มือพังโบเช
มือพังโบเช (อังกฤษ: Pangboche Hand) โครงกระดูกมือลึกลับที่เชื่อกันว่าเป็นกระดูกมือของเยติ หรือมนุษย์หิมะ สัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างใหญ่โตเหมือนมนุษย์ แต่มีขนดกปกคลุมทั้งตัว ยกเว้นใบหน้า ที่มีผู้พบเห็นจำนวนมากและอยู่ในความเชื่อของชาวพื้นเมืองที่เทือกเขาหิมาลัย
กระดูกชิ้นดังกล่าวถูกเก็บอยู่ในวัดทางพุทธศาสนาแบบทิเบตแห่งหนึ่ง ที่พังโบเช ในหมู่บ้านคุมจุง ทางภาคกลางตอนเหนือของเนปาล พร้อมกับสิ่งที่เชื่อกันว่าเป็นหนังหัวของเยติ (ปัจจุบัน หนังหัวชิ้นดังกล่าวได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า เป็นหนังหัวของสัตว์กีบจำพวกแอนทิโลปหรือแพะภูเขา[1][2]) เป็นที่รู้จักจากการที่มหาเศรษฐีและนักผจญภัยกลางแจ้งชาวอเมริกัน ทอม สลิก ได้ออกเดินทางไปเนปาลพร้อมด้วยคณะสำรวจเพื่อตามหาเยติเมื่อปลายยุคทศวรรษที่ 1950 ปีเตอร์ เบิร์น หนึ่งในคณะสำรวจเล่าว่า ในปี ค.ศ. 1959 เขาได้ทราบจากชาวบ้านว่าที่วัดแห่งนี้มีกระดูกมือของเยติอยู่ จึงได้เข้าไปดู ลามะที่วัดให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีที่วัดในห้องที่ลงกลอนกุญแจอย่างหนาแน่น โดยเก็บไว้ในกล่อง เมื่อหยิบออกมาก็พบเป็นกระดูกมือที่ทำให้แห้ง เป็นมือขนาดเท่ากับมือผู้ชายทั่วไป เมื่อเบิร์นถามว่า ขอได้ไหม ลามะตอบว่า ไม่ได้ แต่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้ เบิร์นจึงถ่ายรูปไว้และส่งรูปไปที่ลอนดอน ให้กับนักวานรวิทยา ออสมอน ฮิลล์ ซึ่งฮิลล์ตอบกลับมาว่า ต้องได้มือนั้นมาหรือได้ตัวอย่างบางส่วน ที่สุดลามะรูปที่อาวุโสรูปหนึ่งอนุญาตให้เบิร์นนำชิ้นส่วนที่เป็นนิ้วมือไปได้ และทิ้งที่เหลือเอาไว้ เขาจึงติดต่อไปยังสลิกด้วยโทรเลขว่าได้นิ้วมือมาแล้ว และจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อ สลิกตอบมาว่าให้เดินทางไปยังกัลกัตตา เบิร์นจึงออกเดินทางด้วยรถไฟไปยังกัลกัตตา เพื่อพบกับดาราฮอลลีวูดชื่อดัง เจมส์ สจวต และภรรยาของเขา กลอเรีย สจวต ทั้งหมดนัดพบกันที่โรงแรมแกรนด์ เมื่อได้เห็นตัวอย่างนิ้วมือแล้ว คู่สามีภรรยาสจวตกังวลเรื่องด่านศุลกากรที่กัลกัตตา คุณนายสจวตจึงเก็บนิ้วนั้นไว้ในกล่องใส่ชุดชั้นในของเธอ เมื่อไปถึงลอนดอน ปรากฏว่ากล่องชุดชั้นในนั้นหายไป แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน ที่โรงแรมคลาริต มีผู้ชายคนหนึ่งมาที่แผนกต้อนรับของโรงแรม แจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ศุลกากรต้องการพบ เจมส์ สจวต จึงบอกให้มา เจ้าหน้าที่ศุลกากรคนหนึ่งได้นำกล่องชุดชั้นในของคุณนายสจวตมาด้วยและยื่นให้เธอ เธอกล่าวขอบคุณและถามว่า คุณไม่ได้เปิดดูใช่ไหม เจ้าหน้าที่ผู้นั้นตอบว่า พนักงานศุลกากรอังกฤษไม่เคยเปิดกล่องชุดชั้นในผู้หญิง ทั้งหมดนั่นคือ วิธีที่นิ้วมือนั้นออกจากเนปาลไปยังอังกฤษเพื่อทำการตรวจสอบโดยนักวิทยาศาสตร์[2]
ออสมอน ฮิลล์ ได้ทำการตรวจสอบอยู่หลายครั้ง พบว่าเป็นนิ้วหัวแม่มือ แต่ไม่ใช่นิ้วมนุษย์ จนกระทั่งฮิลล์ถึงแก่กรรมลงไป ไม่มีใครรู้ว่านิ้วนั้นอยู่ที่ไหน[2] จนกระทั่งในปลายปี ค.ศ. 2011 มีประกาศว่านิ้วมือนั้นมีดีเอ็นเอของมนุษย์อยู่ และกำลังอยู่ในการดำเนินการตรวจสอบที่เอดินบะระ[3]
อ้างอิง
แก้- ↑ "บันทึกการเดินเท้า ๑๔ วันในหุบเขาโซลู-คุมบู ...บนเส้นทางสู่เอเวอเรสต์". สารคดี.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 "สารคดี ค้นหาสัตว์ประหลาด ตอน สารคดี ค้นหาสัตว์ประหลาด ตอน l มนุษย์หิมะ เยติ Monsterquest - Yeti". แอนนิมอล Documentary. 2016-10-25. สืบค้นเมื่อ 2016-11-16.
- ↑ "Yeti finger mystery solved by Edinburgh scientists". บีบีซี.