พอล นีล "เรด" อแดร์ (อังกฤษ: Paul Neal "Red" Adair; 18 มิถุนายน ค.ศ. 19157 สิงหาคม ค.ศ. 2004 [3][4][5]) เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบ่อน้ำมันชาวอเมริกัน เขากลายมาเป็นผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ในฐานะผู้ริเริ่มความเชี่ยวชาญระดับสูงและอาชีพดับเพลิงที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงการระเบิดของบ่อน้ำมันไหลทะลัก ทั้งฐานในฝั่งและนอกฝั่ง

เรด อแดร์
เรด อแดร์ ใน ค.ศ. 1964
เกิด18 มิถุนายน ค.ศ. 1915(1915-06-18)
ฮิวสตัน รัฐเท็กซัส
เสียชีวิต7 สิงหาคม ค.ศ. 2004(2004-08-07) (89 ปี)
ฮิวสตัน รัฐเท็กซัส[1][2]
อาชีพเจ้าหน้าที่ดับเพลิง

ประวัติและผลงานในระดับอาชีพ แก้

อแดร์เกิดที่ฮิวสตัน รัฐเท็กซัส โดยเป็นบุตรชายของช่างตีเหล็กชาวไอริช[6] และได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนมัธยมเรแกน เขาเริ่มทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงบ่อน้ำมันภายหลังจากการทำหน้าที่ของหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเขาเริ่มต้นอาชีพการทำงานให้แก่ไมรอน คินลีย์ ผู้ซึ่งเป็น"ต้นฉบับ"ของผู้ริเริ่มการดับเพลิงจากน้ำมันและระเบิด เขาได้ก่อตั้งบริษัท เรด อแดร์ จำกัด ใน ค.ศ. 1959 และเกินกว่าวิถีทางอาชีพของเขาสำหรับการต่อสู้กว่า 2,000 ครั้งที่บ่อน้ำมันทั้งในฝั่งและนอกฝั่ง ตลอดจนบ่อก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการดับเพลิงที่น่าตื่นเต้นแบบเดียวกันนี้ อแดร์ได้รับความสนใจจากทั่วโลกใน ค.ศ. 1962 เมื่อเขาได้จัดการกับเปลวเพลิงที่แหล่งแก๊สที่มีชื่อว่าแกสซีทูวิลในทะเลทรายสะฮารา ประเทศแอลจีเรีย ที่ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นไฟแช็กของซาตาน โดยเปลวเพลิงสูง 450 ฟุต (140 เมตร) ได้คุกรุ่นตั้งแต่เวลาเที่ยงวันของวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1961 จนถึงเวลาเก้าโมงครึ่งของวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1962 ส่วนในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1968 อแดร์ได้ทำการปิดทางแก๊สรั่วขนาดใหญ่ที่แท่นแก๊สและน้ำมันออสเตรเลียที่ห่างออกไปจากชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐวิกตอเรีย[2]

ใน ค.ศ. 1977 เขาและทีมงานของเขา (แอสเกอร์ "บูตส์" แฮนเซน) ได้มีส่วนช่วยในการหยุดบ่อน้ำมันไหลทะลักครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในทะเลเหนือ (และเป็นการไหลทะลักนอกฝั่งครั้งใหญ่สุดของโลก ตามแง่ของปริมาณน้ำมันดิบที่รั่วไหล[7]) ที่แท่นขุดเจาะเอโคฟิสค์บราโว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ดำเนินการของนอร์เวย์โดยบริษัทฟิลิปส์ปิโตรเลียม (ปัจจุบันคือ โคโนโคฟิลิปส์) โดยใน ค.ศ. 1978 สมาชิกทีมระดับสูงของอแดร์ชื่อ แอสเกอร์ "บูตส์" แฮนเซน และ เอ็ด "คูตส์" แมตทิวส์ ได้ออกไปเพื่อก่อตั้งบริษัทบูตส์แอนด์คูตส์อินเตอร์เนชันแนลเวลคอนโทรลอิงค์ และใน ค.ศ. 1988 เขาได้ทำหน้าที่ในทะเลเหนืออีกครั้ง ที่ซึ่งเขาได้ช่วยทำการดับเพลิงแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีชื่อว่าไพเพอร์อัลฟาของสหราชอาณาจักร เมื่ออแดร์มีอายุได้ 75 ปี เขาได้มีส่วนร่วมในการดับเพลิงบ่อน้ำมันในชุดคูเวต โดยร่นถอยไปจากทัพอิรักภายหลังจากสิ้นสุดสงครามอ่าวเปอร์เซียใน ค.ศ. 1991

