วันชาติ (ประเทศญี่ปุ่น)
วันชาติ[1] (ญี่ปุ่น: 建国記念の日; โรมาจิ: Kenkoku Kinen no Hi) เป็นวันหยุดราชการในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์[2] ในวันนี้ ชาวญี่ปุ่นเฉลิมฉลองการก่อตั้งชาติและเชื้อสายจักรพรรดิตามจักรพรรดิในตำนานพระองค์แรก จิมมุ ผู้ซึ่งได้สร้างเมืองหลวงขึ้นที่ยาโมโตะ เมื่อ 660 ปีก่อนคริสตกาล[3]
วันชาติ | |
---|---|
จัดขึ้นโดย | ญี่ปุ่น |
ประเภท | วันหยุดประจำชาติ |
ความสำคัญ | ฉลองการสถาปนาประเทศ |
วันที่ | 11 กุมภาพันธ์ |
ความถี่ | ทุกปี |
ครั้งแรก | ค.ศ. 1966 |
ส่วนเกี่ยวข้อง | วันจักรวรรดิ |
ประวัติ
แก้ที่มาของวันตั้งชาติคือวันขึ้นปีใหม่ในปฏิทินสุริยจันทรคติดั้งเดิม ซึ่งในวันนั้น การก่อตั้งญี่ปุ่นโดยจักรพรรดิจิมมุได้มีการเฉลิมฉลองตามนิฮงโชกิ (日本書紀) ซึ่งกล่าวไว้ว่า จักรพรรดิจิมมุทรงขึ้นครองราชย์ในวันแรกของเดือนแรก
ในยุคเมจิ รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการ ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันกับการเปลี่ยนปฏิทินสุริยจันทรคติเป็นปฏิทินเกรโกเรียน ใน ค.ศ. 1873 หนึ่งปีก่อนหน้านั้น เมื่อวันหยุดราชการนี้ได้รับการประกาศขึ้นอย่างเป็นทางการ[4] ซึ่งตรงกับวันที่ 29 มกราคมในปฏิทินเกรโกเรียน ซึ่งสอดคล้องกันกับวันขึ้นปีใหม่ของชาวญี่ปุ่น ค.ศ. 1873 รัฐบาลกล่าวว่ามันสอดคล้องกันกับวันขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิจิมมุ แต่มิได้ตีพิมพ์วิธีการคำนวณที่แม่นยำนัก
ในรูปแบบดั้งเดิม วันตั้งชาติได้ถูกตั้งชื่อว่า "วันจักรวรรดิ" (紀元節, Kigensetsu)[5] เป็นที่คาดกันว่าสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิอาจทรงต้องการให้สถาปนาวันหยุดราชการดังกล่าวขึ้นเพื่อสนับสนุนความชอบธรรมของราชวงศ์หลังจากการล้มล้างรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ วันหยุดประจำชาติดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่เชื่อว่าการรวมความสนใจของชาติไปยังองค์จักรพรรดิจะช่วยในจุดประสงค์ด้านความเป็นเอกภาพ[6] การเชื่อมโยงการปกครองของพระองค์เข้ากับจักรพรรดิพระองค์แรกในตำนาน จักรพรรดิจิมมุ และอามาเตราซุ จักรพรรดิเมจิจึงทรงสถาปนาพรองค์เป็นผู้ปกครองอย่างชอบธรรมแต่เพียงผู้เดียวในญี่ปุ่น[7]
ด้วยการเดินขบวนและการเฉลิมฉลองขนาดใหญ่ วันจักรพรรดินี้จึงได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในสี่วันหยุดใหญ่ในญี่ปุ่น[8]
เนื่องจากการเชื่อในตำนานชินโตและการสนับสนุนชนชั้นสูงของญี่ปุ่น วันจักรพรรดินี้จึงถูกยกเลิกไปหลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติ และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ยังเป็นวันที่พลเอกดักลาส แมคอาเธอร์ได้รับรองฉบับร่างของแบบรัฐธรรมนูญใน ค.ศ. 1946[9]
วันหยุดเพื่อเป็นการระลึกถึงได้ถูกจัดขึ้นมาอีกครั้งเป็นวันตั้งชาติใน ค.ศ. 1966[10] ซึ่งถึงแม้ว่าจะลดการอ้างถึงจักรพรรดิลงอย่างมากแล้วก็ตาม วันตั้งชาติยังคงเป็นวันสำหรับแสดงความรักชาติในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950[11]
อ้างอิง
แก้- ↑ วันหยุดสถานเอกอัครราชทูตฯ.
