สำนักรินไซ (ญี่ปุ่น: 臨済宗โรมาจิรินไซ-ชู) เป็นหนึ่งในสามสำนักของศาสนาพุทธนิกายเซน ของญี่ปุ่น (อีกสองสำนักคือ สำนักโซโต และ สำนักโอบะกุ)

ประวัติ

แก้
 
ภาพวาดญี่ปุ่นที่วาดถึง หลินจี้ ยี่สวน (ญี่ปุ่น: รินไซ กิเง็ง)

สำนักรินไซ เป็นสำนักที่แตกออกมาจาก สำนักหลินจี้ ของจีนซึ่งก่อตั้งในสมัยราชวงศ์ถัง

ยุคคะมะกุระ (ค.ศ. 1185–1333)

แก้

ในยุคคะมะกุระ ได้มีความพยายามที่จะตั้งสำนักรินไซในแผ่นดินญี่ปุ่นโดยความพยายามของภิกษุนามว่า เมียวอัง เอไซ ที่ก่อนหน้าในปี 1168 ภิกษุเอไซได้เดินทางไปยังแผ่นดินจีนเพื่อศึกษาเท็นไดเป็นระยะเวลากว่ายี่สิบปี[1] และในปี 1187 ภิกษุเอไซก็ได้เดินทางไปยังจีนอีกครั้ง และเมื่อกลับมายังญี่ปุ่น เขาได้ตั้งสำนักสาขาหลินจิ้ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม "รินไซ"[2] ทั้งนี้ ในหลายสิบปีต่อมา ภิกษุนาม นัมโป โชเมียว ก็ได้เดินทางไปยังจีนเพื่อศึกษาวิถีหลินจี้เช่นเดียวกัน และเมื่อภิกษุโชเมียวกลับมายังญี่ปุ่นก็ได้มาก่อตั้งสำนักรินไซสายโอโตกัง

ยุคมุโระมะชิ (ค.ศ. 1336–1573)

แก้

ในยุคมุโระมะชิ ด้วยการเป็นที่นับถือและสนับสนุนจากโชกุน ทำให้สำนักรินไซกลายเป็นสำนักที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ตลอดจนเป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้ของศาสนาจารย์เซนที่มีชื่อเสียงหลายคน อาทิ มุโซ โซะเซะกิ

ระบบห้าขุนเขา
แก้

ในยุคมุโระมะชิตอนต้น ได้มีการนำ "ระบบห้าขุนเขา" (โกะซัน) มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ วัดสมาชิกมีสถานะเป็นวัดหลวง การสังคายนาระบบครั้งสุดท้ายประกอบด้วยวัดแต่ละห้าแห่งทั้งในเคียวโตะและคะมะกุระ ระบบนี้ได้แพร่หลายไปทั้งแผ่นดินญี่ปุ่น มีการกำกับโดยรัฐบาลโชกุน[3] ภิกษุที่มีความรู้ความสามารถจะได้รับการว่าจ้างโดยโชกุนเพื่อช่วยในการปกครองและบริหารราชการแผ่นดิน

[4]

ระบบห้าขุนเขา
  เคียวโตะ คะมะกุระ
ชั้นเอก วัดเท็นรีว วัดเค็นโช
ชั้นโท วัดโชโกะกุ วัดเอ็งงะกุ
ชั้นตรี วัดเค็นนิง วัดจุฟุกุ
ชั้นจัตวา วัดโทฟุกุ วัดโจชิ
ชั้นเบญจ วัดมันจุ วัดโจเมียว

อ้างอิง

แก้
  1. Dumoulin & 2005-B, pp. 14–15.
  2. Snelling 1987
  3. Dumoulin & 2005-B:151–152
  4. Dumoulin & 2005-B:153

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้