วัดโกเมศรัตนาราม

วัดในจังหวัดปทุมธานี

วัดโกเมศรัตนาราม เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 4 บ้านศาลาพัน ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

วัดโกเมศรัตนาราม
แผนที่
ที่ตั้งเลขที่ 134 หมู่ที่ 4 ถนนแสงน้ำ ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 12160
ประเภทวัดราษฎร์
นิกายธรรมยุติกนิกาย
เจ้าอาวาสพระธรรมเมธาจารย์ (อิ่ม อรินฺทโม)
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

ผู้ริเริ่มสร้างวัดคือนางตวงรัตน์ โกเมศ ได้กราบเรียนปรึกษากับสมเด็จพระวันรัต (จับ ฐิตธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ท่านได้มอบหมายให้พระธรรมเมธาจารย์ (อิ่ม อรินฺทโม) เป็นผู้ควบคุมดูแลการสร้างวัดฝ่ายสงฆ์ มีการตรวจดูสถานที่ที่จะสร้างวัดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2527 ที่ดินมีเนื้อที่จำนวน 42 ไร่เศษ ทั้งหมดเป็นของนางตวงรัตน์ แต่ขณะนั้นที่ดินยังอยู่กลางทุ่งนา ไม่มีทางเข้าออก จึงได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทั้งกำนันและผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 และชาวบ้านในละแวกนั้น เพื่อขอที่ดินบางส่วนทำถนนเข้าวัด ได้สร้างถนนเลียบคลองเปรมประชากรเข้าไป ถนนกว้าง 8 เมตร ยาว 1,300 เมตร เมื่อ พ.ศ. 2528 ใช้เวลา 8 เดือน

พระธรรมเมธาจารย์ได้กำหนดการวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2529 โดยมีสมเด็จพระวันรัต (จับ ฐิตธมฺมเถร) เป็นประธานในพิธี เพื่อสร้างวัดและโรงเรียนพระปริยัติธรรมสำหรับให้เป็นที่ศึกษาศิลปวิทยาการทั้งทางโลกและทางธรรมของพระภิกษุสามเณร

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2529 ได้เริ่มก่อสร้างหอสวดมนต์ โดยได้ตั้งชื่อว่า ศาลาสวาสดิ์โกเมศ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่นางสวาสดิ์ โกเมศ มารดาของผู้สร้างวัด ศาลาสวาสดิ์โกเมศเป็นอาคาร 2 ชั้น มีกุฏิ 5 หลังทรงไทยคล้ายคุ้มขุนแผน ขนาดกว้าง 28 เมตร ยาว 29 เมตร ชั้นบนหอกลางใช้สำหรับสวดมนต์ไหว้พระและทำสังฆกรรม ชั้นล่างใช้เป็นห้องเรียนชั่วคราวของพระภิกษุสามเณรนักเรียน ต่อมาใน พ.ศ. 2553 ทางวัดได้เปิดการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา (ปริญญาตรี) สาขารัฐศาสตร์การปกครองขึ้น โดยรับทั้งภิกษุสามเณรและประชาชนทั่วไปเข้ามาศึกษา[1]

จากข้อมูลของกรมการศาสนา วัดโกเมศรัตนารามตั้งวัดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2532 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538[2]

อ้างอิง

แก้
  1. "นำเที่ยววัดโกเมศรัตนาราม ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี".
  2. "รายงานทะเบียนวัด จังหวัดปทุมธานี" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-01-25. สืบค้นเมื่อ 2021-03-17.