สะพานเกิ่นเทอ (เวียดนาม: Cầu Cần Thơ) เป็นสะพานขึงข้ามแม่น้ำเหิ่ว ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาที่ใหญ่ที่สุดของแม่น้ำโขง ตั้งอยู่ที่เกิ่นเทอ ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม สะพานมีความยาว 2.75 กิโลเมตร หรือ 1.68 ไมล์ มีช่องจราจร 6 ช่อง กว้างทั้งหมด 23 เมตร (76 ฟุต) โดยมี 4 ช่องสำหรับรถขนาดใหญ่ และอีก 2 ช่อง สำหรับรถจักรยานและรถจักรยานยนต์ ช่องว่างใต้สะพานกว้าง 39 เมตร (128 ฟุต) ซึ่งเรือใหญ่สามารถลอดผ่านได้[1] สะพานเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553[2]

สะพานเกิ่นเทอ
Cầu Cần Thơ
พิกัด10°1′53.95″N 105°48′31.1″E / 10.0316528°N 105.808639°E / 10.0316528; 105.808639
ข้ามแม่น้ำเหิ่ว
ที่ตั้งเกิ่นเทอ ประเทศเวียดนาม
ข้อมูลจำเพาะ
ประเภทสะพานขึง
ความยาว2,750 เมตร (9,022 ฟุต)
15,850 เมตร (52,001 ฟุต) รวมช่วงทางขึ้น
ความกว้าง23.1 เมตร (76 ฟุต)
ความสูง175.3 เมตร (575 ฟุต)
ช่วงยาวที่สุด550 เมตร (1,804 ฟุต)
เคลียร์ตอนล่าง39 เมตร (128 ฟุต)
ประวัติ
วันเริ่มสร้าง25 กันยายน 2547 (2547-09-25)
วันเปิด24 เมษายน 2553 (2553-04-24)
ที่ตั้ง
แผนที่

การก่อสร้าง แก้

นายกรัฐมนตรีฟาน วัน ขาย ทำพิธีเปิดการก่อสร้างสะพานเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2547 ซึ่งสะพานมีกำหนดแล้วเสร็จในปลายปี พ.ศ. 2551 การพังทลายของสะพานบางส่วนขณะกำลังก่อสร้างในปี พ.ศ. 2550 ทำให้การเปิดใช้งานล่าช้าออกไป สะพานนี้เป็นหนึ่งในสะพาน 17 แห่งที่วางแผนจะเชื่อมโยงพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเข้ากับเครือข่ายถนนของเวียดนามภายในปี พ.ศ. 2563 สะพานแห่งนี้ใช้งานทดแทนเครือข่ายเรือข้ามฟากในเส้นทางทางหลวง 1เอ (Quốc lộ 1A) ที่เชื่อมระหว่างจังหวัดหวิญล็อง (Vĩnh Long) ทางฝั่งตะวันออกกับเมืองเกิ่นเทอทางฝั่งตะวันตก[1]

การก่อสร้างสะพานอยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่มที่ปรึกษา Nippon Koei-Chodai (日本工営と長大) และทำสัญญากับผู้รับเหมาชาวญี่ปุ่นหลายรายได้แก่ Taisei Corporation, Kajima Construction และ Nippon Steel ทุนสำหรับโครงการนี้ได้รับทุนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) โดยมีเงินกู้ช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) และรัฐบาลเวียดนาม[1] สะพานเกิ่นเทอได้รับการประกันโดย บริษัทประกันภัยร่วมทุนของ Petrolimex (Tập đoàn Xăng dầu Việt Nam) และ บริษัทประกันภัยของ PetroVietnam (Tập đoàn Dầu khí Việt Nam) มูลค่า 3.2 ล้านล้านด่ง (200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)[3]

การก่อสร้างสะพานเกิ่นเทอแบ่งออกเป็นสามสัญญา โดยผู้รับเหมารายแรกเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างทางลาดสะพานฝั่งหนึ่ง รายที่สองก่อสร้างสะพานหลัก และรายที่สามสร้างถนนทางทิศใต้เข้าสู่เมืองเกิ่นเทอ[4]

