนกล่าวหาว่าเป็นกบฏ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับความรู้สึกผิดที่เป็นคนนำทาง ซามูไรของรัฐบาลเข้ามาในหมู่บ้านจนเป็นเหตุให้คนในหมู่บ้านถูกกวาดล้างจนเกลี้ยง ด้วยพฤติกรรมและการแต่งกายของเธอ ทำให้เธอมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กผู้ชาย แต่แท้จริงแล้วเธอนั้นเป็นเด็กผู้หญิง
- โรคุโรตะ (六呂田 Rokurota)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
อาชญากรที่แข็งแกร่งและน่ากลัว มีชื่อเล่นว่า "ยักษ์แห่งบิเซ็น" โรคุโรตะเป็นชายที่ไม่ได้รับการพัฒนาทางจิตใจเนื่องจากเขามีจิตใจของทารก ในขณะที่เขาไม่สามารถพูดและร้องไห้ได้เมื่อเขาหิว เขาเป็นที่น่าเกรงขามในพละกำลังอันมหาศาลของเขา เขาเคยฆ่าคนมากมายด้วยมือเปล่า บ่อยครั้งด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว รวมทั้งพ่อแม่ของเขา ชาวบ้านหลายคน
- อาคากินุ (赤犬 Akainu)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
อาคากินุสมญานาม "นางคณิกากินคน" เป็นหญิงสาวรูปร่างงดงามมีสเน่ห์ เธอชอบกินเนื้อมนุษย์โดยเฉพาะเพศชาย ถูกคุมโดยยามาดะ อาซาเอมอน ชิอง
- โฮรุโบ (ホルボ Horubo)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เป็นบุคคลที่มีความโหดเหี้ยมและเป็นฆาตกรโดยแท้ มีความสามารถในความหยืดหยุ่นสูงและบิดข้อต่อกระดูกได้
- โมโระ มาคิยะ (モロ マキヤ Moro Makiya)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
บาทหลวงเสื่อมศรัทธา เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานและมักชักจูงผู้คนให้เข้าร่วมลัทธิเพื่อล้มล้างโชกุน และอ่อนไหวต่อสเน่ห์ของผู้หญิง
- อิกามิโนะ เคอุน (イカミノ ケイウン Ikamino Keiun)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
ชายผู้กระหายและคลั่งไคล้ในอาวุธทุกชนิด และคิดว่าตนมีความสามารถในการใช้อาวุธได้ทุกศาสตร์
ยามาดะ อาซาเอมอน
แก้ยามาดะ อาซาเอมอน (山田浅ェ門) เป็นโรงฝึกนักดาบที่มีชื่อเสียงในเอโดะ พวกเขาฝึกฝนผู้ทดสอบดาบให้เป็นเพชฌฆาตอย่างเต็มตัวสำหรับโชกุน เมื่อได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่ นักดาบแต่ละคนจะมีชื่อนำหน้าด้วยชื่อ "ยามาดะ อาซาเอมอน"
- โทมะ (桐馬 Toma)
- ให้เสียงโดย: เคนโช โอโนะ[4]
เป็นน้องชายและเป็นมือขวาของ "อะซา โจเบ" หลังจากที่พี่ชายของเขาถูกจับ โทมะได้แทรกซึมเข้าไปในกลุ่มยามาดะ อาซาเอมอนเพื่อรวมตัวกับพี่ชายในคุกอีกครั้ง และมอบภารกิจของโชกุนให้เขาได้รับยาอมตะ จากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดี ด้วยรางวัลเป็นการยกโทษให้อาชญากรจากการก่ออาชญากรรมในอดีต
- ฟุจิ (付知 Fuchi)
- ให้เสียงโดย: อาโออิ อิจิกาวะ[4]
อาซาเอมอนอันดับ 9 ในตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต ฟุจิเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "ทามิยะ กันเท็ตไซ"
- ชิออน,ชิอง (士遠 Shion)
- ให้เสียงโดย: ชิกาฮิโระ โคบายาชิ[5]
เป็นอดีตอาซาเอมอนอันดับ 4 หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต ชิองเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "อาคากินุ"
- เท็นสะ (典坐 Tenza)
- ให้เสียงโดย: ยูซูเกะ โคบายาชิ[5]
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 10 ของตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต เท็นสะเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "นุรุไก"
- เซ็นตะ (仙汰 Senta)
