สงครามตองอู–อยุธยา (ค.ศ. 1662–1664)
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
สงครามตองอู–อยุธยา (ค.ศ. 1662–1664) เป็นสงครามระหว่างราชวงศ์ตองอูแห่งพม่าและกรุงศรีอยุธยาของไทยในช่วง ค.ศ. 1662–1664
สงครามตองอู–อยุธยา (ค.ศ. 1662–1664) | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามพม่า–ไทย | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
ราชวงศ์ตองอู | กรุงศรีอยุธยา | ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
พระเจ้าปเย |
สมเด็จพระนารายณ์ เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) | ||||||||
หน่วยที่เกี่ยวข้อง | |||||||||
กองทัพบกพม่า
|
กองทัพไทย | ||||||||
กำลัง | |||||||||
ไม่ทราบ | ไม่ทราบ |
ภูมิหลัง
แก้ใน ค.ศ. 1664 กองทัพแมนจูซึ่งอยู่นอกกำแพงเมืองจีนบุกเข้ายึดเป่ย์จิงเมืองหลวงของราชวงศ์หมิง ประกาศล้มเลิกราชวงศ์หมิง และจัดตั้งราชวงศ์ชิงขึ้นแทนที่[1] ภายในสองปีถัดมา ขณะที่ราชวงศ์ชิงพยายามขยายอำนาจเข้าสู่ภาคเหนือของจีนนั้น จู โหยวหลาง (朱由榔) จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิงใต้กับผู้ภักดีที่ยังเหลือก็พยายามรวมตัวกันอยู่ทางใต้ ครั้นปลายเดือนมกราคม ค.ศ. 1659 องค์ชายตัวหนี (多尼) แห่งราชวงศ์ชิงนำทัพเข้ายึดยฺหวินหนาน (雲南) ไว้ได้ ทำให้จู โหยวหลาง หลีกลี้เข้าสู่พม่าซึ่งอยู่ใกล้เคียงและเวลานั้นมีผู้ปกครอง คือ พระเจ้าปีนดะเลแห่งราชวงศ์ตองอู[2]
การรุกรานครั้งแรก
แก้ใน ค.ศ. 1660 กองทัพจีนบุกถึงอังวะเพื่อตามจับตัวจู โหยวหลาง และใน ค.ศ. 1661 พระอนุชาของพระเจ้าปีนดะเลยึดอำนาจ ถอดพระเจ้าปีนดะเลออกจากราชสมบัติ แล้วขึ้นครองราชย์แทน ทรงพระนาม พระเจ้าปเย สมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยาทรงเล็งเห็นว่า อาจเป็นโอกาสที่อำนาจของพม่าในล้านนาเริ่มคลอนแคลน ควรจะส่งทัพไปโจมจับล้านนามาเป็นเมืองขึ้น จึงทรงดำเนินการตามนั้น แม้การทัพครั้งนี้จะทำได้เพียงยึดลำปางและเมืองเล็กเมืองน้อยแห่งอื่น ๆ แต่ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1662 ก็เบนเข็มไปเมาะตะมะ ครั้งนี้ยึดชายฝั่งตะนาวศรีตอนบนได้ โชคยังดีสำหรับพม่าที่ปัญหากับจีนได้สิ้นลง จึงส่งทัพบกทัพเรือมายึดเมาะตะมะและทวายคืนได้ภายในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1662 แล้วยกตามตีทัพอยุธยาที่ถอยหนีไป แต่ถูกอยุธยาตีโต้บริเวณกาญจนบุรี เสียหายยับเยิน[3][4]
การรุกรานครั้งที่สอง
แก้กรุงศรีอยุธยาส่งทัพไปยึดล้านนาอีกครั้ง การบุกเข้านครเชียงใหม่ครั้งนี้ทำให้เหล่าผู้ปกครองชาวพม่าในล้านนาต้องตื่นตระหนก ทัพอยุธยายึดเชียงใหม่ได้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1663 ทัพหนุนพม่าที่มาช่วยล่าช้าก็ถูกตีแตกจนต้องร่นหนี ครั้นเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1663 อยุธยารุกเข้าตะนาวศรีเป็นสองทาง คือ เมาะตะมะกับมะละแหม่งทางเหนือ และทวายทางใต้ ทัพพม่าต้านการโจมตีจากอยุธยาไว้ได้จนถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1664 ซึ่งเข้าฤดูฝน ทำให้อยุธยาก็ถอยกลับไป
ขณะเดียวกัน ทัพอยุธยาที่ประจำอยู่ในเชียงใหม่ถูกล้อมกักไว้ในเมืองร้างเมืองหนึ่ง และถูกกองกำลังต่อต้านลอบโจมตีทุกครั้งที่ก้าวออกนอกเมือง จนปลายเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1664 ทัพอยุธยาจึงกวาดครัวอพยพกลับไปอยุธยา[5]
ผลสืบเนื่อง
แก้เหตุการณ์เหล่านี้นับเป็นการศึกใหญ่ครั้งสุดท้ายระหว่างตองอูกับอยุธยาจนถึง ค.ศ. 1760 กระนั้น ก็มีการปะทะกันประปรายในช่วง ค.ศ. 1675–1676 และ ค.ศ. 1700–1701
อ้างอิง
แก้- ↑ Keay, John (2008). China: A History. Harper. p. 410.
- ↑ Dennerline 2002, p. 117.
- ↑ Phayre 1967: 139
- ↑ Harvey 1925: 198
- ↑ Hmannan Vol. 3 2003: 277
บรรณานุกรม
แก้- Dennerline, Jerry (2002), "The Shun-chih Reign", ใน Peterson, Willard J. (บ.ก.), Cambridge History of China, Vol. 9, Part 1: The Ch'ing Dynasty to 1800, Cambridge University Press, pp. 73–119, ISBN 978-0-521-24334-6
- "Driving Distance Calculator and Driving Direction Myanmar". Distance Calculator. GlobeFeed.com. สืบค้นเมื่อ 22 November 2019.
- Harvey, G. E. (1925). History of Burma: From the Earliest Times to 10 March 1824. London: Frank Cass & Co. Ltd.
- Keay, John (2008). China: A History. Harper.
- Kohn, George Childs (1999). Dictionary of Wars (Revised ed.). New York: Facts on File, Inc. ISBN 0-8160-3928-3.
- Phayre, Lt. Gen. Sir Arthur P. (1883). History of Burma (1967 ed.). London: Susil Gupta.
- Rajanubhab, Prince Damrong (2001). Our Wars With the Burmese. Bangkok: White Lotus. ISBN 9747534584.
- Smith, Robert (2017). The Kings of Ayutthaya: A Creative Retelling of Siamese History. Silkworm Books. ISBN 9786162151347. สืบค้นเมื่อ 21 November 2019.
- Vandenberg, Tricky; May, Ken (2020). "Historical Events - 1650-1699". History of Ayutthaya (ภาษาอังกฤษ). Ayutthaya Historical Research (AHR). สืบค้นเมื่อ 21 November 2019.
- Wood, W.A.R. (1924). A History of Siam. London: T Fisher Unwin Ltd. สืบค้นเมื่อ 21 November 2019.