อแดร์ได้เกษียณใน ค.ศ. 1993 และขายเรด อแดร์ เซอร์วิส แอนด์ มารีนคอมปะนี ให้แก่โกลบอลอินดัสทรีส์[8] รวมถึงพนักงานระดับสูงของเขา (ไบรอัน กรอส, เรย์มอนด์ เฮนรี, ริช แฮตต์เบิร์ก) ได้ออกไปใน ค.ศ. 1994 และตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ อินเตอร์เนชันแนลเวลคอนโทรล (ไอดับเบิลยูซี) ส่วนใน ค.ศ. 1997 บริษัทอินเตอร์เนชันแนลเวลคอนโทรลได้ซื้อส่วนที่เหลืออยู่ของบูตส์แอนด์คูตส์ และบริษัทก็ได้กลายเป็น บูตส์แอนด์คูตส์/ไอดับเบิลยูซี[8] ซึ่งอแดร์ได้เสียชีวิตใน ค.ศ. 2004 สิริอายุได้ 89 ปี[3] และบริษัทบูตส์แอนด์คูตส์/ไอดับเบิลยูซี ได้ถูกขายให้แก่บริษัทฮาลลิเบอร์ตัน เมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 2010 [9]

สิ่งสืบทอด แก้

 
ถนนโดยรอบเซาท์ชอร์ฮาร์เบอร์อารีนาในลีกจ์ซิตี รัฐเท็กซัส ที่ซึ่งอแดร์ได้เก็บเรือของเขา ได้รับการตั้งชื่อตามชื่อของอแดร์
  • ภาพยนตร์ ค.ศ. 1968 ของจอห์น เวย์น เรื่อง Hellfighters มีการอิงความสามารถของอแดร์ในช่วงทะเลทรายสะฮาราลุกเป็นไฟใน ค.ศ. 1962 อย่างคร่าว ๆ[10]
  • รายการโมเดิร์นมาร์เวลส์ ของช่องฮิสทรี ในตอน "ดับเพลิงบ่อน้ำมัน" ซึ่งเป็นหนึ่งในการให้สัมภาษณ์ของอแดร์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต โดยตอนดังกล่าวได้ออกอากาศหลังจากการเสียชีวิตของอแดร์ และได้มีการแสดงคำอุทิศเพื่อระลึกถึงเขา
  • อแดร์ได้มีส่วนร่วมกับโรเล็กซ์และอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ในแคมเปญโฆษณาช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980

อ้างอิง แก้

  1. "Red Adair, Famed for Taming Oil Well Fires, Dies at 89". The New York Times. 9 August 2004. สืบค้นเมื่อ 31 January 2012.
  2. 2.0 2.1 "Oil well firefighter Red Adair dies". The Age. 10 August 2004. สืบค้นเมื่อ 13 July 2011.
  3. 3.0 3.1 Obituary: Red Adair, BBC News, August 8, 2004
  4. Obituary: Red Adair, The Guardian, August 9, 2004
  5. Official site of Red Adair
  6. BBC News Obituary: Red Adair
  7. Oil Rig Disasters / 5 Worst Offshore Blowouts, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-28, สืบค้นเมื่อ 5 April 2013
  8. 8.0 8.1 ""Boots, Coots, Roots" at Boots and Coots/IWC". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-12. สืบค้นเมื่อ 2013-11-03.
  9. Boots & Coots History, Halliburton Company, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-01, สืบค้นเมื่อ 5 April 2013
  10. 'Hellfighter' Red Adair Dies At 89 - CBS News[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

  วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เรด อแดร์