- ให้เสียงโดย: ไดกิ ยามาชิตะ[5]
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 5 ของตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต เซ็นตะเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "ยูซูริฮะ"
- เอเซ็น (衛善 Eizen)
- ให้เสียงโดย: มาโกโตะ ฟูรูกาวะ[6]
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 1 ของตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต เอเซ็นเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "โรคุโรตะ"
- คิโช (期聖 Kishō)
- ให้เสียงโดย: ชุนอิจิ โทกิ[6]
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 11 ของตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต คิโชเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "อิกามิโนะ เคอุน"
- เก็นจิ (源嗣 Genji)
- ให้เสียงโดย: เคนสุเกะ โอตะ[6]
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 8 ของตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต เก็นจิเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "โมโระ มาคิยะ"
- จิกกะ (ジッカ Jikka)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เป็นหัวหน้าคนปัจจุบันของตระกูลยามาดะและอาซาเอมอนอันดับ 3 คนก่อนหน้า หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต จิกกะเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "โฮรุโบ" อย่างไรก็ตาม ภารกิจของเขาต้องหยุดชะงักลงหลังจากที่อาชญากรที่ได้รับมอบหมายของเขาถูกสังหารในทะเลโดย "อะซา โจเบ" และได้รับสิทธิพิเศษในการเดินทางกลับแผ่นดินใหญ่ หลังจากนั้นเขาได้รับคำสั่งให้เดินทางกลับเกาะโดยขึ้นเรือพร้อมกับเรือยกพลขึ้นบกลำที่สองและดำเนินการค้นหายาอมตะต่อไป
- ชูเก็น (仙汰 Shugen)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เขาเป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 2 ของตระกูลยามาดะ และเป็นผู้ช่วยผู้สอนคนก่อน หลังจากที่โชกุนเริ่มหมดความอดทนกับทีมแรกที่ได้รับยาอมตะบนเกาะ ชูเก็นก็กลายเป็นผู้นำของทีมที่สองที่ส่งไปหายาอมตะ เมื่อขึ้นฝั่งบนเกาะและพบหลักฐานว่าพวกพ้องเหล่ายามาดะ อาซาเอมอนของเขาเสียชีวิต ชูเก็นจึงสั่งให้ทีมกำจัดอาชญากรที่รอดตายและสัตว์ประหลาดที่พบเห็น
- อีซูซุ (鈴 Isuzu)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เป็นอาซาเอมอน ที่ไม่มีลำดับในตระกูลยามาดะและเป็นน้องสาวของ "ยามาดะ อาซาเอมอน เก็นจิ" หลังจากที่โชกุนเริ่มหมดความอดทนกับทีมแรกที่ได้รับยาอมตะบนเกาะ อิซูซุ และ คิโยมารุ ได้รับเลือกให้เข้าร่วมกับ ชูเก็น และ จิกกะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่สองที่ส่งไปหายาอมตะ นอกจากนี้กลุ่มยังได้รับคำสั่งจากชูเก็นให้กำจัดอาชญากรของทีมแรก เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนเกาะ และปกป้องยามาดะ อาซาเอมอนที่เฝ้าติดตาม
- คิโยมารุ (清よ丸 Kiyomaru)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เป็นอาซาเอมอน ที่ไม่มีลำดับในตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเริ่มหมดความอดทนกับทีมแรกที่ได้รับยาอมตะบนเกาะ คิโยมารุ และ อิซูซุได้รับเลือกให้เข้าร่วมกับ ชูเก็น และ จิกกะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่สองที่ส่งไปหายาอมตะ นอกจากนี้กลุ่มยังได้รับคำสั่งจากชูเก็นให้กำจัดอาชญากรของทีมแรก เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนเกาะ และปกป้องยามาดะ อาซาเอมอนที่เฝ้าติดตาม
