ยัง หาญทะเล เป็นนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงในยุคมวยคาดเชือก เขาเป็นลูกศิษย์ และเป็นทหารคนสำคัญของกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ นอกจากนี้ ยัง หาญทะเล ยังเป็นเพื่อนร่วมวงการกับทับ จำเกาะ ผู้เป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน ซึ่งยัง หาญทะเล เคยประลองฝีมือกับนักมวยจีน และทำให้อีกฝ่ายถึงแก่ความตายไปสองราย[3]

ยัง หาญทะเล
ฉายาพญาเสือโคร่ง
เสือลายพาดกลอนจากที่ราบสูง[1]
เทรนเนอร์กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์[2]
พระเหมสมาหาร[1]

ประวัติ แก้

ไฟล์:การแข่งขันกรีฑานักเรียน.jpg
การชกระหว่างยัง หาญทะเล (ขวา) กับไล่ หู นักมวยจีน (ซ้าย) ที่สนามโรงเรียนสวนกุหลาบ เมื่อ พ.ศ. 2465

ยัง หาญทะเล เป็นชาวโคราช ซึ่งเป็นศิษย์ของพระเหมสมาหาร ต่อมา เขาได้เดินทางไปชกมวยที่กรุงเทพพร้อมกับหมื่นชงัดเชิงชก, ทับ จำเกาะ, ตู้ ไทยประเสริฐ และพูน ศักดา[1]

ยัง หาญทะเล เป็นเพื่อนของทับ จำเกาะ ซึ่งเป็นนักมวยไทยคาดเชือกร่วมวงการ ที่ได้รับการอุปการะจากกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ไปฝึกมวยที่วังเปรมประชากรจนมีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน[1]

ครั้งหนึ่ง เมื่อทับ จำเกาะ เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมของตน ได้มีการเรียกร้องให้ยัง หาญทะเล แข่งมวยไทย โดยพระยานนทิเสนสุเรนทรภักดีได้ทำการปรึกษากับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และเพื่อนที่เป็นพ่อค้าในสังกัดกรมท่าซ้าย กระทั่งยัง หาญทะเล มีโอกาสประลองมวยกับจอมยุทธชาวจีน นามว่า จิ๊ฉ่าง ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นนักมวยจีนชาวฮ่องกงที่มีฝีมือเก่งกาจ (บางแห่งกล่าวว่าเขาเป็นชาวจีนกวางตุ้งในประเทศไทย) โดยเป็นครูมวยจีนอยู่แถวสำเพ็ง ซึ่งทั้งคู่แข่งขันกันใน วันมังกรสู้เสือ โดยในการแข่งขันครั้งนี้ มีวงปี่กลองของหมื่นสมัครเสียงประจิต ทำหน้าที่บรรเลงดนตรี[4] และยัง หาญทะเล เป็นฝ่ายชนะ

ส่วนการแข่งขันระหว่าง ยัง หาญทะเล กับนิยม ทองชิตร ที่กระทรวงธรรมการ (หรือกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน) ที่ได้จัดขึ้น ผลปรากฏว่ายัง หาญทะเล เป็นฝ่ายแพ้ นอกจากนี้ เขายังเคยแข่งกับนักมวยจีน ชื่อ ไล่ หู ที่สนามโรงเรียนสวนกุหลาบ เมื่อ พ.ศ. 2465 [5]

อนึ่ง มีตำนานกล่าวถึงเหตุการณ์ที่กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ได้นำผ้าเจียดจากอาจารย์ศุข วัดมะขามเฒ่า มาแจกให้แก่ทหารเรือ และทรงให้ทำการทดลองอาคมในการลงไปแหวกว่ายน้ำทะเลท่ามกลางฝูงปลาฉลาม แต่ไม่มีใครกล้าเสี่ยง ยกเว้นยัง หาญทะเล ที่รับอาสาทดลอง เขากระโดดจากเรือลงสู่ทะเล และสามารถยืนบนผิวน้ำทะเลท่ามกลางฝูงปลาฉลาม ได้โดยมิได้รับอันตรายใด ๆ ท่ามกลางสายตาของเหล่าทหารเรือมาแล้วครั้งหนึ่ง[6]

สิ่งสืบทอด แก้

ท่าคุมมวยของยัง หาญทะเล เป็นหนึ่งในท่าคุมมวยยุคคาดเชือกที่ได้รับการกล่าวขานสืบมา โดยครั้งหนึ่งอาจารย์เขตร ศรียาภัย ผู้เป็นปรมาจารย์มวยไทย ได้กล่าวถึงท่าคุมมวยที่มีชื่อเสียงของยัง หาญทะเล เมื่อครั้งที่แข่งกับฮกหลิม ทวีสิทธิ์ ว่า ใช้สองแขนไขว้ถึงระดับยอดคาง เลื่อนลงคุมลิ้นปี่และราวอก ย่อเข่าแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นลงตามแบบฉบับของมวยนครราชสีมา[7]

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 ครูมวยโคราช ที่สำคัญในสมัยรุ่งเรือง[ลิงก์เสีย]
  2. สมบัติ สวางควัฒน์. (2554). ย้อนตำนานแวดวงมวยไทย จากอดีตถึงปัจจุบัน. สำนักพิมพ์ ก้าวแรก. ISBN 978-616-7446-13-4. หน้า 165-166
  3. เจนจบ ยิ่งสุมล. (ตุลาคม 2553). ๑๓๐ ปี ไม่มีวันตาย พลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์. สำนักพิมพ์ DK พับลิชิ่ง. ISBN 978-616-7327-07-5. หน้า 88
  4. สมบัติ สวางควัฒน์. (2554). ย้อนตำนานแวดวงมวยไทย จากอดีตถึงปัจจุบัน. สำนักพิมพ์ ก้าวแรก. ISBN 978-616-7446-13-4. หน้า 91
  5. เมื่อสวนกุหลาบจัดมวย
  6. เจนจบ ยิ่งสุมล. (ตุลาคม 2553). ๑๓๐ ปี ไม่มีวันตาย พลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์. สำนักพิมพ์ DK พับลิชิ่ง. ISBN 978-616-7327-07-5. หน้า 87-90
  7. สมบัติ สวางควัฒน์. (2554). ย้อนตำนานแวดวงมวยไทย จากอดีตถึงปัจจุบัน. สำนักพิมพ์ ก้าวแรก. ISBN 978-616-7446-13-4. หน้า 105, 107

แหล่งข้อมูลอื่น แก้