- ↑ Hardacre, Helen. (1989). Shinto and the State, 1868-1988, pp. 101-102.
- ↑ Van Wolkeren, Karel. (1990). The Enigma of Japanese Power: People and Politics in a Stateless Nation, p. 60.
- ↑ Rimmer, Thomas et al. (2005). The Columbia Anthology of Modern Japanese Literature, p. 555 n1.
- ↑ American School in Japan: Japanese Holiday Traditions เก็บถาวร 2005-11-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. retrieved November 21, 2005
- ↑ Gluck, Carol. (1985) Japan's Modern Myths: Ideology in the Late Meiji Period, p. 85.
- ↑ Hiragana Times: Emperor JINMU เก็บถาวร 2006-06-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, retrieved November 21, 2005
- ↑ Bix, Herbert. (2000).Hirohito And The Making Of Modern Japan, p. 384
- ↑ Dower, John. (1999). Embracing Defeat: Japan in the Wake of World War II, p. 373.
- ↑ Lange, Stephen. (1992). Emperor Hirohito and Shōwa Japan: A Political Biography, p. 172.
- ↑ Neary, Ian. (1996). Leaders and Leadership in Japan, p. 239.
บรรณานุกรม
แก้- Bix, Herbert P. (2000). Hirohito And The Making Of Modern Japan. New York: HarperCollins. 10-ISBN 0-060-19314-x; 13-ISBN 978-0-060-19314-0 (cloth) 10-ISBN 0-060-93130-2; 13-ISBN 978-0-060-93130-8 (paper)
- Dower, John. (2000). Embracing Defeat: Japan in the Wake of World War II. New York: W. W. Norton & Company. 10-ISBN 0-393-04686-9; 13-ISBN 978-0-393-04686-1 (cloth) 10-ISBN 0-393-32027-8; 13-ISBN 978-0-393-32027-5 (paper)
- Gluck, Carol. (1985) Japan's Modern Myths: Ideology in the Late Meiji Period. Princeton: Princeton University Press. 10-ISBN 0-691-05449-5; 13-ISBN 978-0-691-05449-0 (cloth) 10-ISBN 0-691-00812-4; 13-ISBN 978-0-691-00812-7
- Hardacre, Helen. (1989). Shinto and the State, 1868-1988. Princeton: Princeton University Press. 10-ISBN 0-691-07348-1; 13-ISBN 978-0-691-07348-4 (cloth) 10-ISBN 0-691-02052-3; 13-ISBN 978-0-691-02052-5 (paper)
- Hutchinson, John and Anthony David Smith. (2000). Nationalism: Critical Concepts in Political Science. London: Routledge. 10-ISBN 0-415-20109-8; 13-ISBN 978-0-415-20109-4
- Lange, Stephen. (1992). Emperor Hirohito and Shōwa Japan: A Political Biography. London: Routledge. 10-ISBN 0-415-03203-2; 13-ISBN 978-0-415-03203-2 (cloth) 10-ISBN 0-415-15379-4; 133-ISBN 978-0-415-15379-9
- Neary, Ian. (1996). Leaders and Leadership in Japan. London: RoutledgeCurzon. 10-ISBN 1-873-41041-7; 13-ISBN 978-1-873-41041-7 (cloth)
- Rimmer, Thomas and Van C. Gessel. (2005). The Columbia Anthology of Modern Japanese Literature. New York: Columbia University Press. 10-ISBN 0-231-13804-0; 13-ISBN 978-0-231-13804-8
- Van Wolkeren, Karel. (1989). The Enigma of Japanese Power: People and Politics in a Stateless Nation. New York: Knopf. 10-ISBN 0-394-57796-5; 13-ISBN 978-0-394-57796-8 (cloth) [reprinted by Vintage Books, New York, 10-ISBN 0-679-72802-3; 13-ISBN 978-0-679-72802-3 (paper)