- สึมุสึมุ (努つむ々 Tsumutsumu)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 7 ของตระกูลยามาดะและเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้รับภารกิจบนเกาะสุขาวดี
- กากาอิโมะ (ががいも Gagaimo)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 6 ของตระกูลยามาดะและเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้รับภารกิจบนเกาะสุขาวดี
เท็นเซ็น
แก้สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่อาศัยอยู่ในโฮไร ที่ใจกลางเกาะซึ่งเชี่ยวชาญในห้าระดับของเต๋า ถึงจุดสุดยอดในการใช้พลังฉีเพื่อเปลี่ยนระหว่างหยินและหยาง ร่างมนุษย์หญิงและชาย ด้วยการใช้ยาอมตะที่พวกเขาเรียกว่า "ทัน" ร่างกายที่เหมือนพืชของพวกมันสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ ทำให้พวกมันแทบจะเป็นอมตะ พวกเขารับใช้โดย โดชิ สิ่งมีชีวิตครึ่งมนุษย์ที่อยู่บนเส้นทางสู่การควบคุมเต๋า และเป็นระดับที่เหนือกว่า โซชิน ที่ไร้ความคิดซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดที่มีรูปลักษณ์ของเทพต่าง ๆ และโจมตีใครก็ตามที่มาถึงเกาะ
- เมย์ (メイ Mei)
- ให้เสียงโดย: โคโนมิ โคฮาระ[7]
เป็นเซ็นนิน ระดับเท็นเซ็น ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรกับเหล่าเท็นเซ็นซึ่งถูก "ริเอ็น" เนรเทศ เนื่องจากทำตัวท้าทาย หลังจากถูกพบโดยโฮโก เมย์ก็หลบซ่อนตัวและเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนโคทาคุ โดยเขาเลี้ยงดูในฐานะลูกสาวของเขา หลายปีต่อมา เธอกลายเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ ที่รอดชีวิตในความพยายามที่จะดึงยาอมตะที่เรียกว่า"ทัน" จากเหล่าเท็นเซ็นและหลบหนีออกจากเกาะ
- จูฟา (ジュファ Ju Fa)
- ให้เสียงโดย: จุนอิชิ ซุวะเบะ[7]
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็นและผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "มหาเทพผู้มุ่งหมายรู้แจ้ง" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
- เต๋าฟา (タオファ Tao Fa)
- ให้เสียงโดย: ยูโกะ คาอิดะ[7]
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็น และผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "ปราชญ์ผู้เป็นรตนะ" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
- ริเอ็น (リエン Rien)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
รู้จักกันในชื่อเล่นว่า "มหาเทพสูงสุดผู้มีสติปัญญากว้างไกล" เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็นซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของ โคทาคุ บรรพบุรุษของเท็นเซ็นและเป็นผู้นำของเหล่าเท็นเซ็น ตลอดชีวิตของเธอบนโคทาคุ ริเอ็นได้วางแผนและทดลองตามแนวทางของเต๋า เพื่อพยายามชุบชีวิตโจฟุคุ สามีอันเป็นที่รักของเธอผู้ล่วงลับ และมีเป้าหมายที่จะกำจัดทุกชีวิตในญี่ปุ่นเพื่อเติมเต็มความทะเยอทะยานนี้
- มูดัน (ムーダン Mu Dan)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็น และผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "ท่านขุนผู้อุดมพูลผล" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
- จุจิน (ヂュジン Zhu Jin)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็น และผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "เทพผู้มีจิตเสรี" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
