สะพานหาวรา หรือ สะพานหาวราห์ (อังกฤษ: Howrah Bridge) เป็นสะพานขึงเหนือแม่น้ำหูคลี (Hooghly River) ในรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย เริ่มสร้างในปี 1943[8][10] โดยมีชื่อเดิมว่าสะพานนิวหาวรา (New Howrah Bridge) เพราะจะสร้างทดแทนสะพานลอยน้ำเก่าที่ตั้งอยู่ในจุดเดียวกัน เป้าหมายของการสร้างนั้นเพื่อเชื่อมเมืองหาวรา (Howrah) กับเมืองโกลกาตา (กัลกัตตา) เข้าด้วยกัน เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 1965 ได้เปลี่ยนชื่อสะพานใหม่เป็น สะพานรพินทระเสตุ (Rabindra Setu) ตั้งตามชื่อของกวีเอกชาวเบงกอล รพินทรนาถ ฐากุร ผู้รับรางวัลโนเบลคนแรกของอินเดียและของเอเชีย[10] อย่างไรก็ตามสะพานนี้ยังเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อเดิมคือสะพานหาวรามากว่า

สะพานหาวรา
Howrah Bridge
สะพานหาวรา
พิกัด22°35′06″N 88°20′49″E / 22.5851°N 88.3469°E / 22.5851; 88.3469
เส้นทาง4 lanes[1] of Strand Road,[2] pedestrians and bicycles
ข้ามแม่น้ำหูคลี (Hooghly River)
ที่ตั้งหาวรา (Howrah) และโกลกาตา
ชื่อทางการรพินทระเสตุ (Rabindra Setu)
ผู้ดูแลสำนักงานบริหารทรัพย์สินท่าเรือโกลกาตา (Kolkata Port Trust)[3]
ข้อมูลจำเพาะ
ประเภทสะพานยื่นแบบสะพานแขวน[4] และ สะพานแบบ truss arch[5]
วัสดุเหล็กกล้า
ความยาว705 m (2,313.0 ft)[6][7]
ความกว้าง71 ft (21.6 m) พร้อมทั้งทางเท้าสองฝั่ง 15 ft (4.6 m) on either side[4]
ความสูง82 m (269.0 ft)[5]
ช่วงยาวที่สุด1,500 ft (457.2 m)[4][5]
เคลียร์ตอนบน5.8 m (19.0 ft)[4]
เคลียร์ตอนล่าง8.8 m (28.9 ft)[4]
ประวัติ
ผู้ออกแบบบริษัทก่อสร้างอมิต กุมาร, เคารวะ และ รจนา (Amit Kumar, Gaurav & Rachna Construction Company)[8]
ผู้สร้างบริษัทก่อสร้างอมิต กุมาร, เคารวะ และ รจนา (Amit Kumar, Gaurav & Rachna Construction Company)
วันเริ่มสร้างค.ศ. 1936 (1936)[8]
วันสร้างเสร็จค.ศ. 1942 (1942)[8]
วันเปิด3 Feb 1943; 81 ปีก่อน (3 Feb 1943)[7]
สถิติ
การจราจรโดยเฉลี่ย300,000 คัน, คนเดินถนน 450,000 คน[9]
ค่าผ่านไม่เก็บค่าผ่านทาง
ที่ตั้ง
แผนที่

สะพานนี้เป็นหนึ่งในสี่สะพานข้ามแม่น้ำหูคลี และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองโกลกาตาและรัฐเบงกอลตะวันตก ส่วนสะพานอื่น ๆ บนแม่น้ำสายเดียวกันคือวิทยาสาครเสตุ (สะพานหูคลีสอง Second Hooghly Bridge), วิเวกนันทะเสตุ (Vivekananda Setu) และ นิเวทิตาเสตุ (Nivedita Setu) การจราจรบนสะพานอยู่ที่วันละ 100,000 คัน[11] และมีคนเดินข้ามสะพานอีกกว่าวันละ 150,000 คน[9] เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นสะพานยื่นที่มีการสัญจรทางเท้ามากที่สุดในโลก[12] เมื่อสร้างเสร็จ สะพานนี้เป็นสะพานยื่นที่ยาวที่สุดเป็นอันดับที่สามในโลกเมื่อแรกสร้างเสร็จ[13] และในปัจจุบันเป็นสะพานยื่นที่ยาวที่สุดในโลกอันดับที่หก[14]

อ้างอิง แก้

  1. "Howrah Bridge Review". สืบค้นเมื่อ 2011-11-21.
  2. "Howrah Bridge Map". สืบค้นเมื่อ 2011-11-26.
  3. "Howrah Bridge Maintenance". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 November 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-11-21.
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 "Bridge Details". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2016. สืบค้นเมื่อ 2011-11-21.
  5. 5.0 5.1 5.2 "Howrah Bridge". สืบค้นเมื่อ 2011-11-21.
  6. "Howrah Bridge". สืบค้นเมื่อ 2011-11-21.
  7. 7.0 7.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ mother
  8. 8.0 8.1 8.2 8.3 "History of the Howrah Bridge". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2013. สืบค้นเมื่อ 2011-11-21.
  9. 9.0 9.1 "Bird droppings gnaw at Howrah bridge frame". The Times Of India. 29 May 2003. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-16. สืบค้นเมื่อ 2011-11-21.
  10. 10.0 10.1 "Howrah Bridge – The Bridge without Nuts & Bolts!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-07. สืบค้นเมื่อ 2011-11-21.
  11. "Flow of Traffic on an average week day (8AM to 8 PM)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 August 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-11-21.
  12. "Hosanna to Howrah Bridge!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 November 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-11-21.
  13. Victor D. Johnson (2007). Essentials Of Bridge Engineering. Oxford & Ibh Publishing Co. Pvt Ltd. p. 259.
  14. Durkee, Jackson (24 May 1999), National Steel Bridge Alliance: World's Longest Bridge Spans (PDF), American Institute of Steel Construction, Inc, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 1 June 2002, สืบค้นเมื่อ 2009-01-02