เหตุการณ์การพังทลาย แก้

 
ชิ้นส่วนที่เหลือของสะพานเกิ่นเทอวันที่ 10 หลังเหตุการณ์พังทลาย (ภาพวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2550)

ทางลาดความยาว 90 เมตรของสะพานเกิ่นเทอพังลงระหว่างการก่อสร้างในเช้าวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2550 ทรุดลงจากความสูง 30 เมตร[5] ส่วนที่ยุบอยู่เหนือเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในแนวสะพานฝั่งเมืองหวิญล็อง[6] มีวิศวกรและคนงาน 250 คนกำลังทำงานอยู่ในช่วงเวลานั้น[7] มีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 54 ราย บาดเจ็บสาหัส 80 ราย[8] เจิ่น จุ๋ง (Trần Chủng) หัวหน้าหน่วยงานควบคุมคุณภาพการก่อสร้างแห่งชาติภายใต้กระทรวงการก่อสร้าง ระบุว่านี่เป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมการก่อสร้างของเวียดนาม[9]

ภายหลังเหตุการณ์ แก้

การไต่สวนสาเหตุของการพังทลายใช้เวลาสอบสวน 8 เดือน ในขั้นต้นพบว่าเสาชั่วคราวที่ใช้กระจายน้ำหนักนั้นมีขนาดต่ำกว่าที่กำหนดโดยประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการมีระยะเผื่อที่น้อย ส่วนสาเหตุที่แท้จริงคือการสร้างเสาชั่วคราวบางส่วนวางบนพื้นทรายอ่อนซึ่งทรุดตัวไม่สม่ำเสมอและทำให้เสาเอียง[8] ในปี พ.ศ. 2552 รัฐบาลเวียดนามได้สั่งห้าม บริษัทก่อสร้าง Taisei และ Kajima จากการดำเนินงานในเวียดนามเป็นเวลาหนึ่งปี โดยกล่าวโทษบริษัทญี่ปุ่นทั้งสองแห่งว่า ไม่สามารถสร้างส่วนรองรับสะพานที่ปลอดภัยได้[10]

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 "SE Asia's longest cable-stayed bridge underway in Can Tho". September 28, 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 1, 2007. สืบค้นเมื่อ September 28, 2007.
  2. "Inauguration of Can Tho Bridge, linking a range of transport". April 26, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 7, 2012. สืบค้นเมื่อ June 2, 2010.
  3. "Bridge collapse kills at least 52". กันยายน 28, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ มกราคม 22, 2019. สืบค้นเมื่อ กันยายน 29, 2007.
  4. "World price hike hits Mekong projects". March 10, 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 16, 2008. สืบค้นเมื่อ September 29, 2007.
  5. "Can Tho bridge collapses, dozens of people die". Vietnam Net. 2007-09-27. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-23. สืบค้นเมื่อ 2007-09-26.
  6. "Vietnam bridge collapse kills 43". AP. Taipei Times. 2007-09-28. สืบค้นเมื่อ 2007-09-30.
  7. "Fatalities In Vietnam's Can Tho Bridge Collapse Surge To 59". au.news.yahoo.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-13. สืบค้นเมื่อ 2007-09-27.
  8. 8.0 8.1 High, Richard (2008-07-07). "Inquiry reports on Vietnam's Can Tho Bridge collapse". International Construction. KHL Group. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-07. สืบค้นเมื่อ 2016-09-16.
  9. "Collapse of Can Tho Bridge, the most serious disaster in the history of Vietnam's construction". Liberated Saigon News (ภาษาเวียดนาม). 2007-09-29. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-30. สืบค้นเมื่อ 2007-09-29.
  10. Nguyen Dieu Tu Uyen (July 21, 2009). "Vietnam Bans Japan's Taisei, Kajima From Projects (Update1)". Bloomberg L.P. สืบค้นเมื่อ August 8, 2012.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้