- กุยฟา (グイファ Gui Fa)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็น และผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "นายเหนือผู้งดงาม" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
- รัน (ラン Ran)
- ให้เสียงโดย: ไม่มีข้อมูล
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็น และผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "เทพผู้บรรดาลความปรารถนา" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
อิวะคางุเระ
แก้หมู่บ้านนินจาที่ฝึกฝนเด็กให้เป็นนักฆ่า ที่รับงานตั้งแต่จิปาถะธรรมดาจนถึงงานสกปรก เช่นการลอบสังหาร
- ยุย (ユイ Yui)
- ให้เสียงโดย: มามิโกะ โนโตะ[6]
เป็นลูกสาวคนที่แปดของหัวหน้าอิวะคางุเระ และภรรยาของกาบิมารุ ยุยเป็นเด็กสาวจิตใจดีที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับกาบิมารุเพื่อทำให้กาบิมารุเป็นเครื่องมือที่เชื่อฟังคำสั่งของหมู่บ้าน แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้ามยุยกลับทำให้กาบิมารุอยากเลิกเป็นนินจาแล้วมาใช้ชีวิตแบบธรรมดาปกติ
สื่อ
แก้มังงะ
แก้เขียนและวาดภาพโดย Yuji Kaku สุขาวดีอเวจี : Jigokuraku เริ่มการตีพิมพ์รายสัปดาห์บน แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ Shōnen Jump+เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2018[8][9] ซีรีส์นี้จบลงด้วยตอนที่ 127 ในวันที่ 25 มกราคม 2021[10] มีการรวบรวมบทและจัดพิมพ์เป็น เล่ม tankōbon 13 เล่มโดย Shueisha ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2020 ถึง 30 เมษายน 2021 นอกจากนี้ Shueisha ยังเผยแพร่ซีรีส์นี้เป็นภาษาอังกฤษฟรีพร้อมกันบนแอปและเว็บไซต์ Manga Plus[11] ตอนพิเศษได้รับการตีพิมพ์ในโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ในฉบับที่ 27/28 ของวันที่ 6 สิงหาคม 2018 และฉบับที่ 28 ของวันที่ 10 มิถุนายน 2019[12][13] One-shot ตอนพิเศษหัวข้อ "Forest of Misfortune" (勿怪の森, Mokke no Mori ) เผยแพร่ทางโชเน็นจัมป์+เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2566[14]
Jigokuraku ~Saikyō no Nukenin Gaman no Gabimaru~ (じごくらく 〜最強の抜け忍 がまんの画眉丸〜 ) มังงะแนวคอมเมดี้ที่แยกออกมาสร้างโดย Ōhashi เริ่มสร้างซีรีส์ใน Shōnen Jump+เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2020[15] จบลงด้วยตอนที่ 21 ในวันที่ 29 มิถุนายน 2020 บทเหล่านี้ได้รับการรวบรวมและเผยแพร่เป็นหนึ่ง tankōbon ในวันที่ 4 กันยายน 2020[16]
Viz Media เริ่มเผยแพร่ สุขาวดีอเวจี : Jigokuraku เป็นภาษาอังกฤษแบบดิจิทัลบนเว็บไซต์ของพวกเขาฟรีในวันที่ 17 พฤษภาคม 2018[17] พวกเขาวางจำหน่ายฉบับพิมพ์ทั้ง 13 เล่มตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2020[18] ถึง 15 มีนาคม 2022[19]
รายการ
แก้# | วันที่ออกจำหน่ายต้นฉบับ | ISBN ต้นฉบับ | วันที่ออกจำหน่ายภาษาไทย | ISBN ภาษาไทย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | 4 เมษายน 2561[20] | 978-4-08-881471-1 | 17 มีนาคม 2563[18] | 978-1-9747-1320-2 | |
| |||||
2 | 4 มิถุนายน 2561[21] | 978-4-08-881502-2 | 19 พฤษภาคม 2563[22] | 978-1-9747-1321-9 | |
| |||||
3 | 3 สิงหาคม 2561[23] | 978-4-08-881546-6 | 21 กรกฎาคม 2563[24] | 978-1-9747-1322-6 | |
| |||||
4 | 2 พฤศจิกายน 2561[25] | 978-4-08-881601-2 | 15 กันยายน 2563[26] | 978-1-9747-1323-3 | |
| |||||
5 | 4 มีนาคม 2562[27] | 978-4-08-881697-5 | 17 พฤศจิกายน 2563[28] | 978-1-9747-1324-0 | |
| |||||
6 | 4 มิถุนายน 2562[29] | 978-4-08-881803-0 | 19 มกราคม 2564[30] | 978-1-9747-1325-7 | |
| |||||
7 | 4 กันยายน 2562[31] | 978-4-08-882056-9 | 16 มีนาคม 2564[32] | 978-1-9747-1877-1 | |
| |||||
8 | 4 ธันวาคม 2562[33] | 978-4-08-882148-1 | 18 พฤษภาคม 2564[34] | 978-1-9747-1878-8 | |
| |||||
9 | 4 มีนาคม 2563[35] | 978-4-08-882230-3 | 20 กรกฎาคม 2564[36] | 978-1-97-471530-5 | |
| |||||
10 | 4 มิถุนายน 2563[37] | 978-4-08-882338-6 | 21 กันยายน 2564[38] | 978-1-9747-2099-6 | |
| |||||
11 | 4 กันยายน 2563[39] | 978-4-08-882407-9 | 16 พฤศจิกายน 2564[40] | 978-1-9747-2282-2 | |
| |||||
12 | 4 ธันวาคม 2563[41] | 978-4-08-882523-6 | 18 มกราคม 2565[42] | 978-1-9747-2464-2 | |
| |||||
13 | 30 เมษายน 2564[43] | 978-4-08-882583-0 | 15 มีนาคม 2565[19] | 978-1-9747-2851-0 | |
|
อนิเมะ
แก้อนิเมะทีวีซีรีส์ดัดแปลงได้รับการประกาศโดยโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2564[44] ผลิตโดย MAPPA และกำกับโดย คาโอริ มาคิตะ โดยมีอากิระ คินดะอิจิเขียนบท โคจิ ฮิซากิออกแบบตัวละคร และโยชิอากิ เดวะแต่งเพลง[45] ซีรีส์นี้ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนถึง 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ทาง TV Tokyo และเครือข่ายอื่น ๆ[4] เพลงเปิดคือ "Work" โดย Ringo Sheena และ Millennium Parade ในขณะที่เพลงปิดคือ "Kamihitoe" โดย Uru ครันชี่โรลได้รับลิขสิทธิ์ซีรีส์สำหรับการสตรีมในอเมริกา ยุโรป แอฟริกา โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง และ CIS ในขณะที่ Netflix ได้รับลิขสิทธิ์ซีรีส์ในเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีนแผ่นดินใหญ่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) มีการประกาศฤดูกาลที่สองหลังจากการออกอากาศตอนที่สิบสาม
รายชื่อตอน
แก้ตอน | ชื่อ [46] | กำกับโดย [a] | เขียนโดย [a] | สตอรีบอร์ดโดย [a] | วันฉายเดิม [47] |
---|---|---|---|---|---|
1 | "อาชญากรและมือสังหาร" ถอดเสียง: "Shizaijin to Shikkōnin" (ญี่ปุ่น: 死罪人と執行人) | คาโอริ มากิตะ | อากิระ คินดาอิจิ | คาโอริ มากิตะ | 1 เมษายน 2566 |
2 | "จัดลำดับและคัดเลือก" ถอดเสียง: "Senbetsu to Sentaku" (ญี่ปุ่น: 選別と選択) | ยาซูฮิโระ เกชิ | อากิระ คินดาอิจิ | คาซูกิ อากาเนะ | 8 เมษายน 2566 |
3 | "จุดอ่อนและจุดแข็ง" ถอดเสียง: "Yowasa to Tsuyosa" (ญี่ปุ่น: 弱さと強さ) | คาโยนะ ยามาดะ | อากิระ คินดาอิจิ | โซจิ นิโนมิยะ | 15 เมษายน 2566 |
4 | "นรกกับสวรรค์" ถอดเสียง: "Jigoku to Gokuraku" (ญี่ปุ่น: 地獄と極楽) | เท็ตสึยะ วากาโนะ | อากิระ คินดาอิจิ | เท็ตสึยะ วากาโนะ | 22 เมษายน 2566 |
5 | "ซามูไรกับสตรี" ถอดเสียง: "Samurai to Onna" (ญี่ปุ่น: 侍と女) | ชู วาตานาเบะ | อากิระ คินดาอิจิ | ชิเงยูกิ มิยะ | 29 เมษายน 2566 |
6 | "อารมณ์และเหตุผล" ถอดเสียง: "Kokoro to Kotowari" (ญี่ปุ่น: 心と | ยาซูฮิโระ เกชิ | อากิระ คินดาอิจิ | ยาซูฮิโระ เกชิ | 6 พฤษภาคม 2566 |
7 | "ดอกไม้และการเสียสละ" ถอดเสียง: "Hana to Nie" (ญี่ปุ่น: 花と贄) | เค็นโตะ ชินตานิ | อากิระ คินดาอิจิ | ริซาโกะ โยชิดะ | 13 พฤษภาคม 2566 |
8 | "สาวกและเจ้านาย" ถอดเสียง: "Deshi to Shi" (ญี่ปุ่น: 弟子と師) | ฟูมิโตะ ยามาดะ | อากิระ คินดาอิจิ | คาโอริ มากิตะ | 20 พฤษภาคม 2566 |
9 | "พระเจ้ากับมนุษย์" ถอดเสียง: "Kami to Hito" (ญี่ปุ่น: 神と人) | รีวตะ ยามาโมโตะ | อากิระ คินดาอิจิ | จุง ชิชิโดะ | 3 มิถุนายน 2566 |
10 | "เงาและแสงสว่าง" ถอดเสียง: "In to Yō" (ญี่ปุ่น: 陰と陽) | ทาโร คูโบะ ยูกิ นิชิฮาตะ | อากิระ คินดาอิจิ | เท็ตสึยะ วากาโนะ | 10 มิถุนายน 2566 |
11 | "อ่อนแอและแข็งแกร่ง" ถอดเสียง: "Yowai to Tsuyoi" (ญี่ปุ่น: 弱イと強イ) | ยาซูฮิโระ เกชิ | อากิระ คินดาอิจิ | ชิเงยูกิ มิยะ | 17 มิถุนายน 2566 |
12 | "ร่มกับหมึก" ถอดเสียง: "Kasa to Sumi" (ญี่ปุ่น: 傘と墨) | เทรูยูกิ โอมิเนะ | อากิระ คินดาอิจิ | จุง ชิชิโดะ | 24 มิถุนายน 2566 |
13 | "ความฝันกับความจริง" ถอดเสียง: "Yume to Utsutsu" (ญี่ปุ่น: 夢と現) | คาโอริ มากิตะ ยาซูฮิโระ เกชิ | อากิระ คินดาอิจิ | จุง ชิชิโดะ เทรูยูกิ โอมิเนะ | 1 กรกฎาคม 2566 |
หมายเหตุ
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 Santilli, Morgana (2019-12-31). "REVIEW: A shot at redemption comes in HELL'S PARADISE: JIGOKURAKU". Comics Beat. สืบค้นเมื่อ 2020-01-01.
- ↑ ここは地獄か極楽か。謎の島で繰り広げられるダークファンタジー『地獄楽』の待望の最新刊! (ภาษาญี่ปุ่น). Asahi Shimbun. 2019-06-04. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 18, 2021. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ "Comics Book Review: Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 1". Publishers Weekly. 2020-02-06. สืบค้นเมื่อ 2020-05-30.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 4.7 4.8 Hodgkins, Crystalyn (December 18, 2022). "Hell's Paradise: Jigokuraku Anime's New Promo Video Reveals 7 Main Cast Members, April 2023 Debut". Anime News Network. สืบค้นเมื่อ December 18, 2022. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Cast" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ 5.0 5.1 5.2 Loo, Egan (January 29, 2023). "Hell's Paradise: Jigokuraku Anime's New Video Unveils 4 More Cast Members". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 29, 2023. สืบค้นเมื่อ January 29, 2023.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 Hazra, Adriana (March 20, 2023). "Hell's Paradise: Jigokuraku Anime Reveals 3 More Cast Members". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 20, 2023. สืบค้นเมื่อ March 20, 2023.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 Hodgkins, Crystalyn (May 14, 2023). "Junichi Suwabe, Yuko Kaida, Konomi Kohara Join Cast of Hell's Paradise: Jigokuraku Anime". Anime News Network. สืบค้นเมื่อ May 14, 2023.
- ↑ [1話]地獄楽. Shōnen Jump+ (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. January 22, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 22, 2018. สืบค้นเมื่อ January 18, 2021.
- ↑ 【入場無料】「少年ジャンプ+」の人気No.1漫画『地獄楽』(ジゴクラク)初の原画展、マンガサロン『トリガー』にて開催決定!!. PR Times (ภาษาญี่ปุ่น). October 31, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 7, 2022. สืบค้นเมื่อ April 2, 2023.
- ↑ Pineda, Rafael Antonio (January 18, 2021). "Hell's Paradise Manga Ends on January 25". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 18, 2021. สืบค้นเมื่อ January 18, 2021.
- ↑ "Shueisha Launches Free Global MANGA Plus Service". Anime News Network. 2019-01-27. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 1, 2020. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ 賀来ゆうじ「地獄楽」未開の島へと赴く道中描いた出張版がジャンプに (ภาษาญี่ปุ่น). Natalie. 2018-08-06. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 12, 2019. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ 「地獄楽」番外編がジャンプに、藤本タツキが同作を語るインタビューも (ภาษาญี่ปุ่น). Natalie. 2019-06-10. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 12, 2019. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อone-shot
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku Gets Comedy Mini-Series Manga". Anime News Network. 2020-01-20. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 27, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-01-20.
- ↑ じごくらく~最強の抜け忍 がまんの画眉丸~ (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 26, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-10-20.
- ↑ "Viz Publishes Hell's Paradise: Jigokuraku Manga Digitally". Anime News Network. 2018-05-18. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 12, 2019. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ 18.0 18.1 "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 1". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 7, 2019. สืบค้นเมื่อ 2019-12-07.
- ↑ 19.0 19.1 "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 13". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 30, 2021. สืบค้นเมื่อ November 1, 2021.
- ↑ 地獄楽 1 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2021. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ 地獄楽 2 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2021. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 2". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-15.
- ↑ 地獄楽 3 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2021. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 3". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 5, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-04-05.
- ↑ 地獄楽 4 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2021. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 4". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 5, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-06-05.
- ↑ 地獄楽 5 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2021. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 5". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 4, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-08-12.
- ↑ 地獄楽 6 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2021. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 6". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-11-09.
- ↑ 地獄楽 7 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2021. สืบค้นเมื่อ 2019-10-12.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 7". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 27, 2021. สืบค้นเมื่อ 2020-12-16.
- ↑ 地獄楽 8 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2021. สืบค้นเมื่อ 2019-12-01.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 8". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 11, 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-02-07.
- ↑ 地獄楽 9 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2021. สืบค้นเมื่อ 2020-01-20.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 9". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 6, 2021. สืบค้นเมื่อ April 5, 2021.
- ↑ 地獄楽 10 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2021. สืบค้นเมื่อ 2020-01-20.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 10". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 6, 2021. สืบค้นเมื่อ June 6, 2021.
- ↑ 地獄楽 11 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2021. สืบค้นเมื่อ 2020-08-30.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 11". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 1, 2021. สืบค้นเมื่อ August 1, 2021.
- ↑ 地獄楽 12 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 3, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-10-24.
- ↑ "Hell's Paradise: Jigokuraku, Vol. 12". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 1, 2021. สืบค้นเมื่อ October 1, 2021.
- ↑ 地獄楽 13 (ภาษาญี่ปุ่น). Shueisha. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2021. สืบค้นเมื่อ April 5, 2021.
- ↑ Hodgkins, Crystalyn (January 24, 2021). "Yūji Kaku's Hell's Paradise: Jigokuraku Manga Gets TV Anime". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2021. สืบค้นเมื่อ January 24, 2021.
- ↑ Pineda, Rafael (December 19, 2021). "Hell's Paradise: Jigokuraku Reveals Anime's Teaser & Visual, Stage Play's Fall 2022 Debut". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 19, 2021. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021.
- ↑ "Monogatari | "Jigokuraku" Kōshiki Saito" 物語|「地獄楽」公式サイト [Story | "Hell's Paradise" Official Website]. jigokuraku.com (ภาษาญี่ปุ่น). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 25, 2023. สืบค้นเมื่อ April 1, 2023.
- ↑ "Hōsō | "Jigokuraku" Kōshiki Saito" 放送|「地獄楽」公式サイト [Broadcast | "Hell's Paradise" Official Website]. jigokuraku.com (ภาษาญี่ปุ่น). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 25, 2023. สืบค้นเมื่อ April 1, 2023.